กรุงเทพฯ 1 ส.ค.-รองโฆษก ตร. เตือนประชาชนระวังมิจฉาชีพหลอกขายฟ้าทะลายโจรปลอม แนะตรวจสอบข้อมูลจาก อย. ก่อนซื้อ พร้อมเตือนผู้ขายระวังโทษหนัก
วันนี้ (1 ส.ค.) พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติห่วงใยพี่น้องประชาชนในช่วงที่มีการระบาดของโรคโควิด-19 มีประชาชนเป็นจำนวนมากหาซื้อผลิตภัณฑ์สมุนไพรฟ้าทะลายโจร ทำให้เกิดความต้องการในท้องตลาดสูง จึงมีมิจฉาชีพหรือผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ปลอม ฉวยโอกาสโดยการโฆษณาขายผ่านสื่อออนไลน์ ขายผลิตภัณฑ์ฟ้าทะลายโจรปลอม หรือใช้หมายเลข อย.ปลอม หรือโฆษณาแสดงสรรพคุณอันเป็นเท็จ เกินความจริง ทำให้เข้าใจผิดในสรรพคุณ หรือทำให้เข้าใจว่ามีวัตถุใดเป็นส่วนประกอบ ซึ่งความจริงไม่มีวัตถุหรือส่วนประกอบน้ัน ในผลิตภัณฑ์สมุนไพร หรือมีแต่มีไม่เท่าที่ทำให้เข้าใจตามที่โฆษณา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงขอประชาสัมพันธ์ เพื่อเตือนให้พี่น้องประชาชนระมัดระวังในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ฟ้าทะลายโจร โดยให้เลือกซื้อจากร้านค้าที่มีมาตรฐาน มีความน่าเชื่อถือ และควรตรวจสอบข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น การอนุญาตผลิตภัณฑ์จากเว็บไซต์ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา www.fda.moph.go.th หรือ Oryor Smart Application และตรวจสอบข้อมูลจาก เว็บไซต์ ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย www.antifakenewscenter.com
สำหรับผู้ที่กระทำความผิดในการขายผลิตภัณฑ์ฟ้าทะลายโจรปลอม หรือโฆษณาขายในลักษณะผิดกฎหมายในสื่อออนไลน์ จะมีความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343 มีอัตราโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาทฯ และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14(1) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหาย แก่ประชาชน มีอัตราโทษจำคุกไม่เกินห้าปี ปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท นอกจากนี้ยังมีความผิด ตาม พ.ร.บ.ผลิตภัณฑ์สมุนไพร พ.ศ.2562 ตามแต่พฤติการณ์ที่ได้กระทำ เช่น มาตรา 58 (1) ผลิต หรือขายผลิตภัณฑ์สมุนไพรปลอมฯ ประกอบมาตรา 102 มีอัตราโทษจำคุกไม่เกินสามปี และปรับไม่เกินสามแสนบาทบาท มาตรา 70 โฆษณาผลิตภัณฑ์สมุนไพรโดยไม่ได้รับอนุญาตฯและ มาตรา 74โฆษณาผลิตภัณฑ์สมุนไพรในลักษณะผิดกฎหมายฯ ประกอบมาตรา 114 มีอัตราโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบังคับใช้กฎหมายกับผู้กระทำความผิดต่อไป และขอความร่วมมือมายังประชาชน หากพบเห็นการกระทำผิดกฎหมายดังกล่าว กรุณาแจ้งเบาะแสไปยังสายด่วน 191 และสายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง.-สำนักข่าวไทย