สำนักข่าวไทย 23 ก.ค.-ผอ.รพ.ธรรมศาสตร์ฯ ชี้แจงหลังออกหลักเกณฑ์ถอดเครื่องช่วยหายใจฯ ย้ำเป็นไปตามหลักวิชาการของการดูแลผู้ป่วยแบบประคับคอง เผยสถานกาณร์ตอนนี้ทุกรพ.ที่มีไอซียูดูแลผู้ป่วยโควิดวิกฤต แพทย์ต่างหนักใจแต่พร้อมทำให้ดีที่สุด เพื่อให้มีไอซียูเพียงพอรักษาผู้ป่วยที่มีโอกาสจะรักษาต่อไปได้
รศ.นพ.พฤหัส ต่ออุดม ผอ.โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ แถลงข่าวให้ความเข้าใจเพิ่มเติม หลังออกประกาศ เรื่องหลักเกณฑ์การพิจารณาไม่ใส่ท่อช่วยหายใจ สำหรับผู้ป่วยโควิด-19 อาจทำให้หลายคนเกิดความเข้าใจผิดและไม่สบายใจ จึงได้ออกประกาศอีกฉบับที่มีการเขียนถึงบริบทชัดเจนขึ้น อธิบายให้สังคมเข้าใจง่ายขึ้นแต่ยึดหลักเกณฑ์ตามประกาศเดิม โดยอีกฉบับที่ออกมาคือ เรื่องหลักเกณฑ์การพิจารณาในการจัดผู้ป่วยให้เข้ารับการดูแลรักษาแบบประคับประคองหรือระบบ Palliative Care สำหรับผู้ป่วยโควิด-19 เพื่อใช้เป็นหลักเกณฑ์ในการพิจารณาในการจัดผู้ป่วยวิกฤติให้เข้ารับการรักษาแบบประคับประคอง
ขอชี้แจงว่า เรื่องหลักเกณฑ์การดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายหรือแบบประคับประคองนี้มีมานานแล้ว ตามหลักเกณฑ์ของสาธารณสุข เกี่ยวกับความประสงค์ของผู้ป่วยระยะสุดท้ายโรคต่างๆ เพียงแต่ยังไม่เคยมีการระบุถึงโรค โควิด-19 ซึ่งหากดูในรายละเอียดที่ออกมาเมื่อวานจะเห็นว่า เป็นไปตามหลักเกณฑ์ทางการแพทย์ทางวิชาการในการที่จะตัดสินใจ ซึ่งใช้หลักเดียวกันคือจะต้องได้รับความเห็นชอบร่วมกันระหว่างผู้ป่วยหากมีการระบุเจตนารมณ์ไว้ หรือหากไม่มีก็ต้องได้รับความเห็นชอบจากผู้แทนที่เป็นครอบครัว กับแพทย์ผู้ดู รวมถึงแพทย์เชี่ยวชาญด้านpalliative care ในการตัดสินใจร่วมกัน ซึ่งจะมีหลักเกณฑ์เรื่องของโรคระยะสุดท้ายโรคเรื้อรังต่างๆร่วมด้วยอย่างที่กล่าวไว้ในประกาศฉบับแรก การดูแลการดูแลผู้ป่วยแบบประคับประคองก็จะมีขั้นตอนในการปฏิบัติ จะไม่เร่ง หรือยื้อ ให้เกิดความเจ็บปวด ตามหลัก palliative care
รศ.นพ.พฤหัส เปิดเผยว่า สถานการณ์ผู้ป่วยของโรงพยาบาล ตอนนี้เชื่อว่าไม่แตกต่างจากโรงพยาบาลอื่นๆทั่วประเทศ ที่วิกฤตหนักต้องดูแลผู้ป่วย โควิด-19 ที่เพิ่มทุกวันซึ่งหากเป็นก่อนหน้านี้ที่ยังมีรายงานจำนวนผู้ป่วยใหม่ของประเทศประมาณ 3,000 คนต่อวัน โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ก็มีการขยายไอซียูความดันลบไปแล้ว 16 เตียง แต่จากจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เพิ่มขึ้น 10,000 ถึง 15,000 คนต่อวัน แน่นอนว่าไม่เพียงพอ การขยายเตียงไอซียูเราสามารถหาสถานที่ หาอุปกรณ์การแพทย์ได้พอ แต่เราไม่มีบุคลากรทางการแพทย์ที่จะเข้าไปดูแลได้เพียงพอแล้ว เพราะทั้งแพทย์และพยาบาลที่ต้องดูผู้ป่วยในห้องไอซียูส่วนหนึ่งก็ติดเชื้อ โควิด-19 และบางส่วนก็ต้องกักตัว
ปัจจุบันโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ มีห้องไอซียูความดันลบดูผู้ป่วยโควิด 40 เตียงที่มีเครื่องช่วยหายใจสำหรับผู้ป่วยหนักวิกฤติ มีcohort ward ที่มีเครื่องออกซิเจน high flow 32 เตียง มีห้องแยกสำหรับผู้ป่วยโควิดที่อาการไม่รุนแรงมากอีก 30 เตียง รวมมี100 กว่าเตียง ไม่นับส่วนของโรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์ฯ ที่รองรับได้ 400 กว่าเตียง ซึ่งตรงนั้นก็สำหรับผู้ป่วยสีเหลือง และตอนนี้พบว่าส่วนหนึ่งมีอาการเริ่มเป็นสีแดง ทำให้ต้องมีมาตรการในการรองรับผู้ป่วยสีแดง ที่อาจจะอาการรุนแรงหนักจนต้องใช้ห้องไอซียูด้วย /แม้ว่าเราจะมีการให้ผู้ป่วยสีเขียวรักษาตัวเองอยู่ที่บ้าน ก็พบว่าส่วนหนึ่งเริ่มมีอาการเป็นสีเหลืองก็จะต้องเข้ามาที่โรงพยาบาล
ผอ.รพ.ธรรมศาสตร์ฯ กล่าวอีกว่า ไม่อยากเห็น รพ.ต้องปฏิเสธ เพราะรับผู้ป่วยเพิ่มไม่ได้อีก แพทย์ทุกคนต่างหนักใจและเสียใจที่ไม่สามารถมีเพียงพอรับผู้ป่วยโควิดได้ ซึ่งหากสามรถบริหารจัดการได้ให้ไปตามหลักเกณฑ์จริยธรรมทางการแพทย์ และทางวิชาการ ก็จะทำให้ผู้ป่วยโควิดที่มีโอกาสหายได้เข้าถึงการรักษาต่อไป .-สำนักข่าวไทย