กาฬสินธุ์ 21 พ.ค.- ฆ่าหมูยกคอก 38 ตัว เนื่องจากติดเชื้อเพิร์ส ปศุสัตว์จังหวัดกาฬสินธุ์เป็นห่วงเตือนให้เกษตรกรซื้อสุกรอย่างถูกกฎหมายและตรวจสอบรายละเอียดข้อมูลให้ดีก่อนจะสั่งซื้อพันธุ์สุกร
นายตระกูล หนูนิล นายอำเภอสหัสขันธ์ และนายสุรพล เกิดศักดิ์ ปศุสัตว์อำเภอสหัสขันธ์ นำเจ้าหน้าที่จากสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดกาฬสินธุ์ เข้าฉีดยาทำลายสุกรในฟาร์มแห่งหนึ่งในเขตตำบลสหัสขันธ์ อำเภอสหัสขันธ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ หลังพบลูกสุกรอายุ 2 เดือน ติดเชื้อ PRRS หรือเพิร์ส ทั้งคอก 38 ตัว ได้สอบสวนโรคและป้องการการแพร่ระบาดอย่างเร่งด่วน
การพบเชื้อเพิร์สในหมูรายแรกของอำเภอสหัสขันธ์ เป็นเกษตรกรรายใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้น มีการติดต่อซื้อขายสุกรมาจากต่างจังหวัด เบื้องต้นนำมาเลี้ยง 50 ตัว ซึ่งเลี้ยงได้เพียง 20 วัน ระหว่างนั้นสุกรป่วย ไอ และทยอยตายวันละตัวสองตัว จนเริ่มผิดสังเกต จึงแจ้งไปยังปศุสัตว์อำเภอสหัสขันธ์ และเก็บตัวอย่างส่งตรวจ จนพบว่าสุกรติดเชื้อไวรัส PRRS หรือเพิร์ส ซึ่งจะต้องเร่งยับยั้งการเลี้ยงสุกรต่อเพื่อกำจัดเชื้อโดยเร็ว
นายสุรพล เกิดศักดิ์ ปศุสัตว์อ.สหัสขันธ์ กล่าวว่า เมื่อมีการตรวจพบการติดเชื้อเพิร์ส หรือ PRRS สิ่งที่ต้องดำเนินการคือยับยั้งการแพร่เชื้อ ทางสำนักงานปศุสัตว์ได้ประสานงานไปยังปศุสัตว์จังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อดำเนินการขั้นตอนแรกคือ ฉีดยาให้สุกร เมื่อตายแล้วจากนั้นจะเคลื่อนย้ายไปฝังกลบ ที่จะต้องขุดหลุมลึก 1 เมตร ในหลุมจะต้องเทยาฆ่าเชื้อซ้ำอีกรอบก่อนจะฝังกลบ ตรวจสอบพบว่าเกษตรกรเป็นรายใหม่ยังไม่ลงทะเบียน ไม่มีประสบการณ์การเลี้ยงสุกร ซึ่งจากนี้ไปก็จะเร่งทำความเข้าใจให้ผู้สนใจต่อไป โดยในรายนี้ได้ทำลายสุกรยกคอกทั้งหมด 38 ตัว โดยเจ้าหน้าที่ยังได้สำรวจหลุมฝังซากสุกรที่ตายไปอีก 12 ตัว เพื่อลงบันทึก ทั้งนี้ การเคลื่อนย้ายสัตว์ต้องมีใบอนุญาตใบรับเป็นรองจากปศุสัตว์ หากเกษตรกรสนใจ สามารถสอบถามรายละเอียดได้
ส่วนที่เกิดขึ้นถือเป็นรายแรกที่ลักลอบเคลื่อนย้ายมาในพื้นที่ โดยเป็นสุกรมาจากต่างจังหวัดซึ่งเป็นพื้นที่แพร่ระบาดของเชื้อเพิร์ส หรือ PRRS และมีการเผยแพร่การตลาดในออนไลน์ ซึ่งเกษตรกรต้องตรวจสอบรายละเอียดข้อมูลให้ดีก่อนจะสั่งซื้อพันธุ์สุกร อย่างรายนี้ต้องทำลายยกคอกเพื่อไม่ให้แพร่เชื้อและเกิดอันตรายในพื้นที่ หากเคลื่อนย้ายไปยังที่ต่างๆ.-สำนักข่าวไทย