2 เดือนพบคลัสเตอร์โรงงาน 10 จังหวัด

ทำเนียบรัฐบาล 2 มิ.ย.-ศบค.เผย 2 เดือนพบคลัสเตอร์โรงงาน 10 จังหวัด ขณะโรงงานขนาดใหญ่ร่วมมือทำแบบประเมินป้องกันโรค อนามัยสิ่งแวดล้อมเพียงร้อยละ 20 ย้ำต้องทำให้ครบภายใน 15 มิ.ย.นี้


พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) กล่าวว่า ที่ประชุมศบค.ชุดเล็กหารือการแพร่ระบาดภายในโรงงานแปรรูปเนื้อไก่ที่จังหวัดสระบุรี โดยมีพนักงานจำนวนมาก แบ่งเป็นพนักงานชาวไทยกว่า 4,000 คนและชาวต่างชาติกว่า 1,000 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวกัมพูชา การติดเชื้อมีทั้งในส่วนของพนักงานแปรรูปเนื้อสัตว์ ฝ่ายเตรียมการผลิตและในส่วนของออฟฟิศ โดยพบพนักงานชาวกัมพูชาติดเชื้อมากกว่าคนไทย 3.9 เท่า

“เนื่องจากพักอาศัยร่วมกันในหอพักที่ค่อนข้างแออัด 1 ห้องอยู่รวมกัม 3คน รวมถึงรวมกลุ่มและใช้ส่วนกลางร่วมกัน ขณะที่กลุ่มแรงงานช่าง พบว่าติดเชื้อน้อย เพราะมีมาตรการทางด้านสาธารณสุขที่ค่อนข้างดีและมีความระมัดระวังสูง ช่วงสองเดือนที่ผ่านมา มีคลัสเตอร์โรงงาน จำนวน 10 โรงงาน ปัจจัยที่ทำให้เกิดการติดเชื้อภายในโรงงาน คือเรื่องสถานที่แออัด การระบายอากาศไม่ดีพอ จุดสัมผัสร่วมกันไม่สะอาด รวมถึงกิจกรรมที่ทำร่วมกัน โดยในโรงงานขนาดใหญ่พบการติดเชื้อมากถึงร้อยละ 20 โรงงานขนาดกลางและเล็กมีการติดเชื้อร้อยละ 5” ผู้ช่วยโฆษกศบค. กล่าว


พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ที่ประชุมได้จัดทำแผนมาตรการป้องกันการควบคุมโรคภายในโรงงาน เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อและลดความรุนแรงไม่ให้แพร่กระจายไปในชุมชนเป็นวงกว้าง และเพื่อปกป้องเศรษฐกิจและสังคม ให้สถานประกอบการปลอดภัยและดำเนินกิจการได้ในช่วงที่มีการแพร่ระบาด โดยมีโรงงานที่ได้ลงทะเบียนไว้กับกระทรวงอุตสาหกรรมมีทั้งหมด 63,029 แห่ง ซึ่งช่วงที่ผ่านมากรมอนามัย ได้รณรงค์ให้โรงงานและตลาด ใช้เครื่องมือดำเนินการบนแพลตฟอร์มดิจิทัล Good factory practice คือ Thai stop covid+ (TSC) ในการทำแบบประเมินทางด้านป้องกันโรค ด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมและมาตรการเมื่อพบผู้ติดเชื้อ แต่ในช่วงที่ผ่านมามีเพียง 2,800 โรงงานที่เข้าไปทำแบบประเมิน โดยเฉพาะในโรงงานขนาดใหญ่ทำแบบประเมินเพียง 650 โรงงาน คิดเป็นร้อยละ 20 จึงเน้นย้ำว่าภายในวันที่ 15 มิถุนายนนี้ โรงงานขนาดใหญ่ทุกโรงงานจะต้องเข้าไปทำแบบประเมินให้ครบ 100% และขอให้ตอบตามความเป็นจริง หากประเมินไม่ผ่าน ไม่ต้องกังวล เพราะจะมีทีมเจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยเหลือ ทำให้โรงงานปลอดภัย

ผู้ช่วยโฆษกศบค. กล่าวว่า ที่ประชุมมอบหมายให้กรมควบคุมโรคทบทวนรายละเอียดมาตรการการจัดการของแคมป์คนงาน ควบคุมการแพร่ระบาดให้อยู่ในแคมป์ เพื่อให้สถานประกอบการและแคมป์คนงานเข้าใจตรงกันอย่างถูกต้อง เพราะขณะนี้มีหลายแคมป์ที่คิดว่าปฏิบัติถูกต้องและเพียงพอแล้ว แต่ยังทำให้เกิดการแพร่ระบาด ดังนั้น กรมควบคุมโรคจะมีข้อปฏิบัติอย่างละเอียดให้แคมป์คนงาน และหากไม่ปฏิบัติตาม ให้ฝ่ายความมั่นคงสนับสนุนการทำงานของกทม.และกรมควบคุมโรค

“ขอฝากไปยังเจ้าของสถานประกอบการและแคมป์คนงาน ว่าภาครัฐไม่ต้องการใช้บทลงโทษ แต่ขอความร่วมมือ เพื่อดูแลคนงานทุกคนให้เกิดความปลอดภัย และแม้มาตรการของรัฐจะมีความเข้มข้น แต่หากผู้ประกอบการและสถานประกอบการไม่ปฏิบัติตาม ประชาชนก็จะไม่ปลอดภัยเช่นกัน” พญ.อภิสมัย กล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ป.ป.ส. รวบ 3 นักค้ายาเสพติดต่างชาติ ที่สนามบินสุวรรณภูมิ

ป.ป.ส. รวบนักค้ายาเสพติดต่างชาติ 3 ราย ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ส่งออกไปอิตาลี-อังกฤษ เลขาฯ ป.ป.ส. เผยความสำเร็จครั้งนี้เป็นผลจากการประสานงานใกล้ชิดระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ตรวจสอบตลาดปาล์มน้ำมัน หลังราคาพุ่ง

ช่วงนี้น้ำมันปาล์มตามท้องตลาดปรับราคาแพงขึ้น จากเดิมขวดละราว 10 บาท ทำให้ผู้บริโภคถึงกับโอดครวญ ขณะที่เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน ระบุแม้ช่วงนี้ราคาปาล์มน้ำมันขายได้ราคาดีที่สุดในรอบหลายปี แต่เกษตรกรกลับไม่มีปาล์มขาย

ข่าวแนะนำ

เดินหน้าเสนอ ครม. ตั้งคณะกรรมการร่วมไทย-กัมพูชา เจรจาพื้นที่ทับซ้อน

กระทรวงการต่างประเทศ เดินหน้าเสนอ ครม. ตั้งคณะกรรมการร่วมด้านเทคนิค JTC ไทย-กัมพูชา เจรจาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลระหว่างไทยกับกัมพูชา ตามแนว MOU 2544 ยืนยันไม่ทำให้เสียเกาะกูด

เข้าสู่ฤดูหนาว

อุตุฯ ประกาศไทยเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว

กรมอุตุฯ ประกาศการเข้าสู่ฤดูหนาวของประเทศไทย ปี 2567 ตั้งแต่วันที่ 3 พ.ย. โดยเป็นการเข้าสู่ฤดูหนาวช้ากว่าปกติประมาณ 2 สัปดาห์ เนื่องจากมีพายุก่อตัวในมหาสมุทรแปซิฟิกและเคลื่อนเข้าสู่ทะเลจีนใต้ และยังมีฝนบางพื้นที่ ปีนี้จะหนาวกว่าปีที่แล้ว

ช้างพลายขุนเดช

ย้ายแล้ว “ช้างพลายขุนเดช” ไปสถาบันคชบาลแห่งชาติ จ.ลำปาง

ย้ายแล้ว “ช้างพลายขุนเดช” สู่สถาบันคชบาลแห่งชาติ จ.ลำปาง จบดราม่า หลังฝากเลี้ยงที่มูลนิธิอนุรักษ์ช้างและสิ่งแวดล้อม จ.เชียงใหม่