กทม. 27 เม.ย.- นครนายก ออกคำสั่ง ให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าขณะอยู่นอกเคหสถาน คุมโควิด-19 ฝ่าฝืนปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท
นายอำพล อังคภากรณ์กุล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก ในฐานะผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดนครนายก ออกคำสั่งเรื่องให้ประชาชน ในพื้นที่จังหวัดนครนายกสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในประเทศไทย และจังหวัดนครนายก มีจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมและผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังพบว่ามีประชาชนบางส่วนไม่สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า ขณะอยู่นอกเคหสถาน หรือสถานที่สาธารณะ ดังนั้นเพื่อให้การดำเนินการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาตของโรคในพื้นที่จังหวัดนครนายก เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดในปัจจุบัน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 22 มาตรา 28 (3) (7) และมาตรา 34(6) แห่งพระราชบัญญัติโรคติตต่อ พ.ศ. 2548ประกอบข้อ 7(1) และข้อ 11 ของข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนตการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 3 ) ลงวันที่ 25 มีนาคม 2563 ผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครนายก ตามมติที่ประชุม ครั้งที่ 17/2564 เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2564 จึงมีคำสั่งให้ประชาชนในพื้นที่จังหวัดนครนายก สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าอย่างถูกต้อง หรือถูกวิธีทุกครั้ง ตลอดเวลาขณะอยู่นอกเคหสถาน และเมื่อเข้าไปในสถานที่สาธารณะ เช่น ที่ ชุมชน ร้านค้า ห้างสรรพสินค้า ตลาด ตลาดนัด เป็นต้น เว้นแต่ ขณะออกกำลังกาย รับประทานอาหารหรือมีเหตุอันจำเป็นอื่น
ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตาม เป็นความผิดตามตามมาตรา 51 แห่งพระราชบัญญัติโรคติตต่อ พ.ศ. 2548 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท (สองหมื่นบาท)
อนึ่ง เนื่องจากเป็นกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วน หากปล่อยให้เนิ่นนานไปจะก่อให้เกิดผลเสียร้ายแรงแก่สาธารณชนหรือกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ จึงไม่อาจให้คู่กรณีใช้สิทธิโต้แย้งตามมาตรา 30 วรรคสอง (3) แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2564 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง .-สำนักข่าวไทย