นครราชสีมา 7 ส.ค.- จากคลิปตำรวจทางหลวงเขียนใบสั่งรถกู้ภัย ที่รับผู้ป่วยโควิด-19 กลับภูมิลำเนา แจงรถขับมาด้วยความเร็ว วิ่งยาวในช่องทางด้านขวา พร้อมเปิดสัญญาณไฟวับวาบโดยในรถไม่มีผู้ป่วย กลัวคนขับแอบอ้างในทางที่ผิด สุดท้ายจบลงด้วยดี แค่ว่ากล่าวตักเตือน ไม่มีการสั่งปรับแต่อย่างใด
คลิปเหตุการณ์เมื่อวันที่ 5 สิงหาคมที่ผ่านมา บริเวณถนนสายนครราชสีมา-กบินทร์บุรี อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา ขณะตำรวจทางหลวงนครราชสีมากำลังเขียนใบสั่ง รถตู้สีม่วง ของนายอุทิศ บุญมา อาสาสมัครกู้ภัย จ.สุรินทร์ ที่กำลังขับรถตู้ไปรับผู้ป่วยโควิด-19 ที่ จ.ชลบุรี กลับบ้านเกิดที่ จ.สุรินทร์ ขณะเกิดเหตุเป็นรถตู้เปล่า ยังไม่ได้รับผู้ป่วย ตำรวจจึงออกใบสั่งให้ไปเสียค่าปรับเป็นเงิน 2,000 บาท พร้อมกับมีเสียงโอดครวญของเจ้าของรถตู้ระบายความในใจ ว่าอยากจับๆ ไป ที่อื่นเขาช่วยเหลือกัน น่าจะเห็นใจกันบ้าง
หลังมีคลิปเผยแพร่ออกไป พ.ท.วิษณุ คำโนนม่วง สารวัตรตำรวจทางหลวง 1 กองกำกับการ 6 นครราชสีมา ชี้แจงว่าสาเหตุที่ออกใบสั่งเพื่อความปลอดภัย เห็นเป็นรถตู้สีม่วง ไม่มีสัญลักษณ์กู้ภัย ไม่มีผู้ป่วย กลัวจะแอบอ้างในทางที่ผิด ซึ่งพฤติการณ์คนขับ ขับมาด้วยความเร็ว วิ่งยาวในช่องทางด้านขวา พร้อมเปิดสัญญาณไฟวับวาบ รถตรวจการณ์ตำรวจทางหลวง 6122 ได้กดแตรสัญญาณเตือน เพื่อให้เข้าช่องทางซ้าย แต่รถตู้คันดังกล่าวไม่ปฏิบัติตาม จึงกดสัญญาณไซเรนอีก 1 ครั้ง เพื่อให้รถตู้ลดความเร็วและชิดขอบทางด้านซ้าย แต่รถตู้คันดังกล่าวก็ยังไม่ยอม จึงเรียกให้หยุดรถเพื่อตรวจสอบ เมื่อขอดูใบอนุญาตสัญญาณไฟ คนขับบอกว่าไม่มี ถ้าผิดอะไรก็เขียนใบสั่งมาเลย จะไปรับผู้ป่วยโควิดจากชลบุรีมาสุรินทร์ แต่เมื่อมองด้านหลังเป็นรถเปล่า ไม่มีผู้ป่วย ตำรวจพยายามจะอธิบาย แต่คนขับบอกให้ออกใบสั่ง ตำรวจทางหลวงเกรงว่าจะเป็นรถตู้ที่เคยมีข่าวดัดแปลง แอบอ้างเป็นรถขนผู้ป่วยโควิด มาทำผิดบนท้องถนน เนื่องจากรถตู้คันดังกล่าว ไม่มีสัญลักษณ์ของกู้ภัย รถพยาบาล และเป็นทะเบียนป้ายฟ้า ซึ่งสีเดิมของรถคือ สีเทา แต่ดัดแปลงเป็นสีม่วง จึงออกใบสั่งข้อหา “ขับรถไม่ชิดขอบทางด้านซ้าย และใช้สัญญาณแสงวับวาบโดยไม่ได้รับอนุญาต ไม่มีการเรียกรับเงิน หรือผลประโยชน์แต่อย่างใด หลังจากนั้นได้พูดคุย ทำความเข้าใจกับนายอุทิศ คนขับรถตู้กู้ภัยแล้วซึ่งตกลงกันด้วยดี ไม่มีการปรับเงิน 2,000 บาท เพียงว่ากล่าวตักเตือนเท่านั้น.-สำนักข่าวไทย