กรุงเทพฯ 25 มิ.ย.-รัฐมนตรีคลังเอเปก เน้นย้ำการกระจายวัคซีนให้ทั่วถึง เป็นกลไกสำคัญฟื้นเศรษฐกิจ ดูแลกลุ่มเปราะบาง เข้าถึงบริการดิจิทัล ออนไลน์ หนุนเอสเอ็มอีเข้าถึงแหล่งทุน
นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ได้รับมอบหมายจากนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้เข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเอเปก ร่วมกับสภาที่ปรึกษาทางธุรกิจเอเปคอย่างไม่เป็นทางการ (Informal Finance Ministerial Meeting with APEC Business Advisory Council: IFMM with ABAC) เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2564 ด้วยการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยมีนาย Grant Robertson รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังนิวซีแลนด์ เป็นประธาน พร้อมด้วยผู้แทนจาก 21 เขตเศรษฐกิจและสภาที่ปรึกษาทางธุรกิจเอเปค
การประชุม IFMM with APEC ครั้งนี้นับเป็นการประชุมระดับรัฐมนตรีครั้งแรกในปี 2564 ภายใต้กรอบการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเอเปก ซึ่งเป็นโอกาสอันดีในการหารือร่วมกับภาคเอกชนถึงแนวทางการดูแลและสนับสนุนประชาชนและภาคธุรกิจ รวมไปถึงการฟื้นตัวของภาคธุรกิจ โดยที่ประชุมเห็นพ้องว่าการบริหารจัดการกับการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ยังคงเป็นประเด็นที่เขตเศรษฐกิจเอเปกต้องให้ความสำคัญอย่างต่อเนื่อง ทั้งการลดจำนวนผู้ติดเชื้อ การตรวจหาเชื้อ และการกระจายวัคซีน เพื่อนำไปสู่การเปิดพรมแดนซึ่งเป็นปัจจัยพื้นฐานของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ พร้อมกันนี้ ยังได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการพัฒนาอย่างยั่งยืนและทั่วถึงซึ่งถือเป็นเป้าหมายของการฟื้นตัวจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
ทั้งนี้ ประเด็นที่มีการหารือในที่ประชุม ประกอบด้วย 1) ผลกระทบของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 2) นโยบายเพื่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจ และ 3) แนวทางความร่วมมือระหว่างรัฐและเอกชน โดยที่ประชุมให้ความสำคัญกับความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคธุรกิจ และภาคประชาสังคม การสนับสนุนความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนโดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง กลุ่มผู้อาศัยในพื้นที่ห่างไกล และกลุ่มที่ยังขาดความรู้ความเข้าใจและขาดโอกาสในการเข้าถึงระบบดิจิทัลและเทคโนโลยี การสนับสนุนและช่วยเหลือผู้ประกอบการโดยเฉพาะวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม การวิจัยพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัล การดำเนินนโยบายที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและนโยบายเพื่อรับมือกับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมไปถึงการให้ความสำคัญกับการฟื้นฟูการค้าและการลงทุนซึ่งเป็นตัวขับเคลื่อนการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ตลอดจนการฟื้นฟูระบบห่วงโซ่อุปทานที่เชื่อมโยงไปถึงการเคลื่อนย้ายสินค้า บริการ เครื่องมือทางการแพทย์ และเวชภัณฑ์ที่จำเป็น .-สำนักข่าวไทย