นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) เป็นประธานในพิธีบวงสรวงต้อนรับทับหลังปราสาทหนองหงส์ จังหวัดบุรีรัมย์ และทับหลังปราสาทเขาโล้น จังหวัดสระแก้ว กลับสู่ประเทศไทย ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร โดยมีนายประทีป เพ็งตะโก อธิบดีกรมศิลปากร พร้อมด้วยคณะกรรมการติดตามโบราณวัตถุของไทยในต่างประเทศกลับคืนสู่ประเทศไทย เข้าร่วมในพิธีด้วย
นายอิทธิพล กล่าวว่า รัฐบาลไทย ได้รับมอบทับหลังปราสาทหนองหงส์ จังหวัดบุรีรัมย์ และทับหลังปราสาทเขาโล้น จังหวัดสระแก้ว จากรัฐบาลสหรัฐอเมริกา โดยมีพิธีส่งมอบโบราณวัตถุ เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2564 ณ นครลอสแอนเจลิส ระหว่างสำนักงานสืบสวนความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ สหรัฐอเมริกา ผู้ส่งมอบ และกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส ผู้รับมอบแทนกรมศิลปากรในนามราชอาณาจักรไทย พร้อมทั้งดูแลในการส่งทับหลังทั้งสองรายการออกจากท่าอากาศยานนครลอสแอนเจลิสถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2564 และเคลื่อนย้ายออกจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมายังพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ในเวลา 14.00 น. และทำพิธีเปิดห่อบรรจุภัณฑ์ ตามหลักเกณฑ์การรับและมอบโบราณวัตถุ โดยต้องมีภัณฑารักษ์ และนักวิทยาศาสตร์ ร่วมตรวจสอบสภาพและบันทึกข้อมูล เพื่อเตรียมความพร้อมในการจัดนิทรรศการต่อไป
สำหรับความเป็นมาของทับหลังปราสาทหนองหงส์ จังหวัดบุรีรัมย์ และทับหลังปราสาทเขาโล้น จังหวัดสระแก้ว ได้สูญหายไปจากที่ตั้งในราว พ.ศ.2509 – 2511 แต่ไม่ปรากฏรายงานหรือบันทึกเกี่ยวกับการสูญหาย ต่อมาได้ปรากฏทับหลังสองรายการนี้ อยู่ในฐานข้อมูลโบราณวัตถุของพิพิธภัณฑ์ศิลปะเอเชีย เมืองซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งการติดตามทับหลังทั้ง 2 รายการ เริ่มขึ้นตั้งแต่ปี 2560 เมื่อนายกรัฐมนตรี ลงนามแต่งตั้งคณะกรรมการ ติดตามโบราณวัตถุของไทยในต่างประเทศกลับคืนสู่ประเทศไทย
สืบเนื่องมาจากการสืบค้นข้อมูลโบราณวัตถุของไทย ที่อยู่ในต่างประเทศของกรมศิลปากร รวมทั้งกระแสเรียกร้องของนักวิชาการและประชาชนให้ติดตามโบราณวัตถุของไทยในพิพิธภัณฑ์ต่างๆ ทั่วโลกกลับคืนมา ซึ่งมีมาก่อนหน้านั้นเป็นระยะ ที่ประชุมคณะกรรมการฯ มีมติให้ติดตามทับหลังทั้ง 2 รายการ โดยมอบหมายให้กรมศิลปากรเป็นผู้จัดทำข้อมูล จนกระทั่งวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2561 กรมศิลปากรจึงได้ส่งข้อมูลให้กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้ประสานกับหน่วยงานในสหรัฐอเมริกา ผ่านสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงวอชิงตัน และสถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส ซึ่งหน่วยงานฝ่ายสหรัฐอเมริกาที่รับผิดชอบในคดี คือ สำนักงานสืบสวนความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ กระทั่งมีการนำขึ้นพิจารณาในชั้นศาล จนในที่สุดพิพิธภัณฑ์ศิลปะเอเชียยอมรับว่าทับหลังทั้งสองรายการเป็นกรรมสิทธิ์ของไทย และยินยอมให้ยึดทับหลังเพื่อส่งกลับคืนประเทศไทย
อย่างไรก็ตาม นับเป็นเวลากว่า 50 ปีแล้ว ที่ทับหลังทั้ง 2 รายการได้สูญหายไปจากประเทศไทย ซึ่งเชื่อว่าถูกโจรกรรมจากกลุ่มนักค้าวัตถุโบราณ ไปในช่วงเดียวกับ ทับหลังนารายณ์บรรทมสินธุ์ ปราสาทพนมรุ้ง จ.บุรีรัมย์ ด้วยความร่วมมือครั้งสำคัญนี้ ระหว่างรัฐบาลไทย ภาคประชาชน และรัฐบาลสหรัฐ ทำให้การร่วมติดตามทวงคืนทับหลังทั้ง 2 รายการสำเร็จ แสดงถึงความสัมพันธ์ และมิตรภาพอันดีและยาวนานระหว่างทั้งสองประเทศ
ภาพ ชำนาญวุฒิ สุขุมวานิช