“ประเสริฐ” ประเดิมลงพื้นที่โคราช เร่งขับเคลื่อนมาตรการแล้ง

ทำเนียบ 4 พ.ย.-“ประเสริฐ” รองนายกฯ ห่วงแล้งอีสาน ประเดิมลงพื้นที่โคราช เร่งขับเคลื่อนมาตรการแล้ง คุมเข้มแผนบริหารจัดการน้ำลำตะคอง สำรวจแหล่งน้ำต้นทุน/ป้องกันพื้นที่เสี่ยงภัยแล้ง

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะประธานคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) เป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์น้ำและการขับเคลื่อนมาตรการรองรับฤดูแล้ง ปี 2567/68 โดยมี นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) และหัวหน้าส่วนราชการ เข้าร่วมประชุม เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำและขับเคลื่อน 8 มาตรการรองรับฤดูแล้ง ปี 2567/68 ณ ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา พร้อมมอบนโยบายและพบปะประชาชนในพื้นที่ หลังจากนั้น ลงพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำตามมาตรการรองรับฤดูแล้งในจุดต่างๆ ได้แก่ สถานีผลิตน้ำเฉลิมพระเกียรติ (ท่าช้าง) ต.ท่าช้าง อ.เฉลิมพระเกียรติ, บ่อพักน้ำซับแห้ง บ้านซับศรีจันทร์ ต.คลองไผ่ อ.สีคิ้ว และอ่างเก็บน้ำลำตะคอง อ.สีคิ้ว ตามลำดับ


รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลมีความเป็นห่วงสถานการณ์ภัยแล้งในปีนี้ โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง เนื่องจากในช่วงฤดูฝนที่ผ่านมาในพื้นที่มีปริมาณฝนตกน้อย ทำให้แหล่งน้ำต่างๆ มีปริมาณน้ำที่กักเก็บได้ค่อนข้างน้อย รวมถึงอ่างเก็บน้ำลำตะคอง ซึ่งเป็นแหล่งน้ำต้นทุนที่สำคัญในการผลิตน้ำประปาและการเกษตร ปัจจุบันมีปริมาณน้ำใช้การอยู่เพียง 28% จึงมีความจำเป็นต้องควบคุมแผนการบริหารจัดการน้ำที่มีอยู่อย่างจำกัดให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยให้ความสำคัญกับน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคของประชาชนเป็นอันดับแรก ดังนั้น การลงพื้นที่ในวันนี้ เพื่อบูรณาการทุกหน่วยงานในการเร่งขับเคลื่อน 8 มาตรการรองรับฤดูแล้ง ปี 2567/68 ตามที่ สทนช. ได้คาดการณ์พื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำไว้ล่วงหน้า เพื่อให้หน่วยงานในพื้นที่ได้ดำเนินการเชิงป้องกัน ลดผลกระทบจากภัยแล้งที่อาจเกิดขึ้นให้เหลือน้อยที่สุดหรือไม่เกิดขึ้นเลย รวมทั้งรับฟังปัญหาและอุปสรรคเพื่อนำไปกำหนดแนวทางการแก้ไขในระยะสั้นและระยะยาวต่อไป

“วันนี้ได้มอบหมายให้ สทนช. ร่วมกับจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประสานการทำงานตามมาตรการอย่างใกล้ชิดและเตรียมแผนป้องกันไว้ล่วงหน้า โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงหรือพื้นที่เปราะบาง หากเกิดผลกระทบกับประชาชนต้องเร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือโดยเร็ว พร้อมเร่งจัดเตรียมเครื่องจักรเครื่องมือ ซ่อมแซมหรือปรับปรุงแหล่งน้ำเพื่อเก็บกักน้ำให้มากขึ้น รวมถึงรณรงค์ให้ประชาชนใช้น้ำอย่างประหยัดและรู้คุณค่า เกษตรกรดำเนินการตามแผนเพาะปลูกพืชอย่างเคร่งครัด รวมทั้งเฝ้าระวังปัญหาอัคคีภัยและไฟป่า และมอบหมายให้เทศบาลนครนครราชสีมา เร่งพัฒนาแหล่งน้ำสำรองเพื่อความมั่นคงด้านน้ำต้นทุน ในส่วนการสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ได้มอบหมายให้จังหวัด คณะกรรมการลุ่มน้ำ และภาคส่วนต่างๆ เร่งสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับประชาชนถึงความสำคัญในการบริหารจัดการน้ำอย่างมีส่วนร่วม เพื่อส่งเสริมความเข้มแข็งของกลไกการบริหารจัดการน้ำในเชิงพื้นที่ อันจะเป็นการสร้างความมั่นคงด้านน้ำอย่างยั่งยืน” นายประเสริฐ กล่าว


รองนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า รัฐบาลเห็นความสำคัญในเรื่องน้ำอุปโภคบริโภคของชาวโคราช โดยเฉพาะพื้นที่ด้านเศรษฐกิจในตัว อ.เมืองนครราชสีมา ปัจจุบันมีการใช้น้ำประปาจาก 2 หน่วยงาน ประกอบด้วย สำนักการประปาเทศบาลนครนครราชสีมา ซึ่งจ่ายน้ำให้ประชาชนเขตเทศบาลนครนครราชสีมา 87,500 ครัวเรือน และสถานีผลิตน้ำเฉลิมพระเกียรติ(ท่าช้าง) การประปาภูมิภาคสาขานครราชสีมา จ่ายน้ำให้ประชาชนในพื้นที่นอกเขตเทศบาลนครนครราชสีมา 46,000 ครัวเรือน โดยระบบประปาเทศบาลฯ ใช้น้ำจาก 3 แหล่ง ประกอบด้วย ลำตะคอง ลำแชะ และลำน้ำมูล (อ่างเก็บน้ำลำตะคอง 47,000 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.)/วัน ลำน้ำลำตะคอง 17,000 ลบ.ม./วัน อ่างเก็บน้ำลำแชะ 33,000 ลบ.ม./วัน และลำน้ำมูล 30,000 ลบ.ม./วัน) ส่วนสถานีผลิตน้ำเฉลิมพระเกียรติฯ ใช้น้ำจากลำน้ำมูลเป็นหลัก ปริมาณ 43,000 ลบ.ม./วัน โดยมีแหล่งน้ำสำรองคือ สระเก็บน้ำขนาด 4.1 ล้าน ลบ.ม. สำหรับใช้ในกรณีน้ำในลำน้ำมูลแห้งจนไม่สามารถสูบน้ำขึ้นมาได้ ซึ่งระบบประปาทั้ง 2 แห่ง ต้องใช้แหล่งน้ำดิบจากลำน้ำมูลประมาณ 73,000 ลบ.ม./วัน จากการรับฟังปัญหาพบว่า อ.เมืองนครราชสีมา ประสบปัญหาปริมาณน้ำต้นทุนจากลำน้ำมูลเพื่อผลิตน้ำประปามีไม่เพียงพอต่อความต้องการในพื้นที่ ดังนั้นเพื่อให้ประชาชนมีปริมาณน้ำใช้อย่างเพียงพอ จึงได้กำชับให้กรมชลประทาน โดยโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำแชะและโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษามูลบน สนับสนุนน้ำต้นทุนในลำน้ำมูลให้เพียงพอต่อการผลิตน้ำประปาตลอดช่วงฤดูแล้งนี้

ด้าน เลขาธิการ สทนช. กล่าวเพิ่มเติมว่า จ.นครราชสีมา อยู่ในพื้นที่ลำน้ำมูลเป็นส่วนใหญ่ และมีลำน้ำที่สำคัญ ได้แก่ ลำเชียงไกร ลำตะคอง ลำพระเพลิง ลำแชะ และลำจักราช ปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 30 ต.ค. 67) สถานการณ์น้ำในแหล่งน้ำทั้งหมด 4,962 แห่ง มีปริมาตรน้ำรวมกันอยู่ที่ 650 ล้าน ลบ.ม. หรือ 49% ซึ่งน้อยกว่าปี 66 อยู่ที่ 121 ล้าน ลบ.ม. โดยแหล่งน้ำขนาดใหญ่ 4 แห่ง คือ อ่างฯลำตะคอง อ่างฯลำพระเพลิง อ่างฯมูลบน และอ่างฯลำแชะ มีปริมาณน้ำรวมกันอยู่ที่ 430 ล้าน ลบ.ม. หรือ 49% นอกจากนี้ แหล่งน้ำขนาดกลาง 19 แห่ง มีปริมาณน้ำรวมกันอยู่ที่ 188 ล้าน ลบ.ม. หรือ 58% และแหล่งน้ำขนาดเล็ก 4,939 แห่ง มีปริมาณน้ำรวมกันอยู่ที่ 31 ล้าน ลบ.ม. หรือ 26% ทั้งนี้ สทนช.ได้ประเมินพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคของ จ.นครราชสีมา ใน 31 ตำบล 14 อำเภอ ได้แก่ อ.บ้านเหลื่อม อ.ชุมพวง อ.ลำทะเมนชัย อ.ขามทะเลสอ อ.ขามสะแกแสง อ.เมืองนครราชสีมา อ.ปากช่อง อ.ด่านขุนทด อ.ปักธงชัย อ.โนนสูง อ.พระทองคำ อ.สีคิ้ว อ.โนนไทย และ อ.สีดา

“นอกจากแนวทางแก้ไขปัญหาด้านน้ำของ จ.นครราชสีมา ในระยะเร่งด่วนแล้ว รองนายกรัฐมนตรี (นายประเสริฐ จันทรรวงทอง) ยังได้มอบหมายแนวทางการแก้ไขปัญหาด้านน้ำในระยะยาว โดยให้ สทนช. บูรณาการทุกหน่วยงานเร่งขับเคลื่อนแผนงาน/โครงการพัฒนาแหล่งน้ำในการเพิ่มประสิทธิภาพการกักเก็บน้ำด้านต่างๆ เช่น ธนาคารน้ำใต้ดิน แก้มลิง อ่างเก็บน้ำ เป็นต้น พร้อมกำชับให้เร่งดำเนินการโครงการที่ได้รับอนุมัติงบประมาณให้แล้วเสร็จโดยเร็ว และให้กรมชลประทาน โดยโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำตะคอง บริหารจัดการน้ำในอ่างฯลำตะคองให้มีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อให้มีน้ำใช้อย่างเพียงพอจนสิ้นสุดฤดูแล้ง รวมทั้งให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดหาแหล่งน้ำสำรองเพิ่มเติมเพื่อใช้ในการอุปโภคบริโภคและการเกษตร ตามลำดับ และให้หน่วยงานราชการและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พิจารณาเสนอโครงการพัฒนาแหล่งน้ำขนาดเล็กเพื่อใช้ในการบริหารจัดการน้ำระดับท้องถิ่น รวมทั้งเสริมสร้างความเข้มแข็งของกลุ่มผู้ใช้น้ำเพื่อให้การใช้น้ำร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ อันจะเป็นการสร้างความยั่งยืนในการบริหารจัดการน้ำ” นายสุรสีห์ กล่าว


สำหรับการบูรณาการขับเคลื่อนแผนงาน/โครงการด้านทรัพยากรน้ำในพื้นที่ จ.นครราชสีมา โดยมีแผนงานในปีงบ 67 จำนวน 645 โครงการ ปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น 1.26 ล้าน ลบ.ม. พื้นที่ได้รับประโยชน์ 9,280 ไร่ พื้นที่ได้รับการป้องกันจากอุทกภัย 6,230 ไร่ ประชาชนได้รับประโยชน์ 5,244 ครัวเรือน เช่น ก่อสร้างระบบป้องกันน้ำท่วมพื้นที่ชุมชนเมืองนครราชสีมา ระยะที่ 1 อ.เมืองนครราชสีมา, ทำนบดินหัวงานและอาคารประกอบ โครงการอ่างเก็บน้ำบ้านซับกระจายพร้อมระบบส่งน้ำ ต.กฤษณา อ.สีคิ้ว, ประตูระบายน้ำหัวงานพร้อมอาคารประกอบ โครงการประตูระบายน้ำบ้านยาง ต.ชุมพวง อ.ชุมพวง เป็นต้น ส่วนแผนงบปี 68 จำนวน 302 โครงการ ปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น 5.82 ล้าน ลบ.ม. พื้นที่ได้รับประโยชน์ 30,848 ไร่ พื้นที่ได้รับการป้องกันจากอุทกภัย 4,742 ไร่ อาคารป้องกันตลิ่ง 3,016 เมตร ประชาชนได้รับประโยชน์ 21,780 ครัวเรือน เช่น โครงการจัดหาน้ำดิบเพื่อผลิตน้ำประปาที่โรงกรองน้ำบ้านมะขามเฒ่า จากแหล่งน้ำลำตะคองมายังโรงกรองน้ำบ้านมะขามเฒ่า, โครงการขยายกำลังการผลิตน้ำประปาผิวดินภายในโรงกรองน้ำขนาดไม่น้อยกว่า 500 ลบ.ม./ชั่วโมง บ้านมะขามเฒ่า ต.บ้านใหม่ อ.เมืองนครราชสีมา, โครงการจัดหาแหล่งน้ำบาดาลระยะไกลเพื่อแก้ปัญหาในพื้นที่ขาดแคลนน้ำหรือน้ำเค็ม รูปแบบที่ 1 บ้านซับก้านเหลือง ต.ครบุรีใต้ อ.ครบุรี เป็นต้น.-314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตร.เร่งขยายผลปมอธิการบดี ม.ดัง ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น

สน.บางซื่อ 12 ก.ย. – อธิการบดีมหาวิทยาลัยชื่อดัง กลายเป็นเหยื่อมิจฉาชีพออนไลน์ ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น สูญเงินกว่า 38 ล้านบาท ตำรวจนครบาลเร่งสอบสวน อายัดเงินทันกว่า 3 ล้านบาท ขยายผลโยงบัญชีม้ากว่า 20 บัญชี จากกรณีอธิการบดีมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ถูกเครือข่ายมิจฉาชีพหลอกลงทุน เสียหายกว่า 38 ล้านบาท พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 และ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางมาร่วมสอบปากคำผู้เสียหายด้วยตัวเอง ที่สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา พล.ต.ต.พัลลภ เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าว พนักงานธนาคารได้ตรวจพบความผิดปกติการถอนเงินจากบัญชีผู้เสียหาย แล้วโอนเงินไปยังบัญชีอื่น 3 บัญชี ซึ่งเป็นบัญชีนิติบุคคล หรือบริษัท เป็นจำนวนเงินกว่า 1 ล้าน 9 แสนบาท จึงได้อายัดไว้ก่อนและติดต่อจากศูนย์ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบไปยังผู้เสียหาย ก่อนทราบว่าผู้เสียหายได้เอาเงินไปลงทุนเทรดหุ้น พร้อมให้ผู้เสียหายตรวจสอบว่า เงินที่โอนไปลงทุนนั้นสามารถถอนออกจากบัญชีในระบบบริษัทได้หรือไม่ ปรากฏว่าผู้เสียหายไม่สามารถถอนเงินได้ เจ้าหน้าที่จึงแน่ใจว่าถูกเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง […]

“เฉลิมชัย” ไขก๊อกหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว

พรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย.-“เฉลิมชัย” ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว ด้าน “ชัยชนะ” ยันไม่มีขัดแย้ง ในพรรครักกันดี ไม่มีแพแตก นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ยื่นหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ว่า ตนก็เพิ่งทราบข่าว โดยไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อน แต่ยืนยันว่าในพรรคไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไร รักกันดี ทุกคนแต่การตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นอย่างไรต้องไปถามนายเฉลิมชัยเอง แต่ยืนยันว่า หัวหน้าพรรคกรรมการบริหารพรรค ทุกคนมีความรักใคร่กันดี และตนเชื่อว่านายเฉลิมชัยก็เป็นคนหนึ่งที่รักพรรคประชาธิปัตย์ และทำงานให้กับพรรคมาโดยตลอด ซึ่งตนก็รู้สึกเสียดายและใจหายซึ่งที่ผ่านมานายเฉลิมชัย ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณหรือบอกอะไร สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะดำเนินการอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคและตามกฎหมาย โดยต้องเรียกประชุมวิสามัญ เพื่อนเลือก หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคใหม่เมื่อถามว่าบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำหน้าที่กันต่อไป ส่วนกรรมการบริหารพรรคก็มาเลือกคัดสรรกันใหม่ และหลังจากนี้ต้องรอดูว่าใครจะเข้ามาบริหารพรรค และกำหนดนโยบายทิศทางพรรคอย่างไร แต่ตนก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่ยังยืนหยัด อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามว่าการที่นายเฉลิมชัย ลาออกตอนนี้ เป็นสัญญาณอะไรหรือไม่เนื่องจาก มีไทม์ไลน์ จะยุบสภา ภายใน สี่ เดือน จะไปสังกัดพรรคอื่นหรือไม่ ได้ชัยชนะกล่าวว่าอย่ามองเช่นนั้น เพราะตนเชื่อว่านายเฉลิมชัย […]

“รมต.สุชาติ​” ตั้งสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน-​สีกา

ทำเนียบ 12 ก.ย.- “รมต.สุชาติ​” ตั้งคณะกรรมการสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน​-​สีกา​ หลังถูกร้องสะพัดว่อนโซเชียล​ คาด​ไม่เกิน​ 1 สัปดาห์รู้ผล​ ย้ำให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย นายสุชาติ​ ตันเจริญ​ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเปิดเผยว่า​ มีข้อร้องเรียน ถึงพฤติกรรมของเจ้าอาวาส วัดโสธรวรารามวรวิหาร เกี่ยวกับการประพฤติปฏิบัติไม่ถูกต้อง เข้าข่ายกระทำความผิดพระธรรมวินัย อีกทั้งยังมีข้อมูลเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ โดยการร้องเรียนเป็นเรื่องทรัพย์สินและเรื่องสีกา ซึ่งเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เป็นเจ้าคณะจังหวัด และเป็นพระสังฆาธิการด้วย ดังนั้นจึงต้องให้ความเป็นธรรม ทั้งกับผู้ร้องและประชาชน รวมถึงตัวเจ้าอาวาสด้วย เพราะหากไม่เป็นความจริงจะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ตนจึงได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นประธาน​ ตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริงให้ปรากฏ​ โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูง​ รวมถึงสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ​ และให้ผู้ตรวจของสำนักนายกรัฐมนตรีเข้าไปเป็นคณะกรรมการด้วย เพราะไม่ทราบว่าในโลกออนไลน์พูดเพื่อความสนุกสนานหรือไม่ แต่ยอมรับว่าตนก็ได้ยินเรื่องนี้มานาน มีเค้าโครง​ ยืนยันว่า จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และให้ผู้ร้องสบายใจ​ แต่หากเจ้าอาวาสทำผิดก็ต้องแบบว่าไปตามระเบียบกฎหมาย และต้องแจ้งให้สำนักงานพระพุทธศาสนาดำเนินการต่อไป เมื่อถามว่าวางกรอบระยะเวลาการตรวจสอบไว้เท่าใด นายสุชาติ​ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้วาง แต่คาดว่าไม่น่าจะเกิน 1 สัปดาห์ เพราะจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นพื้นที่ของตน ถ้าไม่ทำก็ไม่ได้ และตนก็เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ประชาชนเลือกมาเป็นผู้แทน […]

นายกฯ โต้ข่าวเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา เชื่อปชช.เข้าใจ

เมืองทองธานี 12 ก.ย.- นายกฯ โต้ข่าว เปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา บอก ขอเป็นรัฐบาลอย่างเป็นทางการก่อน ชี้ ขั้นตอนยังมีอีกเยอะ เชื่อประชาชนเข้าใจ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสความชัดเจนในการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ทำไมข่าวออกไปอย่างนั้นก็ไม่รู้ ไปบิดเบือน เท่าที่ตนดู พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ก็ยังไม่ได้พูดอะไรชัดเจนขนาดนั้น ต้องคำนึงถึงประชาชนคนไทยเป็นหลักก่อนอยู่แล้ว เมื่อถามถึง กระแสการต่อต้านการเปิดด่าน นายกรัฐมนตรีระบุ ขอให้ตนเข้าไปรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้เรายังไม่สามารถให้นโยบายอะไรได้ และการกระทำต่างๆ ยังถือว่าอยู่ภายใต้รัฐบาลปัจจุบันอยู่ ยังไม่ใช่รัฐบาลของตน เมื่อถามต่อว่า ท่าทีของ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 และ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ที่คัดค้านการเปิดด่าน เพราะอาจจะเป็นการส่งเสริมบ่อนการพนันและสแกมเมอร์ นายอนุทิน กล่าวว่า เท่าที่ตนทราบไม่ได้อยู่ดี ๆ จะไปเปิดด่านได้เลย เพราะต้องมีการบรรลุข้อตกลงอะไรอีกเยอะแยะ เมื่อปฏิบัติ ซึ่งต้องรอคณะรัฐบาลของตนเข้าปฏิบัติที่อย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้ตนยังไม่สามารถไปสั่งการหรือให้นโยบายอะไรได้ เมื่อถามว่า […]

ข่าวแนะนำ

บ.เรือด่วนเจ้าพระยา แถลงเหตุไฟไหม้เรือด่วน คาดไฟฟ้าลัดวงจร

14 ก.ย. – บริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา แถลงการณ์เหตุเพลิงไหม้เรือด่วน มีเรือได้รับความเสียหายหนัก 2 ลำ เสียหายเล็กน้อย 1 ลำ และไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือสูญเสีย คาดสาเหตุจากไฟฟ้าลัดวงจร เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2568 เวลาประมาณ 18.36 น. ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้เรือด่วนที่จอดเรียงติดกัน จำนวน 3 ลำ โดยมีเรือที่ได้รับความเสียหายหนักจำนวน 2 ลำ และได้รับความเสียหายเล็กน้อย 1 ลำ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังจากที่เรือได้จอดเลิกงานตามปกติแล้ว บริษัทฯ ขอเรียนชี้แจงว่า ขณะเกิดเหตุนั้น ไม่มีผู้โดยสารหรือพนักงานอยู่บนเรือ จึงทำให้ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือสูญเสียแต่อย่างใด จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าสาเหตุเกิดจากไฟฟ้าที่ต่อจากท่าเรือไปชาร์จแบตเตอรี่ในเรือต้นเพลิงลัดวงจร โดยเรือทั้งหมดได้เข้ามาจอดเลิกงานเวลา 18.15 น. และไม่ได้อยู่ระหว่างให้บริการ เมื่อเกิดเหตุ พนักงานประจำพื้นที่ได้เข้าดับเพลิงเบื้องต้นทันที พร้อมทั้งประสานงานกับเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเข้าควบคุมสถานการณ์ และสามารถควบคุมเพลิงได้ภายในระยะเวลา 45 นาที ขณะนี้บริษัทฯ อยู่ระหว่างการตรวจสอบรายละเอียดอย่างรอบคอบร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อยืนยันสาเหตุที่แท้จริง และเพื่อวางมาตรการป้องกันที่เข้มงวดยิ่งขึ้นในอนาคต บริษัทฯ ขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้น […]

เพื่อไทยขอบคุณทุกคะแนนเสียง หลัง “สง่า” คว้าชัยเลือกตั้งซ่อม สส.เชียงราย

กรุงเทพฯ 14 ก.ย. – พรรคเพื่อไทย ขอบคุณทุกคะแนนเสียงจากประชาชน หลังผลเลือกตั้งซ่อม สส. เขต 7 เชียงราย อย่างไม่เป็นทางการ “สง่า” ชนะขาด “สุทัศน์” จากพรรคประชาชน เพจเฟซบุ๊กพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความภายหลังผลการเลือกตั้งซ่อม สส.เชียงราย เขต 7 อย่างไม่เป็นทางการ ปรากฏว่า นายสง่า พรมเมือง ผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย หมายเลข 1 ชนะขาดนายสุทัศน์ ยาละ ผู้สมัครของพรรคประชาชน หมายเลข 2 โดยระบุว่า พรรคเพื่อไทย ขอขอบคุณทุกคะแนนเสียงของพี่น้องประชาชน ที่ให้ความไว้วางใจเลือกผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เชียงราย จากพรรคเพื่อไทย ทีมงานทุกคน พร้อมเดินหน้าทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อสร้างโอกาสให้กับพี่น้องประชาชนทุกพื้นที่ เพื่อชีวิตที่ดี เพื่อไทยทุกคน.-316-สำนักข่าวไทย

“เพื่อไทย” คว้าชัยเลือกตั้งซ่อม สส. เขต 7 เชียงราย

เชียงราย 14 ก.ย. – ผลคะแนนเลือกตั้ง สส. เขต 7 เชียงราย อย่างไม่เป็นทางการ ณ เวลา 19.39 น. “สง่า พรมเมือง” พรรคเพื่อไทย คะแนนนำโด่งทิ้งคู่แข่ง “สุทัศน์ ยาละ” พรรคประชาชน กว่า 2 หมื่นคะแนน ขณะที่เพจเฟซบุ๊กพรรคเพื่อไทย โพสต์ขอบคุณประชาชนเทคะแนนให้ “สง่า” คว้าชัย วันที่ 14 ก.ย.68 เวลา 19.39 น. ที่ศูนย์รวมคะแนนประจำเขตเลือกตั้งที่ 7 อ.แม่จัน จ.เชียงราย ผู้สื่อข่าวรายงานการเลือกตั้งซ่อม สส.เชียงราย เขตเลือกตั้งที่ 7 แทนตำแหน่งที่ว่าง ภายหลังปิดหีบลงคะแนนเมื่อเวลา 17.00 น. จากนั้นเริ่มนับคะแนน โดยสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดเชียงราย รายงานเมื่อเวลา เวลา 19.39 น. พบว่า นายสง่า พรมเมือง […]

ดีอีเร่งปลดล็อกระงับบัญชีที่ไม่เกี่ยวกับบัญชีม้า

กรุงเทพฯ 14 ก.ย. – ดีอีเร่งปลดล็อกระงับบัญชีธนาคารชั่วคราวให้ประชาชนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบัญชีม้า แจงระงับจำนวนเงินเฉพาะที่โอนออกไปจากบัญชีต้องสงสัยเท่านั้น ไม่ได้ระงับทั้งบัญชี ยังคงทำธุรกรรมได้ปกติ ส่วนบัญชีม้าจะไม่ปลดล็อกเด็ดขาด พร้อมแจงการอายัดบัญชีทำได้เฉพาะกรณีที่มีหมายจากตำรวจเท่านั้น ศาสตราจารย์พิเศษ วิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เป็นประธานการประชุมการดำเนินมาตรการเพิกถอนการระงับบัญชีธนาคารชั่วคราวในบัญชีที่อาจมีความเกี่ยวข้องกับบัญชีม้าของมิจฉาชีพ ซึ่งเป็นผลมาจากการบังคับใช้พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 ร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สมาคมธนาคารไทย สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ศาสตราจารย์พิเศษ วิศิษฏ์ เปิดเผยว่า ตามที่มีกรณีประชาชนได้รับผลกระทบจากการระงับบัญชีธนาคารชั่วคราว ซึ่งเป็นมาตรการในการตรวจสอบและปิดกั้นบัญชีม้าของมิจฉาชีพ เพื่อติดตามเส้นทางการเงิน และนำเงินจากการก่ออาชญากรรมออนไลน์ของมิจฉาชีพกลับคืนมาให้กับผู้เสียหาย เป็นกลไกตาม พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 ตามมาตรา 6 และมาตรา 7 ซึ่งธนาคารมีหน้าที่ในการระงับการทำธุรกรรมทางการเงินเป็นการชั่วคราว โดยจะมีการระงับจำนวนเงินเฉพาะที่โอนออกไปจากบัญชีต้องสงสัยเท่านั้น ไม่ได้ระงับทั้งบัญชีแต่อย่างใด ซึ่งบัญชีธนาคารนั้นยังคงสามารถทำธุรกรรมได้อยู่ตามปกติ ในส่วนของการอายัดบัญชีเป็นกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการอายัดบัญชี ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา โดยมีหมายอายัดเท่านั้น ทั้งนี้ […]