กทม.-29 ก.ค.- ตำรวจ สตม.จับแก๊งชาวจีนใช้ชื่อว่า “ZHONG” (จง) หลอกชาติเดียวกันลงทุนสูญกว่า 5.1 ล้านบาท
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในปัจจุบัน พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาด ซึ่ง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. มอบหมายให้ สตม. โดย พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม.ระดมกวาดล้างคนต่างด้าว ที่ลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย ขบวนการขนคนต่างด้าวเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ตลอดจนการขนแรงงานต่างด้าวเข้า – ออกพื้นที่จังหวัดที่มีคำสั่งห้ามเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าว เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรค โควิด-19 และรวมถึงการที่คนต่างชาติเข้ามาใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิดจากการปฏิบัติของหน่วยงานในสังกัดที่รับผิดชอบ สามารถจับกุมนายเติ้ง อายุ 32 ปี สัญชาติจีนและนายต้ง อายุ 36 ปี สัญชาติจีน ตามหมายจับศาลจังหวัดนครราชสีมา ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่นและนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์โดยผิดกฏหมายฯ”
สืบเนื่องจาก กองบังคับการสืบสวนสอบสวน สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและศูนย์ปราบปรามคนร้ายข้ามชาติและเข้าเมืองโดยผิดกฏหมาย สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ได้รับการร้องเรียนจากผู้เสียหายสัญชาติจีนว่าได้ถูกคนร้ายที่รู้จักกันผ่านแอพพลิเคชั่น FACEBOOK ใช้ชื่อว่า “ZHONG” (จง) ได้เข้ามาพูดคุยเพื่อตีสนิท โดยอ้างว่าเป็นคนจีนที่เข้ามาทำธุรกิจที่ประเทศไทย ต่อมาได้อ้างว่าปัจจุบันได้ทำการลงทุนในตลาดสกุลเงินดิจิตอล โดยได้ทำการส่งข้อมูลให้ผู้เสียหายดูว่าสามารถได้รับผลประโยชน์จริง ต่อมาคนร้ายได้ทำการชักชวนให้ผู้เสียหายลงทุน ซึ่งได้ส่ง URL ชื่อ https://www.cqnyys.com/app และให้ผู้เสียหายทำการสมัครและทำการโอนเงินเพื่อลงทุน โดยในช่วงแรกเมื่อผู้เสียหายลงทุนก็พบว่ามีเงินที่เพิ่มขึ้นในระบบจริง และเมื่อผู้เสียหายต้องการที่จะถอนเงินออกจากระบบ ก็ถูกคนร้ายอ้างว่าจะต้องมีการโอนเงินค่าประกัน ในการรับประกัน user จากนั้นเมื่อผู้เสียหายโอนแล้วพบว่าสามารถถอนเงินออกมาได้จากพอร์ทจริง จึงลงทุนเพิ่มไปในพอร์ทตามคำชักชวนของคนร้าย รวมมูลค่า กว่า 5.1 ล้านบาท จากนั้นเมื่อผู้เสียหายได้โอนเงินแล้วปรากฏว่าเว็บไซต์ดังกล่าวได้ปิดไป จึงเชื่อว่าได้ถูกหลอกลวงและเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมาย
ต่อมาทาง ตำรวจ ศปชก.สตม. และ กก.ปอพ.บก.สส.สตม. ได้ทำการสืบสวนจนทราบว่าคนร้ายในคดีนี้เป็นผู้ใด จึงรวบรวมพยานหลักฐานและขอศาลออกหมายจับนายเติ้ง สัญชาติจีน และนายต๋ง จากการสืบสวนขยายผลผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ให้การว่าได้รับการสั่งการมาจาก นายเจิ้ง ที่อยู่ที่ สปป.ลาว ซึ่งชุดสืบสวนจะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอหมายจับต่อไป การจับกุมครั้งนี้ สามารถติดตามเงินคืนผู้เสียหายได้ 1.7 ล้านบาท.-สำนักข่าวไทย