“รักชนก” เสนอ 4 กระบวนท่า สู่การปฏิรูปงบประมาณ

รัฐสภา 21 มิ.ย.- “รักชนก” เสนอ 4 กระบวนท่า สู่การปฏิรูปงบประมาณ เปลี่ยนอำนาจการจัดสรรงบประมาณ จาก “สำนักงบฯ เป็นกระทรวง – ทำงบประมาณแบบเน้นผลลัพธ์” ชี้ ต่อให้ปฏิรูปงบฯ แต่ประเทศยังเหมือนเดิม อาจเกิดจากปัญหาของนโยบาย และวิธีการของรัฐบาล


น.ส.รักชนก ศรีนอก สส. พรรคก้าวไกล อภิปรายร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 ว่า ปัจจุบันกระบวนการงบประมาณจะเริ่มด้วยการทำยุทธศาสตร์การจัดสรรในช่วงสิ้นปี และตอนต้นปีนายกรัฐมนตรีก็จะมาแถลงยุทธศาสตร์การจัดสรร ที่จะบอกว่าปีนี้จะจัดทำนโยบายอะไรบ้างแก่ข้าราชการ ซึ่งตนได้อ่านยุทธศาสตร์การจัดสรรและฟังนายกฯ แถลงตั้งแต่ต้นจนจบ ก็เกือบเคลิ้มเพราะนโยบายของรัฐบาลกับพรรคก้าวไกลมีหลายนโยบายที่ตรงกัน แต่สิ่งที่ทำให้รู้สึก ”เอ๊ะ“ ผลลัพธ์ที่นายกฯ หรือรัฐบาลนี้ต้องการนั้นยิ่งใหญ่มาก เพราะอยากเป็นศูนย์กลาง ทั้ง 8 ด้าน และอยากเพิ่มรายได้เกษตรกรสามเท่าใน 4 ปี รวมทั้งอยากให้จีดีพีโตเฉลี่ย 5%

แต่ส่วนที่สำคัญที่สุดที่ท่านอาจจะลืมไปในการแถลงทุกๆ ต้นปี คือ ไม่มีการตั้งกรอบเป้าหมายความสำเร็จว่าในแต่ละนโยบายจะอยากให้สำเร็จเท่าไหร่ และไม่ได้มาพร้อมกับกรอบงบประมาณ ซึ่งกรอบและเป้าหมายของงบประมาณมีความสำคัญมาก ถ้าไม่ตั้งเป้าไว้ตั้งแต่ต้นปี ก็จะทำให้ไม่ทราบว่าทำไปแล้วเท่าไหร่ หรือการแก้ไขปัญหาที่ดิน หากไม่กำหนดเป้าหมายว่าจะทำในปีนี้ได้กี่แปลง ในกรอบงบประมาณเท่าไหร่ สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ เราจะมีงบประมาณที่พิสูจน์สิทธิ์ให้ประชาชนปีละ 3,000 แปลงเท่านั้นทุกปี


น.ส.รักชนก กล่าวต่อว่า หลังจากนั้นฝ่ายข้าราชการก็ต้องกลับมาทำคำของบประมาณ ที่กระบวนการของบ้านเราแบบ Bottom Up แต่ไม่ใช่ประเทศเราจริงๆ เพราะหัวใจหลักที่สำคัญคือต้องฟังเสียงของพี่น้องประชาชนในภูมิภาคต่างๆ หรือท้องถิ่นว่า อยากเห็นโครงการอะไรเกิดขึ้นในพื้นที่และนำโครงการเหล่านั้นมาทำเพื่อเป็นคำของบประมาณ แต่กระบวนการทุกวันนี้ การที่ข้าราชการฟังนายกฯ แถลงนโยบายแต่ไม่มีกรอบหรือเป้าหมาย และกลับมานั่งเขียนคำของบประมาณ และทำให้คำของบประมาณในประเทศไทยพุ่งสูง โดยในปี 67 พุ่งสูง 5.5 ล้านล้านบาท และปี 68 คำของบประมาณก็ล้นถึง 6.6 ล้านล้านบาท ทั้งๆ ที่งบประมาณประเทศมีแค่ 3.7 ล้านล้านบาท

วัฒนธรรมคำของบประมาณประเทศเรา หน่วยงานไม่รู้กรอบก็ทำคำของบประมาณให้เยอะไว้ก่อนเพราะกลัวโดนสำนักงบประมาณตัด กระบวนการปัจจุบันหน่วยงานราชการหรือผู้รับงบต่างๆ ในกระทรวง เป็นผู้รับมอบหมายให้ทำตามนโยบายรัฐบาล แต่กลับเป็นเพียงผู้เขียนคำของบประมาณเข้ามาเท่านั้น เพราะผู้ที่มีโอกาสในการจัดเรียงความสำคัญของแต่ละโครงการจริงๆ คือสำนักงบประมาณ ที่เป็นคนกำหนดทิศทางของประเทศนี้ผ่านการจัดสรรงบประมาณ และกำหนดว่ากระทรวงไหนจะได้ทำโครงการอะไรด้วยงบประมาณเท่าไหร่ และจังหวัดไหนจะมีโอกาสได้เจริญ ได้พัฒนาด้วยงบประมาณเท่าไหร่

นส.รักชนก กล่าวอีกว่า เมื่อปัญหาการจัดสรรงบประมาณอยู่ที่สำนักงบ ทั้งการจัดสรรงบประมาณที่ไม่ชัดเจน และการจัดทำไฟล์สำนักงบที่ขอให้ทำเป็นไฟล์ Excel เพื่อให้ สส. และประชาชนได้วิเคราะห์งบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ ก่อนที่วาระ 1 จะเข้า แต่สำนักงบกลับไม่มีปัญญาที่จะทำไฟล์ Excel ให้กับสภาฯ และประชาชนได้พิจารณาเลย และให้ไฟล์ Excel มาแต่ก็ใช้ไม่ได้ทำแบบขอไปที ทำงานแบบนี้ไม่รู้กี่ปีแต่กลับไม่ต้องรับผิดชอบอะไรเลย และประชาชนก็ไม่รู้ว่าสำนักงบเป็นคนจัดงบสรรประมาณ


อีกทั้งการวัดผล Self Report ตลอดทั้งกระบวนการก็ไม่มีการวัดความคุ้มค่าอย่างเป็นรูปธรรมหรือมีประสิทธิภาพ ซึ่งหน่วยงานราชการต้องเป็นตัวชี้วัดเอง ประเมินผลตัวเอง รายงานผลตัวเอง และให้ตัวเองผ่านการชี้วัด ซึ่งประเทศไทยกี่ปีผ่านไปก็ได้ผลแบบนี้เพราะเกิดจากการวัดผลด้วยตัวเอง กระบวนการจัดสรรแบบนี้และพิสูจน์ให้ประชาชนเห็นแล้วว่ามันไม่เวิร์ค และไม่พาประเทศไทยไปไหน แต่ก็ไม่มีใครคิดจะเข้ามาปฏิรูปกระบวนการงบประมาณอย่างจริงจัง

น.ส.รักชนก กล่าวต่อว่า วันนี้ตน จึงขอเป็นตัวแทนของพรรคก้าวไกลในการมาบอกเล่าถึงกระบวนการจัดสรรงบประมาณเพื่ออนาคต โดยเสนอ 4 กระบวนท่าสู่การปฏิรูปงบประมาณ คือ ตั้งเป้าหมายและกรอบงบประมาณในการทำยุทธศาสตร์จัดสรร, เปลี่ยนอำนาจการจัดสรรงบประมาณจากสำนักงบประมาณให้เป็นกระทรวงจัดเอง, การจัดซื้อจัดจ้างอย่างมียุทธศาสตร์ และ ทำงบประมาณแบบเน้นผลลัพธ์วัดผลเพื่อไปข้างหน้า

น.ส.รักชนก กล่าวในช่วงท้ายว่า สิ่งที่ตนเรียนรู้จากการทำงานกับหน่วยงานราชการราชการต่างๆ และรับข้อแนะนำ รวมถึงปัญหามาตลอดหนึ่งปีจึงรวบรวมมานำเสนอให้รัฐบาลได้นำไปปรับปรุง และอยากเห็นระบบงบประมาณที่ใช้งบประมาณจากประชาชนที่มาจากภาษีของประชาชนได้คุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์ และมีประสิทธิภาพ พร้อมฝากไปถึงรัฐบาลว่าต่อให้ปฏิรูปงบประมาณทั้งหมดแล้วหรือแก้ไขทุกช่องโหว่ที่มีอยู่ในงบประมาณ แต่คุณภาพชีวิตของประชาชนยังเหมือนเดิม ศักยภาพของประเทศก็ยังไม่สามารถแข่งขันกับใครได้เหมือนเดิม ปัญหาก็อาจจะไม่ได้อยู่ที่งบประมาณแล้ว แต่อาจจะเป็นที่รายละเอียดของนโยบายของท่าน และวิธีของรัฐบาลท่านเอง .- 317 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบร่างพลทหารรัวยิงชาวบ้านแล้ว คาดจบชีวิตตัวเองในป่า

15 ส.ค.- พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมา เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร ซึ่งเป็นป่าติดกับคลองส่งน้ำ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมาส่งพิสูจน์ทราบต่อไป ด้านครอบครัวที่มาเฝ้ารอ ต่างเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น – สำนักข่าวไทย

ทบ.แจงเหตุทหารรัวยิงชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ยังคุมตัวไม่ได้

15 ส.ค.- กองทัพบกแจงเหตุทหารหนีออกจากหน่วยพร้อมอาวุธปืน รัวยิงกลางดึก ชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ราย จนท.เร่งล่า ยังไม่พบตัว หากประชาชนพบเห็นรีบแจ้งทันที กองทัพบกชี้แจงเหตุการณ์ใช้อาวุธปืนในพื้นที่อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2568 เวลา 00.45 น. กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ยินเสียงปืนดังเป็นชุด จำนวน 10 นัด บริเวณถนนข้างวัดบ้านเขื่อนแก้ว อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ต่อมาเวลา 00.54 น. ได้ยินเสียงปืนเพิ่มอีก 2 นัด จากการตรวจสอบกำลังพลและอาวุธประจำกาย พบว่า พลทหารรัฐภูมิ เทพศิริ สังกัดกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ออกจากที่ตั้งโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมอาวุธปืนเล็กยาวและกระสุนจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ได้แก่ ผู้บาดเจ็บทั้งสองรายได้รับการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและส่งโรงพยาบาลกาบเชิง ก่อนส่งต่อรักษาตามความเหมาะสม โดยขณะนี้พ้นขีดอันตรายแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจร่วมกับกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ตรวจสอบพื้นที่และสอบถามพยาน เบื้องต้นคาดว่าพลทหารดังกล่าวอาจเป็นผู้ก่อเหตุ […]

แจ้งจับ “ภูมิธรรม” ปล่อยกัมพูชารุกราน ทำไทยเสียเปรียบ

ขอนแก่น 15 ส.ค. – องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น แจ้งความเอาผิด “ภูมิธรรม” รักษาการนายกฯ ไม่ทำหน้าที่ตัวเอง ปล่อยกัมพูชารุกรานไทย องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน เพื่อเอาผิด นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในข้อหาหรือฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.119, ม.120, ม.124 ม.157 และมาตราอื่นที่เกี่ยวข้อง นายตุลย์ ประเสริฐศิลป์ ประธานองค์กรต่อต้านคอรัปชั่นภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า การมาร้องทุกข์กล่าวโทษครั้งนี้ ด้วยเรื่องเอกราชและอธิปไตยของชาติเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด แต่รักษาการนายกฯ ไม่ได้ทำหน้าที่ตัวเอง โดยปล่อยปละละเลยทำให้ต่างชาติรุกรานประเทศไทย ต้องปกป้องรักษาเอกราชและอธิปไตยของชาติให้มั่นคง แต่ที่ทหารขาขาด บาดเจ็บ ประชาชนล้มตายทรัพย์สินเสียหาย คือ ความร้ายแรงของของผู้รักษาการนายกรัฐมนตรีต้องทำและต้องปกป้องให้ได้ แต่ไม่มี มีแต่ไปเข้าข้างศัตรูโดยเฉพาะกัมพูชา เป็นโทษร้ายแรงมาก.-สำนักข่าวไทย

“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท

รัฐสภา 15 ส.ค.-“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท ตั้งคำถามหลายรัฐวิสาหกิจมีผลกำไรดี จะมาตั้งของบอีกทำไม นายวีระ ธีระภัทรานนท์ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในเรื่องของรัฐวิสาหกิจ ว่า ในเอกสารงบประมาณที่เป็นงบประมาณรายจ่าย มาตรา 29 มีรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งของบประมาณรวมกันทั้งสิ้น 79,298 ล้านบาท แต่ค่าใช้จ่ายของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 1.43 แสนล้านบาท ซึ่งในรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งที่ของบประมาณมาตนไม่ค่อยติดใจ เพราะมีรัฐวิสาหกิจจำนวนหนึ่งไม่มีรายได้ อีกส่วนเป็นรัฐวิสาหกิจมีรายจ่ายมากกว่ารายได้ บางรัฐวิสาหกิจมีหนี้สินจำนวนมาก เช่น ขสมก. การรถไฟแห่งประเทศไทย นายวีระ ฝากไปถึงคนที่ต้องจัดการรัฐวิสาหกิจว่า รัฐวิสาหกิจที่มีปัญหารัฐบาลต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดว่า รัฐวิสาหกิจเหล่านั้นคงอยู่ต่อไปในสภาพแบบนั้น หรือ จะดำเนินการแปรรูปให้เอกชนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดภาระการคลังในอนาคตอย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบัน สำหรับกรณี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูกิจการ โดยที่รัฐบาลยังถือหุ้นใหญ่อยู่ประมาณ 40% แต่ไม่มีสถานะภาพเป็นรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป […]

ข่าวแนะนำ

กต. นำคณะทูตรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา 33 ประเทศ ลงพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ

กทม. 16 ส.ค.-กต. นำคณะทูตรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา 33 ประเทศ ลงพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ สำรวจความเสียหายการใช้ทุ่นระเบิดของฝั่งกัมพูชา นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมด้วยนายรัศม์ ชาลีจันทร์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ นำคณะทูตจากประเทศสมาชิกอาเซียนรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา ผู้แทนองค์การระหว่างประเทศ และองค์กรภาคประชาสังคมด้านการเก็บกู้ทุ่นระเบิด ลงพื้นที่จ.ศรีษะเกษ เพื่อชี้แจงข้อมูลและเหตุผลเกี่ยวกับการดำเนินการของไทย โดยมีคณะทูตและผู้แทน จำนวน 36 คน แบ่งเป็น 33 ประเทศ 1 องค์กร 2 องค์การระหว่างประเทศ สื่อมวลชนไทยและสื่อต่างประเทศ เข้าร่วม ทั้งนี้ ก่อนออกเดินทางกระทรวการต่างประเทศได้บรรยายข้อมูลเบื้องต้นให้คณะได้รับทราบ โดยนายมาริษ กล่าวกับคณะทูต ว่า ขอบคุณที่ร่วมเดินทาง และหวังว่าทุกท่านจะได้รับข้อมูลด้วยตาตัวเองถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนที่จะเดินทางออกไปยัง จ.ศรีสะเกษ โดยจุดแรกจะนำคณะทูตจากประเทศสมาชิกอาเซียนรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวาเดินทางไปโรงเรียนภูมิซรอลวิทยา ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษณ์ เพื่อรับฟังบรรยายสรุปจากกองทัพบก กระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงมหาดไทย จากนั้นจะนำคณะทูตและสื่อมวลชนขึ้นไปภูมะเขือ และฐานปฏิบัติการ เพื่อดูภูมิประเทศ เยี่ยมชมการเก็บกู้ทุนระเบิดของหน่วยปฏิบัติการด้านทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมในพื้นที่ภูมะเขือ สำรวจความเสียหายที่เกิดจากการใช้ทุ่นระเบิดของฝั่งกัมพูชา.-316.-สำนักข่าวไทย

ไทยมีฝนเพิ่มขึ้น ฝนตกหนักบางแห่ง เตือน 6 จว.ระวังน้ำท่วม

กทม. 16 ส.ค.-กรมอุตุฯ รายงานไทยมีฝนเพิ่มขึ้นอยู่ในเกณฑ์กระจายถึงเกือบทั่วไป และมีฝนตกหนักบางแห่ง เตือน จ.พิษณุโลก เพชรบูรณ์ จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 70% ของพื้นที่ กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นอยู่ในเกณฑ์กระจายถึงเกือบทั่วไป และมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดพิษณุโลก เพชรบูรณ์ จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากมีร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ในขณะที่มีหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณภาคเหนือตอนล่าง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ […]

ผ่านฉลุย สภาฯ ไฟเขียวงบ 69 เห็นชอบ 257 : 230

รัฐสภา 15 ส.ค.- ผ่านฉลุย สภาฯ ไฟเขียวงบ 69 เห็นชอบ 257 ต่อ 230 ด้าน ‘พิชัย’ ขอบคุณสภาฯ ยันจะใช้งบให้ตรงตามวัตถุประสงค์โปร่งใส-เป็นประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 เป็นประธานการประชุม วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 ที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญฯ พิจารณาเสร็จแล้ว โดยมีการตั้งวงเงินงบประมาณ จำนวน 3.78 ล้านล้านบาท ซึ่งที่ประชุมสภาฯ ใช้เวลาอภิปรายตลอด 3 วัน ระหว่างวันที่ 13-15 สิงหาคม และลงมติเมื่อเวลา 22.50 น. ผลปรากฏว่า จากจำนวนสมาชิก 487 เสียง เห็นด้วย 257 เสียง ไม่เห็นด้วย 230 เสียง งดออกเสียง 1 […]

พลทหารยิงชาวบ้านเจ็บ 2 ก่อนหนีเข้าป่า จบชีวิตตัวเอง

สุรินทร์ 15 ส.ค. – ตื่นตระหนก เหตุพลทหารที่ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ชายแดน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ควงปืนอาวุธประจำกาย ออกมายิงชาวบ้าน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ก่อนจะหลบหนี และสุดท้ายปลิดชีพตนเอง ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนหาสาเหตุ ติดตามได้จากรายงานของศูนย์ข่าวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ.-สำนักข่าวไทย