เลขาฯ ประธานรัฐสภา ย้ำเข้มโควิดสภา เต็มรูปแบบ

กทม. 26 พ.ค.-“ราเมศ” เลขานุการ ประธานรัฐสภา ย้ำมาตรการป้องโควิด-19 สภา เต็มรูปแบบ เชื่อความมีระเบียบวินัย ของทุกคน ช่วยได้มาก

นายราเมศ รัตนะเชวง เลขานุการประธานรัฐสภา ได้กล่าวถึงมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ของรัฐสภาในแรก ที่มีการประชุม ว่า รัฐสภาให้ความสำคัญกับการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างยิ่งยวด ได้วางมาตรการการป้องกันที่เข้มงวดตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา พรุ่งนี้ (27 พ.ค.64) เปิดสภาวันแรก แน่นอนว่าจะมีจำนวนคนเข้ามาในอาคารรัฐสภาเพิ่มมากขึ้นทั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง การมีข้อปฏิบัติของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในการเข้าอาคารรัฐสภา เช่น การกรอกแบบคัดกรองเชื้อโควิด-19 ผ่าน QR CODE หรือ LINK ก่อนวันที่เดินทางมา ณ อาคารรัฐสภา สแกนแอปพลิเคชัน ไทยชนะ/หมอชนะ และตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายก่อนเข้าอาคารรัฐสภา สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาอย่างเคร่งครัดขณะที่อยู่ภายในอาคารรัฐสภา การขึ้นลิฟต์โดยสาร อนุญาตให้ขึ้นได้ครั้งละไม่เกิน 6 คน และต้องยืนตามตําแหน่ง ที่กําหนดไว้ อนุญาตให้มีผู้ติดตาม 1 คน และคนขับรถ 1 คน และต้องกรอกแบบคัดกรองก่อนเข้าภายในอาคารรัฐสภาเช่นกัน คนขับรถจะมีที่พักคอยอยู่บริเวณห้องโถง ชั้น 1 อาคารส่วนกลาง ส่วนอาหารรับรองสมาชิกฯ จัดในรูปแบบPremium Set Box สมาชิกสามารถนําไปรับประทานภายในห้องทํางานของสมาชิกฯ ได้ แต่หากประสงค์จะรับประทาน ในห้องอาหารสมาชิกฯ จะมีการจัดที่นั่งรับประทานอาหารโดยตั้งแผงพลาสติกกั้น และจัดที่นั่งแบบเว้นระยะห่าง


ส่วนในห้องประชุมสภา ให้ ส.ส. นั่งเก้าอี้ ในลักษณะเว้นระยะห่าง โดยไม่เปลี่ยนที่นั่งในขณะเข้าประชุมสภาผู้แทนราษฎร งดการพูดคุยในขณะลงมติ และสวมหน้ากาก อนามัยตลอดเวลาในขณะอภิปรายในห้องประชุม และหาก ส.ส.ที่อภิปรายมีความประสงค์จะไม่สวมหน้ากากอนามัยในขณะอภิปรายก็ให้ขออนุญาตต่อประธาน ในที่ประชุมเพื่อพิจารณา หากประธานอนุญาตให้ ส.ส.ไปอภิปรายที่ แท่นยืนอภิปราย (podium) ที่ จัดไว้ งดการเข้าไปในห้องควบคุมระบบการถ่ายทอดสดการประชุม

นายราเมศ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ห้องทํางานสําหรับประธาน คณะกรรมาธิการสามัญ และห้องทํางานสําหรับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสามารถ ใช้งาน ได้แล้ว ก็จะสามารถช่วยให้ทุกคนไม่มีการรวมกลุ่มกัน หากมีการลงมติก็สามารถลงมาที่ห้องประชุมใหญ่ได้ ด้วยมาตรการต่างๆอย่างเต็มรูปแบบดังที่กล่าวมา ถือว่าเป็นมาตรการที่เข้มงวดตามมาตรฐานของสาธารณะสุข แต่สิ่งสำคัญเชื่อว่าความมีระเบียบวินัยของทุกคนที่เข้าไปใช้อาคารรัฐสภาก็จะเป็นสิ่งที่สำคัญมากในการป้องการการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้ห้องพักคอนโดฯ หรูกลางเมืองพัทยา

เพลิงไหม้คอนโดมิเนียมหรูกลางเมืองพัทยา จ.ชลบุรี เจ้าหน้าที่ระดมรถน้ำควบคุมเพลิงได้ทัน ทำให้ไฟไม่ลุกลามห้องข้างเคียง

จับ “ใบเฟิร์น” อินฟลูฯสาวชื่อดัง โพสต์ชวนเล่นพนันออนไลน์

ตำรวจไซเบอร์ รวบ “ใบเฟิร์น กุลธาดา” อินฟลูฯ สาวแนวเซ็กซี่ ผู้ติดตามหลักล้าน แปะลิงก์เว็บพนันออนไลน์ เจ้าตัวยอมรับ ทำมาแล้ว 2-3 เดือน

ลิงลพบุรีแหกกรง กว่า 200 ตัว จ่าฝูงนำทีมบุกโรงพัก

ลิงลพบุรีกรงแตก เพ่นพ่านกว่า 200 ตัว จ่าฝูงนำทีมบุกโรงพักท่าหิน ตำรวจปิดประตูหน้าต่างวุ่น ล่าสุดกลับมากินอาหารในกรงแล้วกว่า 100 ตัว กรมอุทยานฯ เร่งลุยจับ คาดใช้เวลา 2-3 วัน

ข่าวแนะนำ

คุมตัวสาวใหญ่โหดฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์ทำแผนฯ

ตร. คุมตัวสาวใหญ่โหด ลวงเพื่อนฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เจ้าตัวสำนึกผิด ฝากขอโทษญาติผู้เสียชีวิต ยอมรับทำเพราะติดหนี้พนันออนไลน์

Drone video captures severe flooding caused by super typhoon Man-Yi in the Philippines

ฟิลิปปินส์น้ำท่วมหนัก หลังไต้ฝุ่น “หม่านหยี่” ถล่ม

มะนิลา 18 พ.ย. – ฟิลิปปินส์เกิดน้ำท่วมรุนแรงในหลายพื้นที่ หลังจากซูเปอร์ไต้ฝุ่นหม่านหยี่ (Man-yi) พัดถล่มเกาะลูซอน ช่วงสุดสัปดาห์ เป็นไต้ฝุ่นลูกที่ 6 ในรอบ 1 เดือน ไต้ฝุ่นขึ้นฝั่งด้วยความเร็วลมสูงสุด 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้เกิดคลื่นสูง 7 เมตรบริเวณริมชายฝั่ง ส่งผลกระทบประชากรกว่า 760,000 คน และทำให้เกิดน้ำท่วมรุนแรงในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะที่จังหวัดนูเอวาเอซีฮา ทางตอนกลางของเกาะลูซอน ที่มีน้ำท่วมสูงเฉลี่ยเกือบ 1 เมตร นอกจากนี้ยังทำให้เกิดดินถล่มและสาธารณูปโภคพังเสียหายมากมาย ประชาชนมากกว่า 1 ล้านคนต้องอพยพไปอาศัยอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราว ขณะนี้ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ พายุหม่านหยี่เป็นพายุไต้ฝุ่นลูกที่ 6 ที่พัดถล่มฟิลิปปินส์ในช่วง 1 เดือน ทั่วทั้งประเทศต้องตื่นตัวเพื่อรับมือภัยพิบัติด้วยมาตรการต่าง ๆ.-812(814).-สำนักข่าวไทย

ฆ่าตัดนิ้ว

เปิดปากสารภาพฆ่าตัดนิ้วแม่ยายอัยการ ชิงทรัพย์ล้างหนี้พนัน

หญิงวัย 56 ปี เปิดปากสารภาพฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์แม่ยายอัยการ ก่อนนำทรัพย์สินไปขายใช้หนี้พนัน ตำรวจคุมตัวไปตามหาทรัพย์สินของกลาง อ้างลงมือก่อเหตุคนเดียว