ร้องถูกหลอกช่วยพ้นคุกเร็วขึ้น แฉมีทนาย-ผู้คุมร่วมขบวนการ

รัฐสภา 3 ธ.ค.- “แทนคุณ” นำเหยื่อผู้ต้องขังแก๊งมิจฉาชีพในเรือนจำกรุงเทพ ร้อง “วันนอร์” หลังถูกหลอกช่วยพ้นคุกเร็วขึ้น มูลค่าความเสียหายกว่า 100 ล้าน แฉเป็นกลุ่มอั้งยี่ซ่องโจร 20 คน มีทนาย-ผู้คุมร่วมขบวนการ แถมถูกตำรวจหลอกซ้ำ ดองคดี 2 ปี


นายแทนคุณ จิตต์อิสระ ประธานชมรมสันติประชาธรรม นำนายปัญญา ผู้เสียหายที่เคยเป็นผู้ต้องขังในเรือนจำพิเศษกรุงเทพเข้ายื่นหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎรผ่านนายคัมภีร์ ดิษฐากรณ์ โฆษกประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้ตรวจสอบเครือข่ายการทุจริตหลอกลวงเงินผู้เสียหายในเรือนจำ

โดยนายแทนคุณกล่าวว่า มีกลุ่มมิจฉาชีพ ชื่อย่อ ท. กับพวกอ้างว่าสามารถโอนเงินแล้วจะช่วยเหลือผู้ต้องขังในเรือนจำได้เร็วขึ้น จนมีผู้หลงเชื่อ เสียค่าถูกหลอกประมาณกว่า 10 ล้านบาท นอกจากนี้ยังพบว่ามีการหลอกลวงคนอื่นๆ รวมแล้ว 86 ล้านบาท ซึ่งอาจจะโยงไปถึงผู้มีอิทธิพลทั้งในและนอกเรือนจำหรือไม่ และที่ผ่านมาจึงได้ยื่นหนังสือถึงกระทรวงยุติธรรม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม รวมถึงคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และดำเนินคดีอาญาไว้ที่ สน.ประชาชื่น แต่คดีไม่มีความคืบหน้ามาเป็นเวลากว่า 2 ปี และยังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจหลอกลงทุนอีก โดยสืบพบว่า นาย ท. มีคดีที่เกี่ยวกับการหลอกลวง 25 คดีและคดีอื่นๆ อีก 60 คดีถือว่าเป็นคดีอาชญากรรมต่อเนื่องเป็นภัยต่อความมั่นคง จึงยื่นให้ประธานสภาฯ ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความเป็นธรรม ตรวจสอบพยานหลักฐานเพื่อป้องกันการทุจริตเชิงระบบเช่นนี้


นายปัญญากล่าวว่า มีหลักฐานทางการเงิน ประมาณ 86 ล้านบาท ที่เรียกเงินในเรือนจำพิเศษกรุงเทพ ทั้งหมดมีผู้เสียหายจำนวนมาก และได้รวบรวมผู้เสียหายยื่น 4 หน่วยงาน และมีหนังสือจากกระทรวงยุติธรรมให้ตรวจสอบถึงกรมราชทัณฑ์ และหลังจากที่แจ้งความ สน. ประชาชื่นกลับถูกตำรวจหมกคดีไว้ 2 ปี ไม่มีความคืบหน้าจึงมาขอความเป็นธรรม อยากให้ตำรวจเร่งคดีนี้

นายปัญญากล่าวถึงพฤติกรรมหลอกลวงในเรือนจำว่า มีคนคนหนึ่งสามารถเดินไปได้ทุกแดนทุกเช้าหลังเคารพธงชาติ ซึ่งนักโทษคนอื่นไม่สามารถเดินไปได้ และพอตกช่วงบ่ายจะมีผู้ต้องขังใหม่เข้ามาซึ่งในแต่ละปีจะมีผู้ต้องขังเข้ามาใหม่หลายพันคน บุคคลดังกล่าวเข้าไปตีสนิท ล้วงข้อมูลใช้เวลา 3 เดือน และเลือกคนที่มีฐานะ ซึ่งการกระทำมีลักษณะเป็นมืออาชีพ จะสอบถามเรื่องทรัพย์สิน รวมถึงเรื่องญาติทั้งหมด และจะบอกว่าอธิบดีกรมราชทัณฑ์ช่วยให้สามารถเดินไปได้ทุกวัน มีรัฐมนตรีหลายคนและผู้มีอำนาจช่วย ทำดูเหมือนมีความน่าเชื่อถือ โดยบุคคลนี้จะบอกว่าให้ไปอยู่ที่โรงพยาบาลรวมทั้งเรื่องพักโทษ

“คนนี้จะเดินไปห้องทนายความใช้โทรศัพท์ได้ไม่จำกัดเวลา คนอื่นใช้ได้ 20 นาที ส่วนคนที่มาเยี่ยมก็ไม่เคยแลกบัตร ค่าไปโรงพยาบาล เรียก 5 ล้านบาท หากเราไม่สามารถโอนได้ เขาจะให้เขียนจดหมายไปบอกญาติให้โอน และขอเบอร์ญาติ โดยมีผู้คุมช่วย เชื่อมั่นว่ามีการหลอกลวงคน 200-300 คนไม่ต่ำกว่า 500 ครั้ง มีหลักฐานรวบรวมไว้ จนได้คุยกับปลัดกระทรวงยุติธรรม ซึ่งรองปลัดรับเรื่องเพราะมีเอกสารชัดเจน และทำหนังสือตรวจสอบไปถึงอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ช่วงต้นปี 2566 เช่นเดียวกับกระทรวงดีอี ที่ออกหนังสือเพื่อตรวจสอบ เราร้องป.ป.ช. ได้ทำหนังสือไปสน.ประชาชื่น เพื่อถามว่าทำไมไม่ดำเนินคดีเพราะมีการหลอกเงินจำนวนมากแต่กลับถูกหลอกลงทุนไป 9 ล้าน มีตำรวจอ้างเป็นสารวัตรหลอกลวงเงินไปอีก 3.2 ล้าน และเมื่อขอทำเรื่องย้ายไปกองปราบก็ถูกดองไม่มีความคืบหน้าจึงมาขอความช่วยเหลือ” นายปัญญา กล่าว


นายปัญญากล่าวว่าได้เดินทางไปพร้อมผู้เสียหายที่ศาลจังหวัดนนทบุรี พบข้อมูลว่าตัวผู้ที่ดำเนินการมี 25 คดีทั้งกลุ่มมี 60 คดี และมีกลุ่มทนายความที่ช่วยเหลือ แก้ไขคดีอาญาให้เป็นแพ่ง ได้ทั้งหมด 60 คดี ซึ่งถือเป็นช่องโหว่ทางกฎหมาย ด้วยการติดสินบนเจ้าพนักงานทำให้ติดคุกเพียง 1 คดี พร้อมยกตัวอย่าง เมื่อมีการดำเนินคดีและต้องจ่ายจากยอด 25 ล้าน แต่ไม่มีเงินจ่ายสุดท้ายศาลให้ผ่อนเดือนละ 10,000 บาท ซึ่งจะเห็นว่าหลอกทั้งคนในและคนนอก ทีมเขามีประมาณ 20 คน ไปเรือนจำพิเศษกรุงเทพทุกวัน ดังนั้นในเรือนจำพิเศษกรุงเทพถ้าไม่มีเจ้าหน้าที่ช่วยจะไม่สามารถเอาเบอร์ญาติออกไปได้เลย และเมื่อทวงถามก็ถูกกรรโชกทรัพย์อ้างว่าเป็นตำรวจจะยิง หากยังทวงถามอีก ซึ่งมีหลักฐานเป็นแชทไลน์ ซึ่งคาดว่าเป็นกลุ่มผู้มีอิทธิพลอยากให้ตำรวจเร่งดำเนินการเรื่องนี้ ทั้งนี้ส่วนตัวไปที่ศาลปทุมธานีอีสานพบว่าบุคคลดังกล่าวมีคดีอาวุธปืน กรรโชกโชคทรัพย์ รวมทั้งกลุ่มน่าจะเป็นอั้งยี่ซ่องโจรแต่มีความรู้ด้านกฎหมายจึงไปยื่นผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเพื่อดำเนินการ

นายปัญญา กล่าวอีกว่ารวมผู้เสียหายที่ถูกหลอกลวงครั้งนี้ไม่ต่ำกว่า 20 ครอบครัวมูลค่าเกิน 100 ล้านบาท เพราะแค่ของตน 5 ครอบครัวมูลค่า 86 ล้านบาท ยังมีการเรียกรับเงินแรกเข้า 200-300 คน ค่าใช้จ่ายค่าดูแลคนละ 50,000-100,000 บาท และมีหลักฐานการเงินเข้า 15 บัญชี เมื่อได้เงินแล้วก็จะถ่ายเงินโอนออก หลังจากนี้จะนำผู้เสียหายอีกกว่า 10 ครอบครัวมาเปิดเผยข้อเท็จจริง

“ผมทำหมู่บ้านถูกกลั่นแกล้งจนติดคุก ออกมาต่อสู้จนชนะ 3 คดี เหลือ 1 คดี ไม่คาดฝันว่าจะเจอกับมิจฉาชีพที่เป็นมืออาชีพโดยใช้ช่องโหว่ทางกฎหมาย จึงอยากฝากไปยัง รอง ผบ.ตร. ที่ได้ยื่นเอกสารไปให้ช่วยพิจารณาดู และเร่งดำเนินการเป็นการด่วน เพราะมีหลักฐานครบถ้วน” นายปัญญา

ด้านนายคัมภีร์กล่าวว่า จะนำเรื่องเสนอประธานสภา เพื่อดำเนินการส่งเรื่องไปยังคณะกรรมาธิการที่เกี่ยวข้องให้ตรวจสอบการดำเนินการในส่วนที่ล่าช้า และคืนความเป็นอิสระให้ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนทั้งในเรื่องทรัพย์สินและเรื่องของการที่จะต้องไปถูกจองจำ ในทัณฑสถาน.-319 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 16 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณ จ.เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ เลย หนองคาย จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ เลย หนองคาย จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวและเวียดนามตอนบน ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังอ่อนลงเป็นกำลังปานกลาง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร […]

วธ. ยันกัมพูชาไม่ได้สอดไส้วรรณกรรมไทย ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก

กทม. 15 ก.ค.-กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ยืนยันกัมพูชาไม่ได้นำวรรณกรรมไทย 22 รายการ สอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ออกหนังสือชี้แจง ตามที่มีการกล่าวอ้างในเพจดังกล่าวว่า “นี่คือวรรณกรรมไทย ที่กัมพูชานำไปสอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อ Unesco และได้รับการขึ้นทะเบียนไปเรียบร้อย เพราะรัฐบาลไทยปล่อยปละละเลยและไม่คัดค้านเลยแม้แต่นิดเดียว…” กระทรวงวัฒนธรรม ขอขอบคุณท่านที่ห่วงใยต่อกรณีประเทศกัมพูชานำวรรณกรรมไทย จำนวน 22 รายการ นำไปขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก ในหัวข้อ มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของกัมพูชา เพื่อใช้ในการแสดง Royal Ballet of Cambodia เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้กับยูเนสโก ทั้งนี้ กระทรวงวัฒนธรรมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลดังกล่าว และขอชี้แจง ดังนี้ 1.ข้อมูลที่อ้างว่ามีการขึ้นทะเบียน “วรรณกรรมไทย 22 รายการ” โดยกัมพูชา ไม่เป็นความจริง เนื่องจากกัมพูชาไม่ได้เสนอขอขึ้นทะเบียนวรรณกรรม จำนวน 22 เรื่อง ต่อองค์การยูเนสโก แต่กัมพูชาได้เสนอขึ้นทะเบียน The Royal Ballet of Cambodia ซึ่งเป็นศิลปะการแสดงโบราณของกัมพูชา และยูเนสโกได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ เมื่อปี พ.ศ. 2546 […]

รวมพลัง 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

15 ก.ค. – กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมการศาสนา จัดพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมด้วย องค์การทางศาสนาทั้ง 15 องค์การ จาก 5 ศาสนา ได้แก่ ศาสนาพุทธ ศาสนาอิสลาม ศาสนาคริสต์ ศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู และศาสนาซิกข์ รวมทั้งหน่วยงานเครือข่าย มีผู้เข้าร่วมทั้งผู้ประกอบพิธีทางศาสนา ผู้นำทางศาสนา ศาสนิกชน เครือข่ายสถานศึกษา ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กระทรวงวัฒนธรรม รวมกว่า 1,000 คน ร่วมพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม จัดขึ้น ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เพื่อถวายพระราชกุศลและถวายพระพรชัยมงคล แสดงความจงรักภักดีและสำนึก ในพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระองค์ทรงมีต่อพสกนิกรทุกหมู่เหล่า กิจกรรมประกอบด้วย พิธีถวายพระพรชัยมงคล […]

หน่วยงาน 3 ป. แถลงปฏิบัติการจับกุม “สีกากอล์ฟ” จ่อขยายผลเส้นเงิน

บก.ป. 15 ก.ค.- ตำรวจแถลงปฏิบัติการจับกุม “สีกากอล์ฟ” ตรวจสอบเงินในบัญชี 3 ปีย้อนหลัง พบมีเงินหมุนเวียน 385 ล้านบาท ส่วนใหญ่โอนไปเว็บพนัน เหลือเงินในบัญชี 8,000 บาท ขณะที่พระผิดธรรมวินัยทยอยลาสิกขาแล้ว 9 รูป จากทั้งหมด 13 รูป พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วยนายภูมิวิศาล เกษมสุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., นายกมลสิษฐ์ วงศ์บุตรน้อย รองเลขาธิการคณะกรรมการ ปปง., นายสุขสันต์ ประสาระเอ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ช., พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป., พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป., พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ร่วมกับ […]