รัฐสภา 24 มี.ค.-“กัณวีร์” ชี้ส่งกลับอุยกูร์ เป็นละครคุณธรรม เป็นการฟอกขาวการกระทำของรัฐบาล อัดตระบัดสัตย์ในประเทศว่าเลวร้ายแล้ว แต่หากไปตระบัดสัตย์ในเวทีระหว่างประเทศเลวร้ายยิ่งกว่า
นายกัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม กล่าวอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี ว่า สิ่งที่เลวร้ายที่สุดคือ การที่นายกรัฐมนตรีขาดเจตนารมณ์การบริหารประเทศ ทำตัวลอยเหนือปัญหา กฎหมายภายในและภายนอก ประเพณีปฏิบัติติระหว่างประเทศ ทำลายความเชื่อมั่นภาพลักษณ์ระหว่างประเทศ ที่รัฐบาลชุดนี้ผลักดันชาวอุยกูร์ 40 กว่าคนไปประเทศจีน โดยวันนี้รัฐบาลได้พยายามฉายหนัง Thailywood ภาพยนตร์เรื่อง โลกหลายใบให้ “นาย” คนเดียว ตอน 73 วันแห่งการโกหก เล่นละคร ทำลายภาพลักษณ์และผลประโยชน์ชาติในเวทีโลก และทำให้สิ่งที่เป็นภาพยนตร์เป็นความจริง ตัวละคร มีนายกรัฐมนตรีอยู่ตรงกลาง และนายใหญ่เชื้อสายจีน รวมถึง 3 รัฐมนตรี ครม.แพทองธาร นายภูมิธรรม เวชยชัย พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง และนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ โดยเมื่อวันที่ 27 ก.พ. ที่ผานมา การส่งกลับพี่น้องชาวอุยกูร์ของรัฐบาลแพทองธาร เป็นเส้นบางๆ ระหว่างการเดินทางกลับโดยสมัครใจและการผลักดันบังคับกลับประเทศ และคำพูดนายกรัฐมนตรี ที่บอกว่า “สมัครใจค่ะ ไม่งั้นต้องลากสิ นี่ไม่มีการลาก เป็นการเดินขึ้นโดยปกติ”
โดยนายกัณวีร์ ได้เปิดเผยข้อมูล 40 ชาวอุยกูร์ จากสำนักตรวจคนเข้าเมือง ที่แสดงให้เห็นว่ามีสัญชาติตุรกีว่าเหตุใดจึงมีสถานทูตจีนเข้ามาเกี่ยวข้อง ทำไมจึงตัดสินใจจะคุยแต่กับรัฐบาลจีน เกิดอะไรขึ้น และภายหลังมีหลังสือขอตัวชาวอุยกูร์ จากสถานทูตจีน จากประเทศไทยทำไมสตม. จึงไปถ่ายรูปในห้องกัก ซึ่งอ้างว่าเป็นการปรับฐานข้อมูล โดยตนขอเปิดแชทจากแอพพลิเคชันวอทแอพ และขอรับผิดชอบเองว่า เหตุใดเขาถูกกัก แต่ตนยังสามารถพูดคุยกับเขาได้ละมีการนำเอกสารให้เซ็นจนชาวอุยกูร์ไม่ยอมเซ็นและอดข้าวประท้วง
นอกจากนั้นนายกัณวีร์ ได้เปิดเผยคลิปเสียงชาวอุยกูร์ 1 ใน 40 คนที่กลับไปแล้วและสามารถพูดภาษาอังกฤษได้ ว่าถ้าคุณทำได้ช่วยบอกชาวไทยมุสลิม ช่วยบอกรัฐบาลไม่ให้ส่งเราไปจีน และปล่อยเราประเทศอื่น ช่วยบอกชาวไทยมุสลิมให้ไปบอกรัฐบาลไทย และเจ้าหน้าที่ห้องกักบอกว่าตอนนี้ไม่สามารถกลับไปจีนได้เป็นสิ่งที่โกหกทั้งหมด นี่เป็นสิ่งที่เจ้าหน้าที่สมต.เข้าไปบอกพวกเขา จนกระทั่งชาวอุยกูร์อดข้าวประท้วงเป็นเวลา 19 วัน ซึ่งรัฐบาลไทยให้สัมภาษณ์ปฎิเสธการส่งกลับจีนถึง 6 ครั้ง แต่หลังจากนั้นความแตกโกหกไม่รอด ต้องเล่นบทความเห็นใจ และกล่าวหาว่าจดหมายที่ตนได้มาเป็นของปลอม และห้องกัก สมต. ไม่มีการบันทึกภาพการปฏิบัติงาน ไม่มีหลักฐาน ทั้งที่ทั่วโลกจับตามอง จึงตั้งคำถามว่าเป็นความบกพร่องหรือนายสั่ง
นายกัณวีร์ ยังระบุว่า วันที่ 18-20 มีนาคม ถึงเวลาเปิดม่านละครคุณธรรม เดินทางไปเยี่ยมชาวอุยกูร์ 5 คน เป็นละครปลายปิดที่ท่านรู้อยู่แล้วว่าจะเป็นอย่างไร เป็นสิ่งไว้ฟอกขาวการกระทำของท่าน ให้มองว่าสิ่งที่ทำอยู่นี้สมัครใจ ซึ่งย้อนถานายภูมิธรรม พันตำรวจเอกทวี รู้หรือไม่การไปพบ 2 ใน 5 คนชาวอุยกูร์ คนหนึ่งเป็นผู้จิตเวช และอีกคนคือครอบครัวอยู่ประเทศที่ 3
“ภาพยนตร์เรื่องนี้ 3 วันแห่งการโกหก หลอกลวง ปู้ยี่ปู้ยำ นโยบายการต่างประเทศของประเทศไทย สิ่งที่ท่านแถลงว่าจะไม่เลือกข้าง แต่รู้หรือไม่ว่าเลือกข้างไปหลายครั้งแล้ว และครั้งนี้เลือกข้างผิด สิ่งที่ท่านโดนตั้งแต่ผลักดันอุยกูร์กลับประเทศจีน การประณามจากเวทีระหว่างประเทศ ทั้งจากรัฐบาลและจากสหประชาชาติ สหภาพยุโรป ในขณะที่เราพยายามความสัมพันธ์ FTA ซึ่งในวันทีประชุมสภาฯ หาข้อตกลงเรื่องดังกล่าว ตนได้พูดไว้แล้วว่าการตระบัดสัตย์ในประเทศว่าเลวร้ายแล้ว หากไปตระบัตสัตย์ในเวทีระหว่างประเทศเลวร้ายยิ่งกว่า ข้อตกลงอย่างไทยกับอียู มีกระดูกสันหลังว่า ห้ามขัดหลักการสิทธิมนุษยชน ทำไมเราต้องเอาตัวไปอยู่ระหว่างเขากวาง หรือเอาตัวเองไปอยู่ตรงกลางระหว่างการเมืองระหว่างประเทศ ตนไม่สนใจว่าจะเป็นจีนหรือสหรัฐฯ เราต้องมีจุดยืนที่มั่นคง” นายกัณวีร์ กล่าว
นายกัณวีร์ กล่าวว่า ตนไม่เห็นว่ารัฐบาลชุดนี้จะมีจุดยืนที่มั่นคงในเวทีระหว่างประเทศ ไม่มีนโยบายการต่างประเทศทำไทยหลุดพ้นจากการเมืองระหว่างประเทศ ในศตวรรษที่ 21 เรื่องนี้แสดงให้เห็นชัดเจนถึงการไร้ความสามารถ ไร้ประสิทธิภาพ ไร้วุฒิภาวะ ไร้ความเป็นผู้นำ ทำตัวอยู่เหนือผลประโยชน์ของประเทศชาติ ไม่ยึดมั่นในนโยบายที่ตัวเองมี ถือเป็นการทุจริตเชิงนโยบายต่างประเทศ.-315.-สำนักข่าวไทย