กรุงเทพฯ 10 ส.ค. – สศก. คาดการณ์ภาวะเศรษฐกิจการเกษตรในไตรมาส 2 ปี 2564 ขยายตัวร้อยละ 1.2 โดยโควิด-19 กระทบการบริโภคสินค้าเกษตรในประเทศ ช่วง 5 เดือน เสียหายกว่า 13,000 ล้านบาท
นายฉันทานนท์ วรรณเขจร เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) โฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เปิดเผยว่า ภาวะเศรษฐกิจการเกษตรในไตรมาส 2 (เมษายน-มิถุนายน) ปี 2564 สศก. พบว่า ขยายตัวร้อยละ 1.2 โดยปรับตัวดีขึ้น เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ของปี 2563 ที่หดตัว ถึงร้อยละ 3.1 เนื่องจากปริมาณน้ำฝนที่เพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2563 และช่วงต้นปี 2564 ส่งผลให้เกษตรกรสามารถทำการเพาะปลูกได้มากขึ้น รวมทั้งสภาพอากาศโดยทั่วไปที่เอื้ออำนวย และไม่ประสบปัญหาภัยแล้งที่รุนแรง ทำให้สถานการณ์การผลิตพืชและปศุสัตว์ดีกว่าปีที่ผ่านมา อีกทั้งราคาสินค้าเกษตรหลายชนิดปรับตัวสูงขึ้น จูงใจให้เกษตรกรเพิ่มปริมาณการผลิต โดยแนวโน้มเศรษฐกิจการเกษตร ทั้งปี 2564 สศก. ยังคาดว่า จะขยายตัวอยู่ในช่วงร้อยละ 1.7 – 2.7
ทั้งนี้ จากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอกใหม่ซึ่งรุนแรงและน่าจะยืดเยื้อ จึงทำให้ เศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลัง มีแนวโน้มเผชิญกับความเสี่ยงและมีความไม่แน่นอนสูง ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทยคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวช้าลง โดยขยายตัวเพียงร้อยละ 0.7 (ข้อมูล ณ วันที่ 4 สิงหาคม 2564)
จากการวิเคราะห์ผลกระทบโควิด-19 พบว่า ภาคเกษตรได้รับผลกระทบจากโควิด-19 น้อยที่สุด เมื่อเทียบกับภาคอื่นๆ โดยผลกระทบที่ได้รับมีสาเหตุหลักมาจากกำลังซื้อของผู้บริโภคต่อสินค้าเกษตรที่อ่อนตัวลง เพราะมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งตั้งแต่เดือนเมษายนถึงปัจจุบัน มูลค่าทางเศรษฐกิจการเกษตรในส่วนการบริโภคสินค้าเกษตรในประเทศลดลงรวม 13,895 ล้านบาท. – สำนักข่าวไทย