เลขาธิการเพื่อไทย พอใจ ส.ส.พรรค อภิปรายงบประมาณ 65

กรุงเทพฯ 3 มิ.ย.-เลขาธิการพรรคเพื่อไทย พอใจภาพรวมการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ 2565 ของ ส.ส. พรรคฯ ชี้ให้เห็นการบริหารงานผิดพลาด ใช้งบประมาณไม่ตอบโจทย์ปัญหาประเทศ


นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย สรุปภาพรวมการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 ตลอด 3 วันที่ผ่านมา ว่า มีความพึงพอใจในการทำหน้าที่ของ ส.ส. พรรค เพราะได้ชี้ให้เห็นถึงการบริหารงานผิดพลาด ใช้งบประมาณไม่ตอบโจทย์ปัญหาประเทศ และไม่มีประสิทธิภาพ และยุทธศาสตร์งบประมาณ 6 ด้าน ก็เป็นแบบเดิมๆ ทั้งที่ยุทธศาสตร์เร่งด่วนคือการแก้ปัญหาฟื้นฟูสถานการณ์โควิด-19 ส่วนการตอบคำถามถือว่าตอบไม่ได้ไปไม่เป็น และตอบไม่ตรงคำถาม เช่น การกระจายวัคซีนที่ไม่เป็นธรรม จะแก้ไขอย่างไร รวมถึงยังไม่มีคำตอบว่าถึงแผนงาน กรอบเวลาการฉีดปูพรม 70% ของประชากรไทย ว่าจะทำได้เมื่อไหร่อย่างไร

นายประเสริฐ ยังระบุว่า การที่ไม่ผ่านงบประมาณฯ ปี 65 เพราะพิสูจน์แล้วว่า 7 ปี ของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ใช้งบประมาณไป 20.8 ล้านล้านบาท แต่ผลลัพธ์ที่ออกมาเศรษฐกิจเติบโตเพียง 1% และยังมีการสร้างหนี้สาธารณะต่อจีดีพี จะแตะ 80% รวมถึงหนี้ครัวเรือน 92% ถือว่าอันตราย ดังนั้นถ้าปล่อยให้ผ่าน ก็จะทำให้ประเทศเสียหาย เสียวินัยการเงินการคลัง


แม้ว่าจะใช้เสียงข้างมากลากไปในวาระที่ 1 แต่ในวาระที่ 2 พรรคเพื่อไทย จะทำหน้าที่เพื่อประชาชน และจะเห็นว่าในการอภิปราย พรรคร่วมรัฐบาล ไม่เห็นด้วย แต่การลงมติกลับย้อนแย้ง สะท้อนให้เห็นถึงความเปราะบางในพรรคร่วมรัฐบาล และผลประโยชน์ระหว่างพรรคการเมือง ดังนั้นในวาระที่ 2 จะมีความเข้มข้น

การบริหารงบประมาณฯ ของรัฐบาล ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ไหว เพื่อไทยพร้อม เพราะที่ผ่านมาในวิกฤติ พรรคเพื่อไทยสามารถกอบกู้สถานการณ์ได้อย่างดี เช่น เหตุการณ์สึนามิ และไข้หวัดนกในอดีต และฟื้นฟูประเทศกลับมาได้อย่างรวดเร็ว จึงอยากวิงวอนให้ พล.อ.ประยุทธ์ รับผิดชอบด้วยการลาออก เพื่อเปิดโอกาส เพราะวันนี้สถานการณ์บ้านเมืองวันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ขาดความเชื่อมั่นจากประชาชน และหวังว่าการทำงานในวาระที่ 2 จะปรับลดเพียงอย่างเดียว ปรับเพิ่มไม่ได้ เพื่อประโยชน์ของประชาชนต่อไป

นายประเสริฐ ยังกล่าวถึงการลงมติ ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายปี 2565 เมื่อคืนนี้ พบว่าไม่มีใครโหวตสวนมติพรรค แต่มี 5 คน ที่ไม่มาลงมติ โดย 3 คน ได้แจ้งมายังพรรคแล้วว่าไม่สบายไม่สามารถมาลงมติได้ คือ นายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ ส.ส.กทม. นายวันชัย เจริญนนทสิทธิ์ ส.ส.นนทบุรี และนายไชยวัฒนา ติณรัตน์ ส.ส.มหาสารคาม ส่วนอีก 2 คน คือ นางพรพิมล ธรรมสาร ส.ส.ปทุมธานี และนายจักรพรรดิ ไชยศาส์น์ ส.ส.อุดรธานี เป็นบุคคลที่พรรคเคยมีมติลงโทษอยู่แล้ว หากพบว่าครั้งนี้ขัดต่อมติของพรรคก็จะมีบทลงโทษที่หนักขึ้นกว่าเดิม


ส่วนกรณีนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ที่เคยอยู่พรรคเพื่อไทย ได้เป็นกรรมาธิการงบประมาณในสัดส่วนของพรรคพลังประชารัฐนั้น เลขาฯพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เนื่องจากเป็นกรรมาธิการวิสามัญบุคคลภายนอกจึงสามารถร่วมเป็นกรรมาธิการได้ และไม่กังวลว่านายเรืองไกร จะย้อนกลับมาตรวจสอบพรรคเพื่อไทยเนื่องจากที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยทำตามข้อบังคับทุกอย่าง ไม่มีอะไรต้องกังวล.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

คะแนนไม่เป็นทางการ เลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นับเสร็จแล้วบางหน่วย ล่าสุด ณ เวลา 19.40 น. “วาริน ชิณวงศ์” เบอร์ 2 จากทีมนครเข้มแข็ง ชนะคู่แข่งขาดลอยในหลายหน่วย คะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่า “กนกพร เดชเดโช” เบอร์ 1 จากพรรค ปชป.

“ทนายสายหยุด” จ่อถอนตัวคดีตั้ม หวั่นติดร่างแห

“ทนายสายหยุด” เตรียมถอนตัวเป็นทนายให้ “ตั้ม” เผยในมือมีแต่พยานเท็จ ปิดบังข้อเท็จจริง เสี่ยงเป็นผู้ร่วมกระทำผิด

ข่าวแนะนำ

เปิดปมสังหารยกครัว 4 ศพ แค้นชู้สาว

เปิดปมเหตุสลดฆ่ายกครัว 3 ศพ ก่อนผู้ก่อเหตุยิงตัวเองเป็นศพที่ 4 ใน จ.สมุทรปราการ พบข้อมูลว่าความแค้นครั้งนี้มาจากเรื่องชู้สาว แต่ลูกชายของผู้ตายยังไม่เชื่อว่าแม่มีความสัมพันธ์กับมือปืน แต่ยอมรับมือปืนให้เงินแม่ใช้ทุกวัน

ศาลไม่ให้ประกัน “สามารถ” ชี้พฤติการณ์ร้ายเเรง

ทนายเผยศาลไม่ให้ประกัน “สามารถ” เพราะพฤติการณ์ร้ายเเรง เตรียมยื่นอุทธรณ์คำสั่งประกัน ด้าน “แม่สามารถ” วอนผู้มีอำนาจอย่าเอาความลูกชายตน ลั่นหลังจากนี้จะสู้เพื่อความยุติธรรม