กรุงเทพฯ 20 พ.ค.-รมว.แรงงาน ประสานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ นำศพ 2 แรงงานไทยกลับประเทศไทย โดยจะมาถึงวันที่ 26 พ.ค. บริษัทที่ทำงานรับผิดชอบจัดส่งศพไปถึงบ้านที่ จ.เพชรบูรณ์ และบุรีรัมย์ ขณะที่ผู้ได้รับบาดเจ็บ 8 ราย ยังรักษาตัวอยู่ใน รพ. 1ราย ส่วนอีก 7 ราย กลับที่พักคนงานแล้ว
นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือนำศพแรงงานไทยที่เสียชีวิตจากเหตุระเบิดในอิสราเอลกลับประเทศไทย ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลกระทรวงแรงงาน ได้แสดงความเสียใจกรณีแรงงานไทยเสียชีวิต และห่วงใยแรงงานไทยที่ได้รับบาดเจ็บ จึงได้สั่งการให้ตนในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ประสานความร่วมมือกับกระทรวงการต่างประเทศ
และในวันนี้ได้โทรศัพท์ประสานพูดคุยกับ น.ส.พรรณนภา จันทรารมย์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ซึ่งจากการประสานทราบว่า ศพของแรงงานไทย จำนวน 2 ราย คือ นายวีรวัฒน์ การันบริรักษ์ อายุ 44 ปี ภูมิลำเนาอยู่ที่จังหวัดเพชรบูรณ์ และนายสิขรินทร์ สงำรัมย์ อายุ 24 ปี ภูมิลำเนาอยู่ที่จังหวัดบุรีรัมย์ จะมาถึงประเทศไทย ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ในวันที่ 26 พฤษภาคมนี้ โดยบริษัทที่แรงงานไทยทำงานอยู่จะรับผิดชอบในการจัดส่งศพไปจนถึงบ้านของแรงงาน ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 8 ราย ขณะนี้ยังพักรักษาตัวในโรงพยาบาล 1 ราย คือ นายอัตรชัย ธรรมแก้ว อายุ 28 ปี ภูมิลำเนาอยู่ที่จังหวัดอุบลราชธานี ส่วนที่เหลืออีก 7 ราย ได้กลับไปที่พักคนงานทั้งหมดแล้ว
นายสุชาติ กล่าวต่อว่า เอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ยังรายงานเพิ่มเติมอีกว่า มีแรงงานไทยอีกจำนวน 5 ราย ที่แจ้งความประสงค์กับสถานเอกอัครราชทูตฯ โดยจะเดินทางกลับในวันที่ 25 พฤษภาคมนี้
นอกจากนี้ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ยังได้สั่งการให้ฝ่ายกงสุล ประสานให้ทางการอิสราเอลดูแลคนงานไทยเป็นอย่างดี ซึ่งในเบื้องต้นวานนี้ (19 พ.ค.) ได้ให้จิตแพทย์เข้าไปพูดคุยกับคนงานในพื้นที่ที่มีการระเบิด โดยนายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีของอิสราเอล ได้มาบรรยายสรุปถึงสถานการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้น พร้อมกล่าวแสดงความเสียใจกับเอกอัครราชทูตฯ ในกรณีที่แรงงานไทยเสียชีวิต จำนวน 2 ราย และบาดเจ็บอีก 8 ราย จากเหตุระเบิดในครั้งนี้
ขณะเดียวกัน เอกอัครราชทูตฯ ยังได้รายงานกับนายกรัฐมนตรีของอิสราเอลว่า กรณีการเกิดเหตุระเบิดในครั้งนี้ ระบบไซเรนไม่มีเสียงดังขึ้น และที่หลบภัยยังมีน้อยเกินไป จึงขอให้มีการตรวจสอบเพิ่มเติม ซึ่งนายกรัฐมนตรีของอิสราเอลรับจะไปดำเนินการ
ขณะที่แรงงานไทยที่ทำงานอยู่ในประเทศอิสราเอลอยู่แล้วในขณะนี้ และยังไม่ประสงค์จะแจ้งการเดินทางกลับประเทศไทย หากแรงงานไทยรายใดประสงค์จะขอให้ย้ายออกจากพื้นที่อันตราย ทางท่านทูตก็ยินดีที่จะดำเนินการให้ตามที่ร้องขอต่อไป.-สำนักข่าวไทย