ร้องถูกหลอกช่วยพ้นคุกเร็วขึ้น แฉมีทนาย-ผู้คุมร่วมขบวนการ

รัฐสภา 3 ธ.ค.- “แทนคุณ” นำเหยื่อผู้ต้องขังแก๊งมิจฉาชีพในเรือนจำกรุงเทพ ร้อง “วันนอร์” หลังถูกหลอกช่วยพ้นคุกเร็วขึ้น มูลค่าความเสียหายกว่า 100 ล้าน แฉเป็นกลุ่มอั้งยี่ซ่องโจร 20 คน มีทนาย-ผู้คุมร่วมขบวนการ แถมถูกตำรวจหลอกซ้ำ ดองคดี 2 ปี


นายแทนคุณ จิตต์อิสระ ประธานชมรมสันติประชาธรรม นำนายปัญญา ผู้เสียหายที่เคยเป็นผู้ต้องขังในเรือนจำพิเศษกรุงเทพเข้ายื่นหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎรผ่านนายคัมภีร์ ดิษฐากรณ์ โฆษกประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้ตรวจสอบเครือข่ายการทุจริตหลอกลวงเงินผู้เสียหายในเรือนจำ

โดยนายแทนคุณกล่าวว่า มีกลุ่มมิจฉาชีพ ชื่อย่อ ท. กับพวกอ้างว่าสามารถโอนเงินแล้วจะช่วยเหลือผู้ต้องขังในเรือนจำได้เร็วขึ้น จนมีผู้หลงเชื่อ เสียค่าถูกหลอกประมาณกว่า 10 ล้านบาท นอกจากนี้ยังพบว่ามีการหลอกลวงคนอื่นๆ รวมแล้ว 86 ล้านบาท ซึ่งอาจจะโยงไปถึงผู้มีอิทธิพลทั้งในและนอกเรือนจำหรือไม่ และที่ผ่านมาจึงได้ยื่นหนังสือถึงกระทรวงยุติธรรม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม รวมถึงคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และดำเนินคดีอาญาไว้ที่ สน.ประชาชื่น แต่คดีไม่มีความคืบหน้ามาเป็นเวลากว่า 2 ปี และยังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจหลอกลงทุนอีก โดยสืบพบว่า นาย ท. มีคดีที่เกี่ยวกับการหลอกลวง 25 คดีและคดีอื่นๆ อีก 60 คดีถือว่าเป็นคดีอาชญากรรมต่อเนื่องเป็นภัยต่อความมั่นคง จึงยื่นให้ประธานสภาฯ ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความเป็นธรรม ตรวจสอบพยานหลักฐานเพื่อป้องกันการทุจริตเชิงระบบเช่นนี้


นายปัญญากล่าวว่า มีหลักฐานทางการเงิน ประมาณ 86 ล้านบาท ที่เรียกเงินในเรือนจำพิเศษกรุงเทพ ทั้งหมดมีผู้เสียหายจำนวนมาก และได้รวบรวมผู้เสียหายยื่น 4 หน่วยงาน และมีหนังสือจากกระทรวงยุติธรรมให้ตรวจสอบถึงกรมราชทัณฑ์ และหลังจากที่แจ้งความ สน. ประชาชื่นกลับถูกตำรวจหมกคดีไว้ 2 ปี ไม่มีความคืบหน้าจึงมาขอความเป็นธรรม อยากให้ตำรวจเร่งคดีนี้

นายปัญญากล่าวถึงพฤติกรรมหลอกลวงในเรือนจำว่า มีคนคนหนึ่งสามารถเดินไปได้ทุกแดนทุกเช้าหลังเคารพธงชาติ ซึ่งนักโทษคนอื่นไม่สามารถเดินไปได้ และพอตกช่วงบ่ายจะมีผู้ต้องขังใหม่เข้ามาซึ่งในแต่ละปีจะมีผู้ต้องขังเข้ามาใหม่หลายพันคน บุคคลดังกล่าวเข้าไปตีสนิท ล้วงข้อมูลใช้เวลา 3 เดือน และเลือกคนที่มีฐานะ ซึ่งการกระทำมีลักษณะเป็นมืออาชีพ จะสอบถามเรื่องทรัพย์สิน รวมถึงเรื่องญาติทั้งหมด และจะบอกว่าอธิบดีกรมราชทัณฑ์ช่วยให้สามารถเดินไปได้ทุกวัน มีรัฐมนตรีหลายคนและผู้มีอำนาจช่วย ทำดูเหมือนมีความน่าเชื่อถือ โดยบุคคลนี้จะบอกว่าให้ไปอยู่ที่โรงพยาบาลรวมทั้งเรื่องพักโทษ

“คนนี้จะเดินไปห้องทนายความใช้โทรศัพท์ได้ไม่จำกัดเวลา คนอื่นใช้ได้ 20 นาที ส่วนคนที่มาเยี่ยมก็ไม่เคยแลกบัตร ค่าไปโรงพยาบาล เรียก 5 ล้านบาท หากเราไม่สามารถโอนได้ เขาจะให้เขียนจดหมายไปบอกญาติให้โอน และขอเบอร์ญาติ โดยมีผู้คุมช่วย เชื่อมั่นว่ามีการหลอกลวงคน 200-300 คนไม่ต่ำกว่า 500 ครั้ง มีหลักฐานรวบรวมไว้ จนได้คุยกับปลัดกระทรวงยุติธรรม ซึ่งรองปลัดรับเรื่องเพราะมีเอกสารชัดเจน และทำหนังสือตรวจสอบไปถึงอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ช่วงต้นปี 2566 เช่นเดียวกับกระทรวงดีอี ที่ออกหนังสือเพื่อตรวจสอบ เราร้องป.ป.ช. ได้ทำหนังสือไปสน.ประชาชื่น เพื่อถามว่าทำไมไม่ดำเนินคดีเพราะมีการหลอกเงินจำนวนมากแต่กลับถูกหลอกลงทุนไป 9 ล้าน มีตำรวจอ้างเป็นสารวัตรหลอกลวงเงินไปอีก 3.2 ล้าน และเมื่อขอทำเรื่องย้ายไปกองปราบก็ถูกดองไม่มีความคืบหน้าจึงมาขอความช่วยเหลือ” นายปัญญา กล่าว


นายปัญญากล่าวว่าได้เดินทางไปพร้อมผู้เสียหายที่ศาลจังหวัดนนทบุรี พบข้อมูลว่าตัวผู้ที่ดำเนินการมี 25 คดีทั้งกลุ่มมี 60 คดี และมีกลุ่มทนายความที่ช่วยเหลือ แก้ไขคดีอาญาให้เป็นแพ่ง ได้ทั้งหมด 60 คดี ซึ่งถือเป็นช่องโหว่ทางกฎหมาย ด้วยการติดสินบนเจ้าพนักงานทำให้ติดคุกเพียง 1 คดี พร้อมยกตัวอย่าง เมื่อมีการดำเนินคดีและต้องจ่ายจากยอด 25 ล้าน แต่ไม่มีเงินจ่ายสุดท้ายศาลให้ผ่อนเดือนละ 10,000 บาท ซึ่งจะเห็นว่าหลอกทั้งคนในและคนนอก ทีมเขามีประมาณ 20 คน ไปเรือนจำพิเศษกรุงเทพทุกวัน ดังนั้นในเรือนจำพิเศษกรุงเทพถ้าไม่มีเจ้าหน้าที่ช่วยจะไม่สามารถเอาเบอร์ญาติออกไปได้เลย และเมื่อทวงถามก็ถูกกรรโชกทรัพย์อ้างว่าเป็นตำรวจจะยิง หากยังทวงถามอีก ซึ่งมีหลักฐานเป็นแชทไลน์ ซึ่งคาดว่าเป็นกลุ่มผู้มีอิทธิพลอยากให้ตำรวจเร่งดำเนินการเรื่องนี้ ทั้งนี้ส่วนตัวไปที่ศาลปทุมธานีอีสานพบว่าบุคคลดังกล่าวมีคดีอาวุธปืน กรรโชกโชคทรัพย์ รวมทั้งกลุ่มน่าจะเป็นอั้งยี่ซ่องโจรแต่มีความรู้ด้านกฎหมายจึงไปยื่นผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเพื่อดำเนินการ

นายปัญญา กล่าวอีกว่ารวมผู้เสียหายที่ถูกหลอกลวงครั้งนี้ไม่ต่ำกว่า 20 ครอบครัวมูลค่าเกิน 100 ล้านบาท เพราะแค่ของตน 5 ครอบครัวมูลค่า 86 ล้านบาท ยังมีการเรียกรับเงินแรกเข้า 200-300 คน ค่าใช้จ่ายค่าดูแลคนละ 50,000-100,000 บาท และมีหลักฐานการเงินเข้า 15 บัญชี เมื่อได้เงินแล้วก็จะถ่ายเงินโอนออก หลังจากนี้จะนำผู้เสียหายอีกกว่า 10 ครอบครัวมาเปิดเผยข้อเท็จจริง

“ผมทำหมู่บ้านถูกกลั่นแกล้งจนติดคุก ออกมาต่อสู้จนชนะ 3 คดี เหลือ 1 คดี ไม่คาดฝันว่าจะเจอกับมิจฉาชีพที่เป็นมืออาชีพโดยใช้ช่องโหว่ทางกฎหมาย จึงอยากฝากไปยัง รอง ผบ.ตร. ที่ได้ยื่นเอกสารไปให้ช่วยพิจารณาดู และเร่งดำเนินการเป็นการด่วน เพราะมีหลักฐานครบถ้วน” นายปัญญา

ด้านนายคัมภีร์กล่าวว่า จะนำเรื่องเสนอประธานสภา เพื่อดำเนินการส่งเรื่องไปยังคณะกรรมาธิการที่เกี่ยวข้องให้ตรวจสอบการดำเนินการในส่วนที่ล่าช้า และคืนความเป็นอิสระให้ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนทั้งในเรื่องทรัพย์สินและเรื่องของการที่จะต้องไปถูกจองจำ ในทัณฑสถาน.-319 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เด็กชายวัย 13 ปี กลับกัมพูชาพร้อมแม่แล้ว

สุรินทร์ 28 ส.ค.-รองผู้ว่าฯ สุรินทร์ เผยเด็กชายวัย 13 ปี กลับกัมพูชาพร้อมแม่แล้ว หากพิสูจน์ไม่ได้ว่าน้องเป็นคนไทย น้องยังต้องได้รับสิทธิตามอนุสัญญาหลักสิทธิเด็ก เข้ารับการศึกษาต่อไป นายประภาส ศรีจันทร์เวียง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยกับสำนักข่าวไทยว่า ขณะนี้ พมจ.สุรินทร์ ตม.สุรินทร์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง กำลังดูแลน้องอายุ 13 ปี ที่มีแม่เป็นชาวกัมพูชาและทั้งคู่ถูกแจ้งจับเนื่องจากเป็นคนต่างด้าวอยู่ในประเทศไทยโดยผิดกฎหมายและไม่มีใบอนุญาต ได้รับรายงานว่า เด็กชาย อายุ 13 ปีรายนี้ เกิดที่ จ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา ส่วนแม่ทำงานในบ่อนการพนันที่ช่องสะงำ จากนั้นก็ได้เดินทางกลับประเทศโดยถูกกฎหมาย และคลอดน้องที่ประเทศกัมพูชา ก่อนจะกลับมาประเทศไทยอีกครั้งโดยไม่ได้รับอนุญาต และลอบอยู่ในประเทศไทย โดยน้องได้รับการศึกษาในประเทศไทยตั้งแต่ ป.1 จนกระทั่งปัจจุบันคือ ม.1 ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จะดำเนินการพาน้องอายุ 13 ปี ตรวจดีเอ็นเอ เนื่องจาก พมจ.สุรินทร์ ได้รับข้อมูลจากฝ่ายแม่เด็กว่า พ่อที่แท้จริงของน้องคือ ชายไทยที่อยู่ด้วยกันในปัจจุบัน แต่ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถยืนยันความจริงได้ นอกจากการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์เท่านั้น เพื่อดำเนินการทางกฎหมายในขั้นตอนต่อไป เช่น หากพิสูจน์ได้ว่า น้องมีบิดา […]

มติสภาประชุมลับญัตติด่วน MOU43-44 ฝ่ายค้านชี้ปิดหูปิดตา ปชช.

28 ส.ค. – สภาฯ ถกญัตติด่วน “MOU 43-44” เพื่อไทยขอประชุมลับ หวั่นอภิปรายเนื้อหาล้ำเส้น กังวลกัมพูชารู้ทาง ด้านฝ่ายค้านยันต้องเปิดเผย ไม่ใช่ปิดหูปิดตาประชาชน สุดท้ายเปิดเผยเฉพาะผู้เสนอญัตติ ส่วนผู้อภิปรายเป็นประชุมลับ การประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาฯคนที่หนึ่งเป็นประธานการประชุม หลังพิจารรณากระทู้ถามทั่วไปแล้วได้มีการเสนอญัตติด่วนด้วยวาจา 5 ฉบับ ได้แก่ 1. น.ส.แนน บุณย์ธิดา สมชัย สส.อุบลราชธานี พรรคภูมิใทย เสนอญัตติด่วนด้วยวาจา เรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญบันทึกความเข้าใจ MOU43 และ44 ระหว่างไทยกัมพูชา 2.นายกรวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม เสนอให้สภาฯทำการศึกษาบันทึกความเข้าใจ MOU43 และ44 แก้ไขปัญหาข้อพิพาทชายแดนไทย กัมพูชา 3.นายสฤษพงศ์ ​เกี่ยวข้องสส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่าเนื่องจากตนได้เสนอญัตติดังกล่าวเป็นหนังสือไว้แล้ว ก็ขอให้นำมาอยู่ในวาระด่วนเช่นเดียวกัน เนื่องจากเป็นเรื่องทำนองเดียวกัน 4.นายนพดล ปัทมะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เสนอเรื่องขอให้สภาฯพิจารณาศึกษMOU 43 และ44 […]

เส้นทางหลวง 108 ขุนยวม-แม่ฮ่องสอน ถูกตัดขาด

แม่ฮ่องสอน 28 ส.ค. – เส้นทางหลวง 108 ขุนยวม-แม่ฮ่องสอน ถูกตัดขาด คอสะพานห้วยโป่งถูกน้ำป่าซัดเสียหายกว้างกว่า 80 เมตร คาด 1 ก.ย.นี้ สามารถเปิดเส้นทางสัญจรได้ สภาพความเสียหายของพื้นที่ริมทางหลวง 108 บริเวณห้วยบ้านตำข่อน บ้านแม่จ๋า บ้านผาบ่องเหนือ อ.เมืองแม่ฮ่องสอน หลังระดับน้ำลดลงเป็นปกติ ยังคงมีท่อนไม้ ต้นไม้กองทับถมอยู่ องค์การบริหารส่วนจังหวัดนำรถและเครื่องจักรใหญ่เข้าเคลียร์ท่อนไม้ เศษไม้ที่กีดขวาง สามารถเปิดให้รถสัญจรไปมาได้ แต่ต้องใช้ความระมัดระวัง ผู้ว่าฯ แม่ฮ่องสอน พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายจากน้ำป่าไหลหลาก เส้นทางหมายเลข 108 บริเวณสะพานห้วยโป่ง ต.ห้วยโป่ง ข้ามลำน้ำแม่จ๋า ซึ่งคอสะพานถูกน้ำป่าซัดได้รับความเสียหายเป็นแนวกว้าง ทำให้การสัญจรถูกตัดขาดโดยสิ้นเชิง จึงประสานศูนย์สร้างและบูรณะสะพานจังหวัดพิจิตร เพื่อขอสนับสนุนสะพานแบริ่ง หรือสะพานเหล็กสำเร็จรูป สำหรับใช้งานชั่วคราว ขณะที่วิศวกรจากศูนย์ฯ จะเข้าตรวจสอบความเสียหายของสะพานห้วยโป่ง เพื่อดำเนินการติดตั้งสะพานแบริ่ง หากไม่มีอุปสรรคคาดว่าสะพานจะพร้อมใช้งานและเปิดให้สัญจรได้อีกครั้งในวันจันทร์ที่ 1 กันยายนนี้ น้ำที่ท่วม 13 หมู่บ้านรวมทั้งตัว อ.แม่แจ่ม เริ่มลดลงส่วนที่ จ.เชียงใหม่ […]

จนท.ตรึงกำลังเข้มบ้านหนองจาน หวั่นเผชิญหน้า

สระแก้ว 28 ส.ค. – คนไทยรวมพลบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว แสดงพลังปกป้องแผ่นดินไทย เจ้าหน้าที่ตรึงกำลังเข้ม หวั่นเหตุเผชิญหน้า หลังชาวกัมพูชาท้าทาย ขณะที่ “กัน จอมพลัง” ขนรถดูดส้วม 14 คัน เสิร์ฟเขมร.-สำนักข่าวไทย