“กัณวีร์” ชง IPU พิจารณาวาระฉุกเฉิน “ประเด็นมนุษยชนในเมียนมา”

อุซเบกิสถาน 8 เม.ย.-“กัณวีร์” ชง IPU พิจารณาวาระฉุกเฉิน “ประเด็นมนุษยชนในเมียนมา” หวังให้ชาวเมียนมาได้รับความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเท่าเทียม-ทันท่วงที หวังรัฐสภาโลกยืนหยัดเคียงข้างเมียนมา

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะประธานรัฐสภา เข้าร่วมการประชุมสมัชชาสหภาพรัฐสภา เพื่อลงมติเลือกหัวข้อบรรจุเป็นระเบียบวาระฉุกเฉิน หรือเร่งด่วน ในห้วงการประชุมการประชุมสมัชชาสหภาพรัฐสภา ครั้งที่ 150 และการประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างเป็นทางการ ที่กรุงทาชเคนต์ สาธารณรัฐอุซเบกิสถาน ระหว่างวันที่ 4 ถึง 11 เมษายน 2568 ซึ่งที่ประชุมได้มีการเสนอวาระฉุกเฉิน 4 เรื่อง ซึ่งโดย 1 ใน 4 เรื่องคือ ประเด็นสถานการณ์ในเมียนมา หรือ การทูตรัฐสภา เพื่อส่งเสริมสันติภาพในวิกฤตมนุษยธรรมในเมียนมา ที่เสนอโดยไทย และฟิลิปปินส์


โดย นายกัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทย ได้อภิปรายนำเสนอประเด็นดังกล่าวให้เป็นวาระฉุกเฉินของที่ประชุมว่า ขณะนี้ เมียนมาไม่สามารถเป็นสมาชิกอย่างเป็นทางการของ IPU ได้ โดยเป็นเพียงผู้สังเกตการณ์ ไทยและฟิลิปินส์ จึงเป็นเพียง 2 ประเทศในอาเซียน ที่สามารถสะท้อนเสียงไปได้ และซึ่งเมื่อเมื่อวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 7.7 ริกเตอร์ ที่เมียนมา คร่าชีวิตผู้คนมากกว่า 3,300 ราย และมีผู้ได้รับผลกระทบมากกว่า 1,100,000 คน ทั้งบ้านเรือน โรงเรียน หรือโรงพยาบาลได้รับเสียหาย ทำให้ชาวเมียนมาต้องอาศัยอยู่ที่ศูนย์พักพิงชั่วคราว ซึ่งมีน้ำ อาหาร และการดูแลพื้นฐานอย่างจำกัด

นายกัณวีร์ ยังระบุว่า เป็นเวลาหลายปีที่เมียนมาร์ต้องเผชิญกับความเร่งด่วนด้านมนุษยธรรม ความไม่มั่นคง การอพยพ และความไม่ปลอดภัยเป็นเวลาหลายปีทำให้ผู้คนมากกว่า 15 ล้านคนต้องการความช่วยเหลือ แม้จะมีการประกาศหยุดยิงหลังเกิดแผ่นดินไหว แต่การโจมตีทางอากาศและการโจมตีทางอากาศยังคงดำเนินต่อไป โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ต้องการความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมมากที่สุด จึงเป็นเหตุผลที่ไม่อาจละสายตาได้ แม้ชาวเมียนมาร์ไม่ได้ร้องขอการปฏิบัติพิเศษ แต่ชาวเมียนมาร้องขอความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอย่างเท่าเทียมและทันท่วงที เช่นเดียวกับวิกฤตการณ์ต่าง ๆ ในโลก ที่ต้องการการประสานงานที่ได้ผล เข้าถึงได้ รวมถึงการเยียวยา จึงเป็นเหตุผลที่ตนได้นำเสนอวาระฉุกเฉินนี้ จึงขอให้ที่ประชุมสมัชชาสหภาพรัฐสภา ยืนหยัดเคียงข้างชาวเมียนมาด้วยความสามัคคี พร้อมเชื่อมั่นว่า การนำวิกฤตเมียนมาขึ้นมาพูดในการประชุมครั้งนี้ จะมีความหมายในไม่ช้านี้แน่นอน


แต่อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมสมัชชาสหภาพรัฐสภา มีมติไม่ถึงเกณฑ์ 2 ใน 3 ทำให้ข้อเสนอดังกล่าวตกไป ส่วนอีก 3 ประเด็น ที่ถูกเสนอเป็นวาระเร่งด่วน ทั้งสงครามการค้า, การยุติการหยุดยิงของอิสราเอลในปาเลสไตน์ สถานการณ์ความขัดแย้งในคองโก และซูดาน รวมถึงผลกระทบของภาวะโลกร้อน นั้น ผลการลงมติไม่ผ่านเกณฑ์ 2 ใน 3 เช่นกัน ทำให้ข้อเสนอดังกล่าวทั้งหมดตกไป

ขณะที่ อิสราเอลได้เสนอเรื่อง การยุติ 2 มาตรฐาน เพื่อเรียกร้องให้ประชาคมโลกรับผู้ลี้ภัยจากกาซาแทนการแสวงประโยชน์ผู้ลี้ภัยโจมตีอิสราเอลนั้น ได้ถูกถอนออกไปก่อนการลงมติ เนื่องจาก ระหว่างที่มีการพิจารณานั้น ได้เกิดการประท้วง และการวอล์กเอ้าท์ของผู้แทนรัฐสภาส่วนหนึ่งในการประชุม

ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ นายกัณวีร์ ได้เข้าร่วมการประชุมคณะกรรมาธิการส่งเสริมการเคารพกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ ในฐานะผู้ดำรงตำแหน่งในคณะกรรมาธิการชุดดังกล่าว


ในห้วงการประชุม IPU ครั้งที่ 150 ดังกล่าวนี้ ซึ่งมีการหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ในเมียนมาโดยเชิญ ผู้แทน UNHCR คอนเฟอร์เรนซ์ บอกเล่าถึงสถานการณ์ในเมียนมา ซึ่งทำให้มีผู้พลัดถิ่นกว่า 3,500,000 คนมีประชากรได้รับผลกระทบ 15 ล้านคน และหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวในเมียนมาการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมยังไม่สามารถเข้าถึงได้ ทำให้ผู้ประสบภัยกว่า 1,100,000 คนได้รับผลกระทบ และระหว่างนั้น ยังมีเหตุระเบิดจากการสู้รบ ยิ่งทำให้ประชาชนเดือดร้อน จึงมีการหารือว่า ในเวทีระหว่างประเทศนั้น จะร่วมมือกันอย่างไรเพื่อหาทางออกในเรื่องนี้

โดยนายกัณวีร์ ได้สอบถามในที่ประชุมฯ ถึงการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม หลังถูกตัดงบประมาณด้านการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ซึ่งได้รับคำตอบจากองค์กรที่เกี่ยวข้องอย่าง UNHCR ว่า ยังคงให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่ต่อไป พร้อมเสนอให้คณะกรรมาธิการด้านการส่งเสริมการเคารพต่อกฎหมายระหว่างประเทศด้านมนุษยธรรม หรือ IHL ส่งผู้แทนเดินทางไปติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา เพื่อไปติดตามสถานการณ์ที่แท้จริง เพื่อนำไปสู่ความร่วมมือในการแก้ปัญหา.-319.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดรายชื่อทหาร 3 นาย บาดเจ็บ เหยียบกับระเบิด

สุรินทร์ 27 ส.ค.-เปิดรายชื่อทหาร 3 นาย ที่ได้รับบาดเจ็บ เหยียบกับระเบิด บริเวณเนิน 350 ใกล้ปราสาทตาควาย ขณะออกลาดตระเวน เมื่อวันที่ 27 ส.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากการที่ หน่วยทหารจาก พัน.ร.22 ได้จัดกำลังพลออกลาดตระเวนระหว่างฐานปฏิบัติการ บริเวณหน้าบังเกอร์ 11-12 ด้านทิศตะวันตกของปราสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ได้เหยียบกับระเบิดแสวงเครื่องชนิด PMN-2 ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ได้แก่ 1.พลทหาร อดิสร ป้อมกลาง สังกัดสนาม มว.3 ร้อย.ร.221 บาดเจ็บข้อเท้าขวาขาด ขณะนี้อยู่ระหว่างลำเลียงทางอากาศจาก รพ.พนมดงรัก ไปยัง รพ.สุรินทร์ พร้อมชุด Sky Doctor2.จ.ส.อ. ณัฐพงศ์ สีชิน สังกัดสนาม มว.3 ร้อย.ร.221 ถูกสะเก็ดระเบิดเข้าที่แผ่นหลัง อาการบาดเจ็บเล็กน้อย ส่งกลับเข้ารับการรักษาที่ รพ.พนมดงรัก3.พลทหาร ธรรณ์ณธร เทากระโทก สังกัดสนาม มว.3 […]

มทภ.2 ประณามกัมพูชา หลังทหารไทยเหยียบกับระเบิด

กทม. 27 ส.ค.- มทภ.2 ประณามกัมพูชา ละเมิดข้อตกลงหยุดยิง-อนุสัญญาออตตาวาไม่หยุด หลังทหารไทยเหยียบกับระเบิดข้อเท้าขาด 1 นาย ชี้ทุ่นระเบิดมีโครงสร้างพลาสติก เครื่องตรวจหาไม่เจอ เมื่อวันที่ 26 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวประณามกัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิงและอนุสัญญาออตตาวา ต่อเนื่อง หลังวันนี้ เวลาประมาณ 15.45 น. เกิดเหตุ พลทหาร อดิศร ป้อมกลาง สังกัด กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 23 เหยียบกับระเบิด ขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ปราสาทตาควาย อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เบื้องต้นได้รับบาดเจ็บ บริเวณขาขวาท่อนล่างขาด หน่วยในพื้นที่ได้เข้าดำเนินการช่วยเหลือ และนำส่งเพื่อรับการรักษาแล้ว พล.ท.บุญสิน ระบุว่า เนิน 350 ปราสาทตาควาย เป็นพื้นที่ที่ทหารกัมพูชาวางกำลังหนาแน่น และมีทุ่นระเบิดรอบพื้นที่ โดยวันนี้ทหารไทยออกลาดตระเวน ซึ่งเครื่องตรวจวัตถุระเบิดตรวจหาไม่เจอ เนื่องจากทุ่นระเบิดดังกล่าวโครงสร้างเป็นพลาสติก คาดเป็นการวางทุ่นระเบิดใหม่ เบื้องต้นได้ทำหนังสือประท้วงไปทางฝ่ายกัมพูชาแล้ว และเตรียมกำหนดแผนทางการทหารต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

“อดีต ผอ.ขนมจีนน้ำปลา” นอนคุก 20 ปี 60 เดือน หลังศาลฎีกายกคำร้องลดโทษ

สุราษฎร์ธานี 27 ส.ค. – ศาลฎีกายกคำร้องลดโทษ ปิดคดีอดีต ผอ.โรงเรียนบ้านท่าใหม่ จ.สุราษฎร์ธานี ปมให้เด็กอนุบาลกินขนมจีนราดน้ำปลา หลังสู้นาน 5 ปี สุดท้ายรับโทษจำคุก 20 ปี 60 เดือน นายสุชาติ กรวยกิตานนท์ รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.ภาค 8 เป็นประธานแถลงผลคดีที่กล่าวหาอดีตผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านท่าใหม่ อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี ทุจริตเงินอุดหนุนค่าอาหารกลางวันนักเรียนของโรงเรียนบ้านท่าใหม่ ให้เด็กอนุบาลกินขนมจีนราดน้ำปลา และจัดทำเอกสารหลักฐานเกี่ยวกับการจัดซื้อวัสดุเครื่องบริโภคเพื่อประกอบอาหารกลางวันเป็นเท็จ ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2563 และได้ส่งไปให้อัยการสูงสุด ฟ้องผู้ถูกกล่าวหาต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 8 และมีคำพิพากษาให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิด รวม 77 กระทง จำคุก 192 ปี 6 เดือน เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้ว คงจำคุก 50 ปี ซึ่งอดีต ผอ.คนดังกล่าว ได้ยื่นอุทรณ์ขอลดโทษ ภายหลังศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาแก้เป็นว่า การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน […]

ยังไม่พบผู้เสียหายและทำผิดกฎหมาย จากกรณีสแกนม่านตาแลกรับเงิน

ทำเนียบ 27 ส.ค.-รองโฆษกรัฐบาล เผยตรวจสอบล่าสุดยังไม่พบผู้เสียหายและทำผิดกฎหมาย จากกรณีสแกนม่านตาแลกรับเงิน เตือนประชาชนอย่าประมาท นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากกรณีที่ได้ระบุถึงจากข้อมูลของสภาองค์กรของผู้บริโภคที่มีการรายงานว่าพบการชักชวนให้ประชาชนสแกนม่านตาแลกรับเงิน 500-1,000 บาท ในพื้นที่ต่างๆ ของประเทศไทย โดยอ้างถึงว่าจะไปแลกเหรียญคริปโต ซึ่งผู้ที่สแกนม่านตาจะได้รับค่าตอบแทนเป็นเงินรายละ 1,000 บาท ภายใน 24 ชั่วโมง ขณะที่ผู้แนะนำสมาชิกจะได้รับเงิน 500 บาทต่อราย สูงสุดไม่เกิน 10 ราย ล่าสุดมีความคืบหน้าว่า สำนักงานคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPC) ตรวจสอบของตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.) ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า การดำเนินงานของผู้ให้บริการในปัจจุบันถูกต้องตามกฎหมาย และคล้ายกับการดำเนินการในหลายประเทศ ในปัจจุบัน และได้มีการเตรียมประสานกระทรวงดีอีและหน่วยงานอื่นหามาตราการควบคุมข้อมูลอ่อนไหว และยังไม่พบผู้เสียหายหรือกระทำผิดกฎหมาย ทั้งนี้หากพบการละเมิดหรือนำข้อมูลไปใช้ในทางมิชอบ จะดำเนินคดีทันที นายอนุกูล กล่าวว่า เพื่อสร้างความตระหนักรู้เท่าทันต่อความสำคัญของความปลอดภัยที่เหมาะสม รัฐบาลขอย้ำว่า ข้อมูลส่วนบุคคลทางชีวภาพ ถือเป็นข้อมูลส่วนบุคคลขั้นสูงสุด การยินยอมให้เก็บ หรือสแกนจึงควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงความเสี่ยง ดังนี้ 1. การรั่วไหลของข้อมูล หากข้อมูลรหัส Iris Code […]

ข่าวแนะนำ

กั้นแนวถนนบ้านหนองจาน ตามประกาศเคอร์ฟิว

สระแก้ว 27 ส.ค. – มวลชนชาวไทยร่วมร้องเพลงชาติ ที่บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว เมื่อเวลา 18.00 น. จากนั้นทหารขอความร่วมมือให้ออกนอกพื้นที่ ตามประกาศเคอร์ฟิว ก่อนนำลวดหนามและเครื่องกีดขวาง กั้นแนวขอบถนนศรีเพ็ญ ห้ามผู้ใดข้ามไป เพื่อความปลอดภัย. – สำนักข่าวไทย

ดินถล่มหมู่บ้าน อ.แม่แจ่ม ตาย 3 สูญหาย 6

เชียงใหม่ 27 ส.ค. – ฝนที่ตกหนักจากฤทธิ์ของพายุ “คาจิกิ” ทำให้เกิดดินถล่มในหมู่บ้านปางอุ๋ง ซึ่งอยู่บนดอยสูง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย บาดเจ็บ 15 ราย และยังสูญหายอีก 6 ราย สภาพหมู่บ้านเต็มไปด้วยดินโคลนที่ถล่มลงมาทับบ้านเรือนเสียหายนับร้อยหลัง. – สำนักข่าวไทย

“มาริษ” แจงข้าหลวงใหญ่ UN ปมกัมพูชา

สวิตเซอร์แลนด์ 27 ส.ค.-“มาริษ” เผยคุยรองข้าหลวงใหญ่ UN ปมไทย-กัมพูชา สัญญาณบวก เข้าใจไทยไม่ทำผิดกติการะหว่างประเทศ ไม่เห็นด้วย “ฮุน เซน” อัดเสียงคุยนายกฯ และการใช้สงครามข่าวปลอม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าพบหารือกับนางนาดา อัล-นาชิฟ (Nada Al-Nashif) รองข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เพื่อแสดงข้อมูลหลักฐานและชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างไทยกับกัมพูชา นายมาริษ เปิดเผยภายหลังการหารือว่า ได้เล่าให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ฟังถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนของกัมพูชาในหลายประเด็น ซึ่งรองข้าหลวงใหญ่ฯมีความเห็นที่สนับสนุนประเทศไทยในหลายเรื่อง และมีท่าทีที่เป็นห่วงประเทศไทยมาก ซึ่งตนได้ชี้แจงข้อเท็จจริง โดยเฉพาะการที่กัมพูชาใช้โซเชียลมีเดียโจมตีไทยมานานแล้ว มีการให้ข้อมูลว่าไทยลอกเลียนแบบวัดและประวัติศาสตร์ของกัมพูชา ซึ่งไทยพยายามแก้ไขปัญหานี้ด้วยความอดทนอดกลั้น และพยายามชี้แจงให้เห็นว่าเป็นประวัติศาสตร์ที่ก่อตั้งกันมาจากรากเหง้าทางวัฒนธรรมเดียวกัน ไทยต้องการแก้ไขปัญหาไม่ต้องการแสดงความร้าวฉานระหว่างชุมชนและ ประชาชนของทั้งสองประเทศ และเมื่อปัญหาคุกรุ่นมากขึ้นไทยก็พยายาม แก้ปัญหาด้วยการให้กัมพูชามาพูดคุยแบบทวิภาคี เป็นการอธิบายให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ได้เข้าใจว่าไทยปฏิบัติตามกติกา ยึดถือกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศ และพยายามหาทางให้กัมพูชามาพูดคุยกับไทย ซึ่งไทยกับกัมพูชามีข้อตกลง MOU43 ที่ทั้งสองประเทศจะต้องแก้ปัญหาร่วมกันอย่างสันติวิธี และด้วยความจริงใจ นับเป็นกลไกที่องค์การสหประชาชาติให้ความสำคัญ คือการเจรจาทวิภาคีโดยสันติและจริงใจ โดยไทยยึดมั่นมาโดยตลอด และเป็นเป้าหมายที่สำคัญของไทย นายมาริษ กล่าวว่าตนได้หยิบยกประเด็นที่สมเด็จฮุน เซน อัดเสียงพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีของไทย และนำมาเผยแพร่ในที่สาธารณะ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง […]

“ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว

ศาลอาญาฯ 27 ส.ค. – “ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว เหตุคดีมีอัตราโทษสูง และมีทรัพย์สินมูลค่าความเสียหายสูง พนักงานสอบสวน กองกำกับการ 5 กองบังคับการป้องกันปราบปราม ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ขอฝากขังครั้งแรก พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือนายอลงกต พูลมุข ผู้ต้องหาที่ 1 และนายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล ผู้ต้องหาที่ 2 ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 1 ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยินยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าโดยทุจริต, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 2 ฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่รักษาทรัพย์ใดฯ, เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ซึ่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางอนุญาตให้ฝากขัง 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค.- 7 ก.ย.นี้ โดยผู้ต้องหาที่ 1 ไม่ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นนี้ ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 […]