หญิงท้องแก่ประกาศตามหาสามีหายตัวปริศนา 5 วัน

บุรีรัมย์ 20 พ.ค. – หญิงท้องแก่​ประกาศตามหาสามี​หายตัวปริศนานาน 5 วัน ขณะนั่งรถทัวร์จาก กทม.กลับบ้าน​ เผยข้อความแชทสุดท้ายลักษณะตัดพ้อ หวั่นสามีเป็นอันตราย


น.ส.สุธิมาส จำปามูล หรือ ต่าย อายุ 26 ปี ชาว อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งตั้งครรภ์ลูกคนที่ 2 ได้ 7 เดือน นำรูปถ่ายสามี พร้อมข้อความสนทนาผ่านไลน์ และตั๋วรถทัวร์ที่สามีส่งมาให้ก่อนขึ้นรถทัวร์ มาให้สื่อช่วยประกาศตามหานายวรากร ศรีหะ หรือ หวอ อายุ 29 ปี สามี หลังหายตัวปริศนา ขณะนั่งรถทัวร์จากกรุงเทพฯ กลับบ้านที่ จ.บุรีรัมย์ ตั้งแต่วันที่ 15 พ.ค.ที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบัน 5 วันแล้ว แต่ยังกลับไม่ถึงบ้าน โทรศัพท์ติดต่อไม่ได้

น.ส.สุธิมาส ภรรยา เล่าว่า นายวรากร สามี เดินทางไปทำงานก่อสร้างที่กรุงเทพฯ เมื่อเดือน ก.พ.63 กลับมาเยี่ยมบ้านช่วงเดือน ธ.ค.63 จากนั้นไม่ได้กลับมาอีก เพราะติดโควิด แต่ก็โทรและแชทหากันเรื่อยๆ ระยะหลังเวลาที่คุยกับสามี น้ำเสียงเหมือนคนมีปัญหา แต่ด้วยความที่เป็นคนไม่ค่อยพูด จึงไม่ระบายให้ใครฟัง ตนก็เลยบอกสามีว่า ถ้ามีปัญหาไม่สบายใจให้กลับมาหางานทำที่บ้านเรา กระทั่งเมื่อวันที่ 15 พ.ค.ที่ผ่านมา เวลา 09.53 น. สามีก็ถ่ายรูปตั๋วรถทัวร์ส่งมาให้ดูทางไลน์ ว่าได้ซื้อตั๋วแล้ว กำลังไปขึ้นรถที่ บขส.รังสิต จากนั้นช่วง 10-11 โมงเช้า ก็ยังแชทคุยถามไถ่ปกติ ทั้งคุยกันเรื่องว่า ถ้ามาถึงแล้วต้องกักตัว 14 วัน ถ้าไม่กักก็ต้องไปตรวจหาเชื้อโควิดที่โรงพยาบาล ก็แชทโต้ตอบกันไปมาเรื่องตรวจโควิดตามมาตรการของผู้ที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด กระทั่งเวลา 12.15 น. สามีก็ส่งข้อความมาว่า “กูบ่ปัยแล้ว บอกอิมู่นำ ดูแลลูกดีๆ” ก็งงว่าทำไมสามีถึงส่งข้อความแบบนั้น ตนก็แชทกลับไปถามว่าเป็นอะไร แต่สามีไม่เปิดอ่านไลน์ โทรไปก็ไม่รับ หลังจากนั้นก็ติดต่อสามีไม่ได้อีกเลย


กระทั่งวันที่ 16 พ.ค. ก็ยังไม่เห็นสามีกลับมาบ้าน โทรไปถามที่บ้านตายาย หรือบ้านพ่อแม่ของสามี ก็บอกว่าไม่เห็น จึงพยายามโทรติดต่อสามีอีกครั้งก็ติดต่อไม่ได้ ด้วยความเป็นห่วง เพราะสามีน่าจะมาถึงบ้านแล้ว จึงโทรไปถามหัวหน้าที่สามีทำงานอยู่ และเพื่อนที่สนิทสนมกัน ก็ไม่มีใครเห็นนายวรากรเลย รู้สึกเป็นห่วงและใจคอไม่ดี กลัวสามีจะได้รับอันตราย เพราะไม่รู้ว่าสามีหายไปไหน ไปกับใคร หรือมีปัญหาอะไรหรือไม่ แต่พอเข้าไปดูที่เฟซบุ๊กของสามี พบว่าเมื่อวันที่ 14 พ.ค. ก่อนสามีจะเดินทาง 1 วัน สามียังโพสต์เฟซบุ๊ก ข้อความว่า “กลับไปเติมกำลังที่บ้านเฮา#พักกายพักจัย#” พร้อมลงรูปลูกสาวคนโตวัย 4 ขวบด้วย อีกทั้งยังมีการเปลี่ยนรูปโพรไฟล์ใหม่ พร้อมระบุข้อความว่า “ไร้ค่าไร้ตัวตน” ซึ่งเป็นข้อความในลักษณะตัดพ้อ แต่ตนก็ไม่รู้ว่าสามีเป็นอะไรกับใคร หรือน้อยใจใคร แต่ยืนยันว่า ส่วนตัวไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน

เบื้องต้นครอบครัวได้ไปแจ้งความกับตำรวจ สภ.สตึก ไว้แล้ว พร้อมทั้งโพสต์เฟซบุ๊กประกาศตามหาผ่านโซเชียล และให้กู้ภัยช่วยตามหา แต่ก็ยังไร้วี่แววของสามี แต่มีคนขับรถทัวร์คันที่สามีนั่งเห็นโพสต์แล้วโทรติดต่อมาบอกว่า สามีของตนได้นั่งรถทัวร์ตามที่ซื้อตั๋วมาจริง แต่ได้ขอลงรถระหว่างทางที่บริเวณลำตะคอง จ.นครราชสีมา ซึ่งคนขับรถก็ถามว่า ทำไมไม่ไปลงที่ บขส.โคราช แต่สามีตนยืนยันว่าจะลงตรงนี้ ซึ่งก็ไม่มีใครรู้เหตุผล ตนเป็นห่วงสามีมาก อยากวิงวอนให้ผู้ที่พบเห็นสามีของตนช่วยแจ้งเบาะแสมาที่ สภ.สตึก หรือเบอร์โทรศัพท์ของตนเอง 094-8198544. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีตครูจำใจสร้างห้องขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา

สลด! อดีตครูวัย 64 ปี จำใจจ้างช่างทำห้องคล้ายกรงขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา-พนันออนไลน์ หลังส่งตัวบำบัดกว่า 10 ครั้ง แต่ออกมาก็เหมือนเดิม

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2 โชคดีบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่ส่งรักษาตัวที่ รพ.เจ้าพระยา

อาม่าแจ้งความ “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธีสูญ 60 ล้าน

อาม่าวัย 77 ปี โร่แจ้งความเอาผิด “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธี-แนะซื้อวัตถุมงคลแล้วไม่ได้รับของ สูญเงินกว่า 60 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ทนายตั้ม

“ทนายตั้ม” ปรากฏตัวแล้ว บอกไม่สบายใจมี ตร.เฝ้าหน้าบ้าน

ปรากฏตัวแล้ว “ทนายตั้ม” พบตำรวจเหตุมีเจ้าหน้าที่ไปเฝ้าที่บ้าน พร้อมแจงปมเงิน 39 ล้านบาท ค่าศิลปินจีน ที่แท้เป็นมิจฉาชีพหลอก “เจ๊อ้อย” ปฏิเสธพบคู่กรณี บอกยังไม่พร้อมคุย

เกาะกูด

“ภูมิธรรม” ย้ำจะรักษาผลประโยชน์ทางทะเลของไทยไว้เท่าชีวิต

“ภูมิธรรม” มอง MOU44 คือกลไกที่ดีที่สุด ก่อนย้อนกลุ่มการเมือง พปชร.ไปถามหัวหน้าพรรคตัวเอง เพราะเป็นคนนำเจรจาในปี 57 ยันไม่เคยยกเลิกในสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ ย้ำรัฐบาลจะรักษาดินแดน-ผลประโยชน์ทางทะเลของไทยไว้เท่าชีวิต

US election

ทรัมป์-แฮร์ริส หาเสียงวันสุดท้าย ก่อนหย่อนบัตรวันนี้

ขณะนี้เหลือไม่ถึง 24 ชั่วโมงก็จะถึงวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ 5 พฤศจิกายน ผลสำรวจความเห็นประชาชนต่างชี้ว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ และนางคอมมาลา แฮร์ริส