รัฐสภา 17 มิ.ย.-สว.แนะรัฐบาลปรับระบบและกลไกบริหารเงินกู้ฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมระดับชุมชนท้องถิ่น ใช้ “จตุพลัง” คิดโครงการ หวังใช้เงินให้ตรงจุด คุ้มค่า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สมาชิกวุฒิสภา จำนวน 18 คน อาทิ นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ นายพีระศักดิ์ พอจิต นายตวง อันทะไชย นายคำนูณ สิทธิสมาน เข้าชื่อทำหนังสือเสนอความเห็นต่อรัฐบาลกรณีการใช้เงินกู้ตามพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคมจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 วงเงิน 5 แสนล้านบาท โดยระบุว่า ตามที่วุฒิสภาซึ่งมีหน้าที่ติดตามตรวจสอบการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล ได้ผ่านพระราชกำหนดกู้เงินใช้รับมือวิกฤตโควิด-19 ปี 2563 และเพิ่มเติมปี 2564 ไปแล้ว สมาชิกวุฒิสภาที่มีรายชื่อข้างท้ายมีความเห็นพ้องต้องกันว่า รัฐบาลจำเป็นต้องปรับระบบและกลไกบริหารเงินกู้ ในส่วนที่ใช้เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ระดับชุมชนท้องถิ่น ซึ่งเป็นฐานสำคัญรองรับการพลิกฟื้นประเทศหลังโควิด-19
สมาชิกวุฒิสภาได้เสนอให้ใช้ตำบลเป็นพื้นที่ดำเนินโครงการ โดยให้ “จตุพลัง” ที่ประกอบด้วยท้องถิ่น ท้องที่ องค์กรประชาสังคม และหน่วยงานอื่นในพื้นที่เป็นเจ้าของโครงการ ริเริ่มโครงการที่สอดคล้องกับปัญหาและความต้องการของชุมชนท้องถิ่น เสนอโครงการให้คณะกรรมการพัฒนาอำเภอ (กพอ.) กลั่นกรองเสนอคณะกรรมการพัฒนาจังหวัด (กพจ.) พิจารณาอนุมัติและควบคุมกำกับการดำเนินงานโดยตรง โดยให้หน่วยงานและองค์กรนิติบุคคลต่างๆ ในตำบลและอำเภอรับเป็นหน่วยดำเนินโครงการ
สมาชิกวุฒิภา เห็นว่ารัฐบาลควรจัดสรรเงินกู้เพื่อการนี้ให้กับทุกจังหวัด อย่างน้อยร้อยละ 50 ของวงเงินกู้ เพื่อการฟื้นฟูฯ โดยกำหนดระบบ หลักการ กรอบกติกา และหลักเกณฑ์ให้กับจังหวัด และกำหนดให้หน่วยงานของรัฐที่เหมาะสมเข้าทำหน้าที่พี่เลี้ยง สนับสนุนด้านวิชาการ การทำแผนการดำเนินโครงการ และการติดตามประเมินผล ได้แก่ สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) กรมการปกครอง กรมการพัฒนาชุมชน กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) เป็นต้น ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดการใช้เงินกู้ให้ตรงกับการแก้ปัญหา และตรงกับความต้องการของชุมชนท้องถิ่นอย่างแท้จริง.-สำนักข่าวไทย