กทม.-22มิ.ย.- ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จับขบวนการลอบขนแรงงานต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา มาทำงานในพื้นที่ จ.ระยอง,ปทุมธานี,สมุทรปราการ ค่าจ้างสูงถึงหัวละ 20,000 บาท
พลตำรวจโทสมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง แถลงจับกุมแรงงานกัมพูชา และจับกุมขบวนการนำพาแรงงานเมียนมาเข้าพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร
คดีแรกได้สืบทราบว่ามีแรงงานกัมพูชาใช้วิธีเดินเท้าลักลอบเข้าประเทศไทย แล้วซ่อนอยู่ตามป่าตะเข็บชายแดนหมู่บ้านหนองมั่ง ต.หนองแวง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว เพื่อรอลำเลียงเข้าพื้นที่ชั้นใน จึงวางกำลังจับกุมพบแรงงานกัมพูชา 9 คน และมีนายหน้าชาวกัมพูชาเป็นคนนำเดินเท้ามาประมาณ 10 กิโลเมตรเสียค่าใช้จ่ายคนละ 500 บาท เพื่อรอเคลื่อนย้ายไปทำงานที่ จ.ระยอง, ปทุมธานี และสมุทรปราการ หากถึงปลายทางจะต้องจ่ายเพิ่มคนละ 15,000 -20,000 บาท
คดีที่ 2 สืบทราบว่ามีขบวนการนำพาช่วยเหลือ ตระเวนรับบุคคลต่างด้าวสัญชาติกัมพูชามาจากโซนภาคตะวันออก จ.ระยอง, ชลบุรี และกรุงเทพฯ เพื่อกลับออกไปประเทศกัมพูชาผ่านทางช่องทางธรรมชาติ อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ โดยใช้รถตู้โดยสาร ผ่านเส้นทางทางหลวงหมายเลข 2 และ 24 พื้นที่ จ.นครราชสีมา, บุรีรัมย์, สุรินทร์ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการควบคุมและเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ตำรวจจึงวางกำลังสังเกตการณ์ กระทั่งพบรถตู้ต้องสงสัยหน้าสถานีบริการน้ำมันและแก๊ส ถนนโชคชัย-เดชอุดท ต.กังแอน อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ จึงแสดงตนเข้าตรวจสอบ พบแรงงานต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา 7 คน มีคนไทยเป็นคนขับรถ ตำรวจจึงจับกุมผู้ต้องหาส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย
คดีที่ 3 ตำรวจกองกำกับการสืบสวนสอบสวน กองบังคับการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง 3 ได้จับกุมนายสุรศักดิ์ (สงวนนามสกุล) หรือ เก่ง ตามหมายจับศาลจังหวัดสระบุรี ในข้อหา ใช้ให้ผู้อื่น ช่วยเหลือ ซ่อนเร้น เพื่อให้คนต่างด้าวที่เข้าเมืองโดยผิดกฎหมายนั้นพ้นจาการจับกุม คดีนี้ผู้ต้องหามีพฤติกรรมรับงานจากลูกค้าชาวกัมพูชาโดยตรงเพื่อเดินทาง เข้า-ออก ประเทศไทย โดยไม่สนใจว่าลูกค้าจะเป็นแรงงานที่ถูกกฎหมายหรือไม่ ผู้ต้องหารับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และยอมรับว่าประกอบอาชีพขับรถรับ-ส่งคนระหว่าง กทม.-บ้านแหลม จ.จันทบุรี มาเป็นเวลานาน ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นชาวกัมพูชา ติดต่อผ่านทางมือถือในการขนย้ายเข้า-ออกประเทศ.-สำนักข่าวไทย