เชียงใหม่ 27 เม.ย. – นักศึกษาสาวถูกแอบถ่ายในโรงพยาบาลสนามเชียงใหม่ พร้อมทนาย นำหลักฐานแจ้งความดำเนินคดีกับบุคคลที่แอบถ่าย ก่อนนำภาพไปแชร์ในโลกโซเซียล และยังเขียนข้อความในทางไม่เหมาะสม ทำให้เกิดความเสียหาย
นักศึกษาสาววัย 20 ปี ผู้ป่วยโควิด-19 ที่นอนรักษาตัวในโรงพยาบาลสนามเชียงใหม่ บริเวณศูนย์ประชุมและจัดแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา ถูกแอบถ่ายภาพขณะสวมกางเกงขาสั้นนอนบนเตียงผู้ป่วย และถูกนำไปแชร์ในโลกโซเซียส จนถูกวิจารณ์ในทางที่เสียหาย หลังรักษาหายและออกจากโรงพยาบาล นักศึกษาสาวพร้อมทนายความได้นำหลักฐานเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.ช้างเผือก จ.เชียงใหม่ เพื่อให้ดำเนินคดีกับบุคคลที่แอบถ่าย เรื่องที่เกิดขึ้นไม่น่าจะเกิดขึ้นในโรงพยาบาล และเป็นสิทธิส่วนบุคคลของตัวเองที่สวมใส่เสื้อผ้า ไม่ควรนำไปเผยแพร่ วันที่ถูกแอบถ่ายเป็นช่วงที่มีคนพลุกพล่านอยู่ใกล้ช่วงเดินไปวัดความดัน และไม่ทันสังเกต ส่วนเพื่อนที่อยู่เตียงติดกันก็ยังถูกถ่ายติดไปในภาพถ่ายด้วย เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำเตรียมติดตามตัวคนแอบถ่ายมาดำเนินคดีข้อหาดูหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ตาม พ.ร.บ.ข้อมูลสุขภาพแห่งชาติ และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
ส่วนสถานการณ์โควิด-19 ที่เชียงใหม่ แม้พบตัวเลขผู้ป่วยต่ำกว่าหลักร้อยมา 2 วันแล้ว แต่ที่ต้องเฝ้าระวัง และต้องเร่งหยุดการระบาดให้ได้โดยเร็ว คือที่เรือนจำกลางเชียงใหม่ จากตัวเลขนักโทษแรกรับที่นำเชื้อเข้ามาและติดไปยังนักโทษรายอื่นอีก 36 คน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
มาถึงวันนี้การแพร่ระบาดเพิ่มขึ้น มีนักโทษติดเชื้อเพิ่มเป็น 144 คน เจ้าหน้าที่อีก 2 คน และมีแนวโน้มที่จะแพร่ระบาดเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากเป็นเรือนจำขนาดใหญ่ มีนักโทษมากกว่า 6,400 คน
ทุกฝ่ายพยายามแก้ปัญหา โดย นพ.ปรีชา เปรมปรี รองอธิบดีกรมควบคุมโรค นพ.วีระกิตติ์ หาญปริพรรณ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ นพ.นเรศฤทธิ์ ชัดธะสีมา นายแทพย์สาธารณสุข จ.สมุทรสาคร ซึ่งมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 เป็นกลุ่มก้อนจากจากตลาดกลางกุ้งมาแล้ว ได้ลงพื้นที่เพื่อวางระบบ ซึ่งการจัดการซับซ้อนไปอีกขั้น ทั้งการตรวจหาเชื้อกลุ่มผู้ต้องขังแรกรับ ตั้งโรงพยาบาลสนามในเรือนจำ และอาจจะต้องร้องขอต่อศาลพิจารณาให้ประกันตัวในดคีที่ไม่สำคัญ เพื่อคุมการเข้าออกไม่ให้ระบาดเพิ่ม
ที่เชียงใหม่ยังมีผู้ป่วยที่ยังนอนรักษาตัวกว่า 2,000 คน ในจำนวนต้องอยู่โรงพยาบาลรัฐและเอกชนกว่า 400 คน บางส่วนต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ หากการระบาดในเรือนจำยังหยุดไม่ได้ ยิ่งจะให้สถานการณ์วิกฤติยิ่งขึ้นไปอีก.-สำนักข่าวไทย