ผู้ต้องขังป่วยใหม่ 72 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย

กทม. 26 มิ.ย.-กรมราชทัณฑ์ เผยยอดโควิด-19 สถานการณ์ดีขึ้นต่อเนื่อง รักษาหายแล้ว 86% ผู้ต้องขังป่วยใหม่ 72 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย

นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เผยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเรือนจำและทัณฑสถาน (ข้อมูล ณ วันที่ 25 มิ.ย.64 เวลา 16.00 น.) มีผู้ต้องขังติดเชื้อรายใหม่ จำนวน 72 ราย รักษาหายวันนี้ 510 ราย เสียชีวิต 1 ราย ทำให้มีผู้ต้องขังติดเชื้อที่ยังอยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ 4,583 ราย สถานการณ์การแพร่ระบาดในวันนี้ ยังคงมีเรือนจำสีขาวที่ไม่พบการแพร่ระบาดคงที่ จำนวน 127 แห่ง ส่วนเรือนจำสีแดงที่พบการแพร่ระบาดอยู่ที่ 12 แห่งคงเดิม โดยรายงานผู้ติดเชื้อในวันนี้ เป็นการติดเชื้อจากแดนในของเรือนจำสีแดง จำนวน 44 ราย และการตรวจพบเชื้อในห้องแยกกักโรค ซึ่งเป็นผู้ต้องขังรับใหม่ 28 ราย จากเรือนจำพิเศษมีนบุรี เรือนจำจังหวัดสตูล เรือนจำอำเภอธัญบุรี และทัณฑสถานบำบัดพิเศษสงขลา ขณะที่จำนวนผู้ป่วยรักษาหายยังเพิ่มขึ้นและมากกว่าผู้ติดเชื้อรายใหม่ รวมรักษาหายสะสมอยู่ที่ 31,102 ราย หรือ 86% ของจำนวนผู้ป่วยสะสม ทำให้ผู้ติดเชื้อในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ลดลงเหลือต่ำกว่า 5 พันรายเป็นวันแรก คือ 4,583 ราย เป็นกลุ่มสีเขียว 4,037 ราย สีเหลือง 519 ราย และสีแดง 27 ราย ขณะที่มีรายงานผู้เสียชีวิตวันนี้ จำนวน 1 ราย รวมเสียชีวิต 38 ราย หรือ 0.1% ของผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมด


นายอายุตม์ กล่าวเพิ่มเติมว่า แนวโน้มของสถานการณ์ยังคงดีขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครที่พบผู้ติดเชื้อรักษาหายเพิ่มขึ้น ขณะที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่วนพื้นที่ต่างจังหวัด ขณะนี้ยังถือว่าสถานการณ์อยู่ในการควบคุม จากการนำแนวทางการบริหารจัดการพื้นที่แพร่ระบาดเดิมไปปรับใช้ รวมถึงเวชภัณฑ์ บุคลากรทางการแพทย์ และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ที่ได้เตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับสถานการณ์อยู่ก่อนแล้ว จึงสามารถบริหารจัดการได้อย่างเป็นระบบในระยะเวลารวดเร็ว

อย่างไรก็ตาม แม้สถานการณ์การแพร่ระบาดของกรมราชทัณฑ์จะเริ่มคลี่คลายลงในหลายพื้นที่ และบางแห่งอยู่ในการควบคุมได้แล้ว แต่การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ภายนอกยังคงมีอยู่และขยายพื้นที่การระบาดมากขึ้น จึงขอให้บุคลากร และเจ้าหน้าที่ทุกท่าน ได้ยึดถือและปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ของกรมราชทัณฑ์อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติงานภายในสถานที่ควบคุม ที่มีความเสี่ยงต่อการนำเชื้อจากภายนอกเข้าสู่เรือนจำ/ทัณฑสถาน รวมถึงครอบครัวของเจ้าหน้าที่ และจากผู้ต้องขังเข้าใหม่ ที่ต้องระมัดระวังและคัดกรองเชื้ออย่างเข้มข้นในทุกจุด


นายอายุตม์ กล่าวต่อว่า ผู้เสียชีวิต 1 รายในวันนี้ เป็นผู้ต้องขังชาย อายุ 65 ปี จากเรือนจำกลางบางขวาง เข้ารักษาที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ เมื่อ 13 มิถุนายน 2564 ผล X-ray พบปอดอักเสบ แพทย์ได้ให้การรักษาด้วยยา Favipiravir Dexamethasone ยาลดการหลั่งกรดในกระเพาะ ยาปฏิชีวนะระดับสูง และ Oxygen ความเข้มข้นสูง แต่ผู้ป่วยยังมีอาการเหนื่อย ตรวจพบปอดอักเสบเพิ่มขึ้น ซึ่งแพทย์ได้วางแผนการรักษาร่วมกับผู้ป่วยและญาติ พิจารณาให้การรักษาประคับประคองด้วยยา ปฏิเสธการใส่ท่อช่วยหายใจ จนกระทั่งในวันที่ 25 มิถุนายน ผู้ป่วยมีอาการเหนื่อย ซึมลงและเสียชีวิตในเวลาต่อมา.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นร.หญิง ม.1 จมทะเลดับ หลังโรงเรียนพาไปทัศนศึกษาที่ระยอง

โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งใน จ.นครราชสีมา พานักเรียนไปทัศนศึกษาที่ จ.ระยอง นักเรียนหญิง ม.1 ถูกคลื่นดูดลงทะเลขณะเล่นน้ำ เสียชีวิต พ่อแม่สุดเศร้าสูญเสียลูกสาวคนเดียวของครอบครัว

น้ำท่วมเชียงใหม่

เชียงใหม่จมบาดาล น้ำท่วมครั้งประวัติศาสตร์

น้ำท่วมในตัวเมืองเชียงใหม่ ยังวิกฤติ หลังน้ำในลำน้ำปิงขึ้นสูงสุดทรงตัวสูงกว่า 5.30 เมตร ซึ่งสูงที่สุดตั้งแต่มีการวัดระดับน้ำปิง

น้ำท่วมขนส่งเชียงใหม่กระทบผู้โดยสาร เปิดจุดจอดรับ-ส่งชั่วคราว

น้ำขยายวงกว้างเข้าท่วมสถานีขนส่งเชียงใหม่แห่งที่ 2 และ 3 เต็มพื้นที่ ระดับน้ำสูงเกือบ 50 ซม. ผู้ประกอบการขนส่งต้องนำรถทัวร์โดยสารออกมาจอดรับ-ส่งบนถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ ยืนยันผู้ประกอบการยังให้บริการตามปกติ

ระทึก! แท็กซี่พลิกคว่ำเกิดเพลิงไหม้ 5 ชีวิตรอดหวุดหวิด

รถแท็กซี่พลิกคว่ำและเกิดเพลิงลุกไหม้กลางถนนพระราม 9 ผู้โดยสารหญิงสติดีถีบประตูช่วยตัวเองและคนอื่นออกมาจากตัวรถรวม 5 ชีวิตได้ทัน แต่ในจำนวนนี้บาดเจ็บสาหัส 1 คน เป็นคนขับแท็กซี่ ตำรวจเร่งสอบสวนหาสาเหตุ

ข่าวแนะนำ

เตรียมตั้ง 7 เตาไฟฟ้า พิธีพระราชทานเพลิงศพ นร.-ครู 23 คน

เตรียมพื้นที่ตั้ง 7 เตาไฟฟ้า กลางสนามโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม จ.อุทัยธานี ในพิธีพระราชทานเพลิงศพ นักเรียน-ครู 23 คน เหยื่อไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา วันที่ 8 ต.ค.นี้

เชียงใหม่ยังอ่วม เจอน้ำท่วมครั้งประวัติศาสตร์

แม้ระดับน้ำปิงที่ทะลักท่วมตัวเมืองเชียงใหม่เริ่มลดลง จากที่เคยขึ้นสูงสุดถึง 5.30 เมตร ซึ่งถือว่าสูงที่สุดเท่าที่เคยวัดระดับมา จนทำให้เชียงใหม่เผชิญกับน้ำท่วมครั้งใหญ่สุดเป็นประวัติการณ์ บ้านเรือนหลายพันหลังและย่านการค้ายังจมน้ำ บางจุดยังท่วมสูงกว่า 2 เมตร ยังต้องเร่งอพยพผู้คนออกจากพื้นที่น้ำท่วม หลายคนต้องใช้ชีวิตอยู่ในรถที่จอดบนสะพาน

ภาคกลางเริ่มกระทบ น้ำเจ้าพระยาเอ่อท่วมบ้านประชาชน

น้ำเจ้าพระยาล้นข้ามถนนเข้าท่วมบ้านกว่า 30 หลังคาเรือน ต.ชีน้ำร้าย อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี ส่วนชุมชุนริมท่าน้ำปากเกร็ด เริ่มกระทบ

ระทึก! เรือคณะนายอำเภอคว่ำ ขณะช่วยผู้ประสบภัย

กู้ภัยเข้าช่วยเหลือ เรือคณะนายอำเภอฮอดพลิกคว่ำ ขณะฝ่ากระแสน้ำเชี่ยวเข้าไปช่วยผู้ประสบภัย ขณะที่จุดอื่นในเชียงใหม่ เร่งอพยพประชาชนที่ยังตกค้าง