ศบค.ห่วงคนลักลอบเข้าไทย หลังมาเลเซียล็อกดาวน์เต็มรูปแบบ

ทำเนียบ 30 พ.ค. – ศบค.ห่วงคนลักลอบเข้าชายแดนไทย หลังมาเลเซียประกาศล็อกดาวน์เต็มรูปแบบ ขอความร่วมมือมหาดไทยเฝ้าระวังเข้ม ขณะที่ตลาดห้วยขวาง พบติดเชื้ออีก 78 ราย รวม 47 คลัสเตอร์เฝ้าระวังใน กทม. ระดมตรวจให้ครบ 486 ตลาด เตรียมคัดกรองเชิงรุก 30 แคมป์ก่อสร้าง

พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ รองโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 (ศบค.) กล่าวว่า ที่ประชุม ศบค. ชุดเล็ก มีความเป็นห่วงว่าอาจมีคนไทยพยายามเข้าเมืองทางชายแดนจังหวัดต่างๆ หลังประเทศมาเลเซีย ประกาศล็อกดาวน์เต็มรูปแบบ มีผลตั้งแต่วันที่ 1-14 มิถุนายนนี้ ซึ่งจังหวัดที่ ศบค.มีความเป็นห่วง คือ จ.สงขลา จ.ยะลา จ.นราธิวาส และจ.สตูล จึงต้องขอความร่วมมือกระทรวงมหาดไทย โดยเฉพาะผู้ว่าราชการแต่ละจังหวัด บูรณาการกับฝ่ายความมั่นคงในการเฝ้าระวังการลักลอบเข้าเมือง จะเห็นว่าเมื่อการติดเชื้อในประเทศเพื่อนบ้านมีจำนวนเพิ่มขึ้นและมีการล็อกดาวน์ทำให้คนไทยในประเทศนั้นๆ มีความลำบากในการดำเนินชีวิตและมีความพยายามจะหาทางกลับเข้าประเทศไทยเพิ่มขึ้น ซึ่ง ศบค.ไม่ได้ห้ามการเข้าประเทศไทย แต่ขอความร่วมมือให้เดินทางกลับมาในช่องทางที่ถูกต้อง เพื่อเข้าสู่ระบบการกักกันควบคุมโรคต่อไป


พญ.อภิสมัย ยังกล่าวถึงตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร วันนี้ (30พ.ค.) จำนวน 754 ราย มีผู้เสียชีวิต 14 ราย ไม่มีการรายงานคลัสเตอร์ใหม่ ทำให้ปัจจุบันมีการเฝ้าระวังทั้งสิ้น 47 คลัสเตอร์ ใน 28 เขต ในส่วนของตลาดห้วยขวาง เขตห้วยขวาง ผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 78 ราย (ข้อมูล ณ วันที่ 29 พ.ค. 2564) โดยที่ประชุม ศบค.ชุดเล็ก มีการพูดคุยว่า เขตที่ยังไม่พบการติดเชื้อก็ต้องลงพื้นที่สำรวจตลาดที่มีการเฝ้าระวัง โดยภาพรวมตลาดที่จดทะเบียนทั้ง 50 เขตในกรุงเทพมหานคร มีทั้งสิ้น 486 ตลาด ตรวจคัดกรองเชิงรุกไปแล้ว 28 ตลาด และจะระดมตรวจให้ครบด้วยการเก็บตัวอย่างน้ำลาย ซึ่งมีแผนจะตรวจให้ได้ 30,300 ราย รวมถึงตรวจสุขาภิบาล มาตรการสาธารณสุขด้วย

สำหรับกรณีแคมป์ก่อสร้างใน 50 เขตของกรุงเทพมหานคร จากการสำรวจมีทั้งสิ้น 409 แคมป์ บางเขตมีมากกว่า 20 แคมป์ บางแคมป์คนงานเกิน 1,000 คน อาทิ เขตบางกะปิ, เขตบางเขน, เขตลาดพร้าว, เขตห้วยขวาง เป็นต้น พร้อมเน้นย้ำเรื่องการเคลื่อนย้ายแรงงาน และยังมีแผนลงตรวจอีก 30 แคมป์ก่อสร้าง ตั้งแต่วันที่ 1-10 มิ.ย. 2564 เป็นการคัดกรองเชิงรุกด้วยการเก็บตัวอย่างน้ำลายจากแรงงาน รวมถึงมาตรการสิ่งแวดล้อม ความสะอาด จุดสัมผัสร่วม และมาตรการสาธารณสุขอื่นๆ


พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ในส่วนของแรงงานต่างๆ ที่อยู่ในประเทศ เมื่อเจ็บป่วยควรได้รับการรักษาตามมาตรฐาน แม้บางคนไม่ได้ขึ้นทะเบียนอย่างถูกกฎหมาย แต่ด้วยหลักมนุษยธรรม เมื่อป่วยก็ควรได้รับการดูแล เพราะถ้าไม่ได้รับการรักษา ชุมชนจะไม่ปลอดภัยเช่นเดียวกัน โดยกระทรวงแรงงานได้รายงานว่าตั้งแต่วันที่ 13 ก.พ.เป็นต้นมา มีแรงงานต่างด้าวที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตามกฎหมายมาขึ้นทะเบียนถึง 416,769 ราย และยังตกค้างอยู่ประมาณ 200,000 ราย เฉพาะ กทม.มีถึง 70,000 ราย ถ้าเป็นไปได้ขอความร่วมมือนายจ้างให้นำแรงงานเหล่านี้มาขึ้นทะเบียน ให้ได้รับการดูแลสุขภาพและเข้าสู่ระบบการดูแลสุขภาพที่ควรจะได้รับ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้ห้องพักคอนโดฯ หรูกลางเมืองพัทยา

เพลิงไหม้คอนโดมิเนียมหรูกลางเมืองพัทยา จ.ชลบุรี เจ้าหน้าที่ระดมรถน้ำควบคุมเพลิงได้ทัน ทำให้ไฟไม่ลุกลามห้องข้างเคียง

จับ “ใบเฟิร์น” อินฟลูฯสาวชื่อดัง โพสต์ชวนเล่นพนันออนไลน์

ตำรวจไซเบอร์ รวบ “ใบเฟิร์น กุลธาดา” อินฟลูฯ สาวแนวเซ็กซี่ ผู้ติดตามหลักล้าน แปะลิงก์เว็บพนันออนไลน์ เจ้าตัวยอมรับ ทำมาแล้ว 2-3 เดือน

ลิงลพบุรีแหกกรง กว่า 200 ตัว จ่าฝูงนำทีมบุกโรงพัก

ลิงลพบุรีกรงแตก เพ่นพ่านกว่า 200 ตัว จ่าฝูงนำทีมบุกโรงพักท่าหิน ตำรวจปิดประตูหน้าต่างวุ่น ล่าสุดกลับมากินอาหารในกรงแล้วกว่า 100 ตัว กรมอุทยานฯ เร่งลุยจับ คาดใช้เวลา 2-3 วัน

ข่าวแนะนำ

คุมตัวสาวใหญ่โหดฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์ทำแผนฯ

ตร. คุมตัวสาวใหญ่โหด ลวงเพื่อนฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เจ้าตัวสำนึกผิด ฝากขอโทษญาติผู้เสียชีวิต ยอมรับทำเพราะติดหนี้พนันออนไลน์

Drone video captures severe flooding caused by super typhoon Man-Yi in the Philippines

ฟิลิปปินส์น้ำท่วมหนัก หลังไต้ฝุ่น “หม่านหยี่” ถล่ม

มะนิลา 18 พ.ย. – ฟิลิปปินส์เกิดน้ำท่วมรุนแรงในหลายพื้นที่ หลังจากซูเปอร์ไต้ฝุ่นหม่านหยี่ (Man-yi) พัดถล่มเกาะลูซอน ช่วงสุดสัปดาห์ เป็นไต้ฝุ่นลูกที่ 6 ในรอบ 1 เดือน ไต้ฝุ่นขึ้นฝั่งด้วยความเร็วลมสูงสุด 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้เกิดคลื่นสูง 7 เมตรบริเวณริมชายฝั่ง ส่งผลกระทบประชากรกว่า 760,000 คน และทำให้เกิดน้ำท่วมรุนแรงในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะที่จังหวัดนูเอวาเอซีฮา ทางตอนกลางของเกาะลูซอน ที่มีน้ำท่วมสูงเฉลี่ยเกือบ 1 เมตร นอกจากนี้ยังทำให้เกิดดินถล่มและสาธารณูปโภคพังเสียหายมากมาย ประชาชนมากกว่า 1 ล้านคนต้องอพยพไปอาศัยอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราว ขณะนี้ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ พายุหม่านหยี่เป็นพายุไต้ฝุ่นลูกที่ 6 ที่พัดถล่มฟิลิปปินส์ในช่วง 1 เดือน ทั่วทั้งประเทศต้องตื่นตัวเพื่อรับมือภัยพิบัติด้วยมาตรการต่าง ๆ.-812(814).-สำนักข่าวไทย

ฆ่าตัดนิ้ว

เปิดปากสารภาพฆ่าตัดนิ้วแม่ยายอัยการ ชิงทรัพย์ล้างหนี้พนัน

หญิงวัย 56 ปี เปิดปากสารภาพฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์แม่ยายอัยการ ก่อนนำทรัพย์สินไปขายใช้หนี้พนัน ตำรวจคุมตัวไปตามหาทรัพย์สินของกลาง อ้างลงมือก่อเหตุคนเดียว