กรุงเทพฯ 4 มี.ค.-กรุงเทพโพลล์ เผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ พบประชาชนร้อยละ 72.3 มีความเข้าใจมาตรา 44 ค่อนข้างน้อย นอกจากนี้พบบว่าประชาชนร้อยละ 50.9 มองว่าการใช้มาตรา 44 ได้ผลในการปราบปรามการทุจริต และร้อยละ 29.5 ใช้กรณีพระธัมมชโย ขณะที่ประชาชนร้อยละ 62.6 เชื่อมั่นการใช้มาตรา 44 จะทำให้ประเทศไทยเดินหน้าปฏิรูปได้สำเร็จมากถึงมากที่สุด ขณะที่ร้อยละ 78.4 ยังเห็นว่าหลังการเลือกตั้งแล้ว ควรมีการใช้มาตรา 44 ควบคุมสถานการณ์ประเทศต่อไปอีก
ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ หรือ กรุงเทพโพลล์ เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชน เรื่อง “ม.44 กับการเดินหน้าปฏิรูปประเทศไทย” โดยเก็บข้อมูลประชาชนจากทุกภูมิภาคทั่วประเทศ จำนวน 1,279 คน ระหว่างวันที่ 1-3 มีนาคม 2560 พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 72.3 มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรา 44 ค่อนข้างน้อยถึงน้อยที่สุด ขณะที่ร้อยละ 24.0 มีความรู้ความเข้าใจค่อนข้างมากถึงมากที่สุด และร้อยละ 3.7 ไม่แน่ใจ
ขณะที่ประชาชนมากถึงร้อยละ 47.5 นึกถึงมาตรา 44 ในเรื่องของการรักษาความสงบเรียบร้อย รองลงมาร้อยละ 32.9 การบังคับใช้กฎหมาย และร้อยละ 23.2 ความเด็ดขาด โดยที่ร้อยละ 50.9 มองว่าเรื่องที่ใช้มาตรา 44 แล้วได้ผลที่สุด คือ การปราบปรามทุจริตคอร์รัปชั่น รองลงมาร้อยละ 45.7 การห้ามชุมนุมประท้วง ร้อยละ42.2 การปราบปรามยาเสพติด ร้อยละ 40.0 การปราบปรามมาเฟีย ผู้มีอิทธิพล และร้อยละ 29.5 การบุกจับพระธัมมชโย
ทั้งนี้ ประชาชนร้อยละ 62.6 เชื่อมั่นต่อการใช้มาตรา 44 ว่าจะสามารถทำให้ประเทศไทยเดินหน้าปฏิรูปได้สำเร็จมากถึงมากที่สุด ขณะที่ร้อยละ 29.8 เชื่อมั่นค่อนข้างน้อยถึงน้อยที่สุด ส่วนร้อยละ 7.6 ไม่แน่ใจ ขณะเดียวกันร้อยละ 78.4 ยังเห็นว่าหลังการเลือกตั้งเรียบร้อยแล้ว ควรมีการใช้มาตรา 44 ควบคุมสถานการณ์ประเทศต่อไปอีก โดยที่ร้อยละ 60.7 สนับสนุนให้มีต่อ แต่ให้ใช้เฉพาะเรื่อง แต่ร้อยละ 19.3 เห็นว่าไม่ควรมีเพราะประเทศจะได้เดินหน้าสู่ประชาธิปไตย.-สำนักข่าวไทย