รัฐสภา 17 มี.ค.-“เหยื่อค้ามนุษย์กัมพูชา” น้ำตาท่วม ร้องสภา แก๊งสแกมเมอร์จีนหลอกไปทำงาน สุดท้ายถูกซ้อมทรมาน-ล่วงละเมิดทางเพศ-บังคับเล่นยา ขอให้ช่วยเหลือ ด้าน “กัณวีร์” รับเรื่อง จี้รัฐบาลเดินหน้ายกระดับให้มากกว่าคุยรัฐบาลกัมพูชา ยันภาคประชาสังคมพร้อมให้ข้อมูลเพิ่ม
นายกัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อพรรคเป็นธรรม ในฐานะรองประธานกรรมาธิการ การกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร รับหนังสือร้องเรียนจากนายจารุวัฒน์ จิณห์มรรคา รองประธานมูลนิธิอิมมานูเอล โดยพาผู้เสียหายเหยื่อการค้ามนุษย์ ประมาณ 10 คน จากแก๊งค์สแกมเมอร์ชาวจีนในประเทศกัมพูชา มาขอความอนุเคราะห์เพื่อแก้ไขปัญหาค้ามนุษย์
โดยนายจารุวัฒน์ กล่าวว่า เนื่องจากผู้เสียหายหลายคนถูกดำเนินคดีอาญา ซึ่งเป็นเหยื่อจากการค้ามนุษย์และถูกหลอกไปทำงานสุจริต เช่น งาน รปภ. แม่บ้าน แต่สุดท้ายกลับถูกกักขังและถูกยึดโทรศัพท์ รวมถึงมีการทำร้ายร่างกายสาหัส และยังมีคนไทยอีกหลายพันคนที่ติดอยู่ในตึกประเทศกัมพูชาอีกหลายจุด ไม่ใช่แค่ที่ปอยเปต จำนวน 114 คน โดยผู้ที่อายุน้อยที่สุดคือ 14 ปี อายุมากที่สุด 73 ปี วันนี้ตนจึงนำผู้เสียหายมาเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงและเรียกร้องความยุติธรรม เพื่อให้กลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติ เนื่องจากขณะนี้ผู้เสียหาย ถูกอายัดบัญชีและบางส่วนถูกหมายเรียกหมายจับ ซึ่งมีบางส่วนติดคุกแต่ผู้ค้ามนุษย์ตัวจริงกลับไม่เคยถูกจับยังคงสร้างปัญหาอยู่ จึงนำเรื่องมายื่นเพื่อให้แก้ปัญหาอย่างเร่งด่วนที่สุด
ด้านนายกัณวีร์ กล่าวว่า จากการปราบปรามอย่างจริงจังของรัฐบาล จากการตัดไฟฟ้า ตัดน้ำมัน ตัดอินเทอร์เน็ตในประเทศเมียนมา ทำให้เกิดเหตุการณ์ลุกลามเป็นโดมิโนไปถึงประเทศกัมพูชา ซึ่งมีคนไทยถูกหลอกลวงไปเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ในประเทศกัมพูชาอย่างน้อย 3,000 กว่าคนที่ทางมูลนิธิอิมมานูเอลประสานมาว่ามีคนไทยตกเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ ส่วนนโยบาย 3 ตัดในประเทศเมียนมาและขณะนี้ลามมาถึงประเทศกัมพูชาเราจะมีการติดตามอย่างไร และจะมีมาตรการอย่างไรเพื่อช่วยเหลือเหยื่อการค้ามนุษย์จากประเทศกัมพูชา และต้องมีการคัดกรองก่อนหรือไม่ ก่อนที่จะบอกว่าเขาคือผู้กระทำความผิด ซึ่งเป็นหน้าที่ของกรรมาธิการที่จะประสานงานไปยังฝ่ายบริหาร
ด้านเหยื่อการค้ามนุษย์ เล่าเหตุการณ์ทั้งน้ำตา ว่า เหยื่อส่วนใหญ่ที่โดนไปก็จะถูกหลอก เป็นคนที่อยากหางานทำและหารายได้เสริม เพื่อเสริมสร้างอนาคตของตัวเอง ก็จะนำเรื่องรายได้มาหลอกลวงว่าจะเพิ่มให้ แต่ความจริงมีการกักขังทรมานและทำร้ายร่างกาย ล่วงละเมิดทางเพศ รวมถึงการบังคับให้เล่นยาเสพติด ซึ่งเป็นสิ่งทรมานมากตนไม่อยากให้คนไทยที่อยู่ โดนเหมือนที่ตัวเองโดน อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือ
ขณะที่นายพงศ์นริศร์ ภาสินีนนท์ ตัวแทนศูนย์ประสานช่วยเหลือคนไทยในต่างแดน ยกตัวอย่างเหยื่อที่ได้ช่วยมาล่าสุด อายุ 21 ปี ซึ่งถูกซ้อมทรมานกักขังและทำร้ายร่างกาย ซึ่งตอนที่ไปรับมาช่วงแรกไม่สามารถเดินได้ และถูกบังคับให้ทำยอดหักไม่สามารถทำได้ก็จะถูกทำร้ายร่างกาย เคยวางแผนหลบหนีแต่ถูกจับได้และถูกทำร้ายร่างกาย ซึ่งทุกวันนี้ได้รับการประสานขอความช่วยเหลือแต่ละวันไม่ต่ำกว่า 5-6 คน
นายกัณวีร์ กล่าวในช่วงท้าย ว่าทางตำรวจไทยมีการดำเนินการจริงจัง แต่ข้อกังวลในขณะนี้กรณีบัญชีม้า กลุ่มอาชญากรรมข้ามชาติดำเนินการล้ำหน้าการปราบปรามจับกุม ซึ่งกฎหมายของไทยอาจจะปรับใช้ไม่ได้ในกัมพูชา และความร่วมมือควรเป็นระหว่างรัฐบาลต่อรัฐบาล ขณะเดียวกันยังจำเป็นต้องใช้กรอบความร่วมมือระดับภูมิภาคทวิภาคี และพหุภาคี
โดยเปรียบเทียบการปราบปราม ขบวนการค้ามนุษย์ในฝั่งไทย-เมียนมา ที่มีเจ้าหน้าที่รัฐของจีนเข้ามามีบทบาทจำนวนมากในการปราบปราม และไทยไม่ทราบข้อมูลเชิงลึกว่าผู้กระทำผิดเป็นใครบ้างเนื่องจากถูกตัดตอนไปแล้ว แต่การปราบปรามในฝั่งกัมพูชานั้น ส่วนตัวมองว่ายังไม่ได้ผล จะต้องประสานงานกับรัฐบาลกัมพูชาอย่างเดียว ซึ่งขณะนี้ภาคประชาสังคมที่ทำงานอยู่ มีข้อมูลเบาะแสที่พร้อมมอบให้กับทางภาครัฐได้.-319.-สำนักข่าวไทย