รัฐสภา 20 มิ.ย.- “กัณวีร์” เหน็บรัฐบาลตั้งงบเกินตัว อยากมีแอร์ฟอร์ซวัน ประจำตัวนายกฯ ซื้อเครื่องบิน – ฮ.จำเป็นหรือไม่ ต้องใช้งบปี 68 กว่า 3,101 ล้านบาท งบผูกพันกว่า 12,000 ล้านบาท คุ้มแล้วหรือ ยินดีที่เห็นไทยทำงานเชิงสร้างสรรค์กับผู้ลี้ภัย เนื่องในวันผู้ลี้ภัยโลก
นายกัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม อภิปรายร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 โดยกล่าวว่า การจัดทำงบประมาณของรัฐบาลสะท้อนความไร้ประสิทธิภาพในการจัดทำงบประมาณ และไม่ถูกต้องตามสถานการณ์ของประเทศไทย โดยเฉพาะสำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่เพิ่มงบประมาณจาก ปี 2567 ที่มีกว่า 4,240 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 70 % ในปี 2568 ที่มีมากว่า 7,222 ล้านบาท แต่ไม่ได้สอดคล้องกับพันธกิจ ที่ต้องนำประชาชนเป็นศูนย์กลาง ที่เห็นได้ชัดคือประชาชนเห็นแล้วต้องตั้งคำถามว่า ทำไมสำนักนายกรัฐมนตรี ต้องไปซื้อเครื่องยนต์ของเครื่องบินที่เรียกว่า บล.19 ที่พบด้วยว่า ในปี 2568 มีการจัดซื้อ เฮลิคอปเตอร์ 2 ลำ วงเงิน กว่า 667 ล้านบาท และมีงบผูกพันกว่า 3,339 ล้านบาท และยังซื้อเครื่องบินลำเลียง บล.19 วงเงินกว่า 2,434 ล้านบาท และงบผู้พันถึงปี 2571 อีกกว่า 12,170 ล้านบาท และยังมีโรงเก็บท่าอากาศยาน ในงบปี 2568 อีกกว่า 50 ล้านบาท งบผูกพันปี 69 อีกกว่า 128 ล้านบาท และยังมีค่าจ้างซ่อมเก้าอี้ บล.10 อีกกว่า 133 ล้านบาท
“ผมไม่แน่ใจว่าสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี หรือ สลน. จะทำหน้าที่เป็นสถาบันการบินพลเรือนหรือกองทัพอากาศของไทย เราไปดูตรงวิสัยทัศน์ว่าเอาประชาชนเป็นศูนย์กลาง เหตุผลในการมีเครื่องบินลำเลียงเพื่อจะช่วยเหลืองานมนุษยธรรม จะมีสักกี่ครั้งที่จะช่วยเหลือตัวประกันในฮามาส จะมีสักกี่ครั้ง สลน.นี่หรือจะซื้อเครื่องบิน เพราะจะมีงบอื่น ๆ อีก ไหนจะนักบิน วิศวกรอีกมาก เราอยากมี แอร์ฟอร์ซวัน อยากมีเครื่องบินส่วนตัว นี่แหละครับเป็นการจัดทำงบประมาณที่ไม่ตรงพันธกิจของ สลน.”
นายกัณวีร์ กล่าวด้วยว่า ถ้านายกรัฐมนตรีอยากจะทำงานโดยมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง จะต้องเสริมสมรรถนะของสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ควรมีศูนย์ขับเคลื่อนการบริหารงานของนายกรัฐมนตรีในทั่วประเทศ ทำแค่นี้ใช้งบพันล้านบาท ก็สามารถทำได้ การใช้งบเกินตัวสะท้อนความไร้ประสิทธิภาพในการจัดทำงบประมาณของรัฐบาลชุดนี้ ที่ไม่สามารถตอบโจทย์ได้
นอกจากนี้นายกัณวีร์ ได้อภิปรายงบประมาณของ กระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเพิ่มจากปี 2567 มีงบ 8,809 ล้านบาท มาเป็นกว่า 9,014 ล้านบาท ซึ่งอิงกับยุทธศาสตร์ชาติ ความมั่นคงและการแข่งขัน มีงบประมาณที่จะใช้ไปเพื่อจังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วย แต่การจัดลำดับความสำคัญของรัฐบาลชุดนีไม่สอดรับกัน
“ถ้าทำแล้วไม่มีผลสัมฤทธิ์ ไม่ควรทำครับ กระทรวงการต่างประเทศควรจัดลำดับความสำคัญใหม่ของกระทรวงการต่างประเทศ ผมยินดีที่มีการเพิ่มงบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จะมีการส่งกลับผู้ลี้ภัยกลับประเทศต้นกำเนิดอย่างยั่งยืน แสดงให้เห็นว่ากระทรวงการต่างประเทศตื่นตัวกับเรื่องนี้ ซึ่งผมยินดี วันนี้ (20 มิ.ย.) เป็นวันผู้ลี้ภัยโลก ดีมากที่ไทยจะให้บทบาทการทำงานเชิงสร้างสรรค์ให้ดีขึ้น ให้ไทยได้รับการยอมรับในเวทีโลก”
นายกัณวีร์ ยังอภิปรายงบประมาณของกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่ไม่ตรงกับศักยภาพที่ควรจะเป็นหน่วยงานที่จะทำเพื่อประชาชนได้มาก แต่กลับให้งบประมาณที่มากไปกับโครงสร้างพื้นฐาน สร้างอาคาร ซื้อรถ แต่ให้งบน้อยมากกับการพัฒนาคน เช่น โครงการป้องกันและแก้ไขการค้ามนุษย์ ให้ความสำคัญแค่ 14 ล้านบาท แต่ใช้เงิน กว่า 100 ล้านบาท ไปซื้ออาคาร ซื้อรถ ยนต์ ตนจึงไม่สามารถจะเห็นชอบในหลักการร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ปี 2568 เพราะความไร้ประสิทธิภาพของรัฐบาลชุดนี้ .-317-สำนักข่าวไทย