กรุงเทพฯ 24 พ.ค.- IRPCขายหุ้นกู้ 1.2 หมื่นล้านบาทเกลี้ยง ด้าน CP ALL เตรียมเปิดขาย 1.2 หมื่นล้านบาท นำเงินมาใช้ตามงกลยุทธ์ O2O
นายชวลิต ทิพพาวนิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC เปิดเผยว่า หุ้นกู้ของ IRPC ที่ได้เสนอขายระหว่างวันที่ 17 – 19 พฤษภาคม ที่ผ่านมานั้น ได้รับการตอบรับจากผู้ลงทุนอย่างล้นหลาม สะท้อนถึงความมั่นใจในปัจจัยพื้นฐานของบริษัทจากทั้งผู้ลงทุนสถาบัน ผู้ลงทุนสหกรณ์ และผู้ลงทุนทั่วไป
ทั้งนี้ IRPC ได้เสนอขายหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้จำนวน 5 รุ่น มูลค่าเสนอขายรวมทั้งสิ้น 12,000 ล้านบาท ประกอบด้วยหุ้นกู้อายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.00% ต่อปี มูลค่า 4,000 ล้านบาท เสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไปและหุ้นกู้อายุ 3 ปี 7 ปี 10 ปี และ 15 ปี อัตราดอกเบี้ย 1.77% 2.91% 3.38% และ 4.10% ต่อปี ตามลำดับ มูลค่ารวม 8,000 ล้านบาท เสนอขายผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่
นายเกรียงชัย บุญโพธิ์อภิชาติ Chief Financial Officer บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CP ALL เปิดเผยว่า บริษัทฯ เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไป จำนวน 3 ชุด ประกอบด้วย หุ้นกู้ชุดที่ 1 อายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.00% ต่อปี หุ้นกู้ชุดที่ 2 อายุ 7 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.40% ต่อปี และหุ้นกู้ชุดที่ 3 อายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.90% ต่อปี โดยหุ้นกู้ทั้ง 3 ชุด กำหนดชำระดอกเบี้ยทุก 6 เดือน และผู้ลงทุนสามารถจองซื้อได้ในวันที่ 11 และ 14 – 15 มิถุนายนนี้ กำหนดจองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท และทวีคูณทุกๆ 100,000 บาท
หุ้นกู้ดังกล่าวได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ “A+” จากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด แนวโน้มอันดับเครดิต “คงที่” สะท้อนถึงความแข็งแกร่งในการดำเนินงานของบริษัทฯ เสนอขายผ่าน 10 สถาบันการเงิน ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารทหารไทยธนชาต ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย ธนาคารยูโอบี บริษัทหลักทรัพย์เกียรตินาคินภัทร และบริษัทหลักทรัพย์เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย)
Chief Financial Officer CP ALL กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา หรือ COVID-19 ในปัจจุบัน บริษัทฯได้ติดตามพร้อมประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพื่อวางแผนปรับกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ด้วยกลยุทธ์การทำธุรกิจในรูปแบบ O2O โดยการผสมผสานและเพิ่มช่องทางการให้บริการทั้งการสั่งสินค้า จำหน่ายสินค้าและรับสินค้า ผ่านระบบออนไลน์และร้านสาขาที่เปิดให้บริการกว่า 12,000 แห่งทั่วประเทศ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
ปัจจุบันบริษัทฯ ยังคงมีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งและมีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่ดี โดย ณ วันที่ 31 มีนาคม 2564 บริษัทฯ มีเงินสดอยู่ที่ 36,539 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2563 ประมาณ 7,222 ล้านบาท และมีสินทรัพย์รวมอยู่ที่ 518,917 ล้านบาท และมีส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ที่ 114,609 ล้านบาท การออกหุ้นกู้ ส่งผลดีต่อการปรับโครงสร้างทางการเงินให้เข้มแข็งยิ่งขึ้นและเสริมศักยภาพด้านเงินทุน เพื่อรองรับการขยายธุรกิจตามแผนงานที่วางไว้ สำหรับการขยายการลงทุนในต่างประเทศนั้น บริษัทฯ ได้เตรียมความพร้อมรองรับการเปิดสาขาเซเว่น อีเลฟเว่น ในกัมพูชาและ สปป.ลาว ซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง หากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 คลี่คลายและเริ่มมีการเปิดประเทศ ก็พร้อมจะเดินหน้าขยายการลงทุนตามแผนงานที่วางไว้-สำนักข่าวไทย