กทม. 26 เม.ย. – ผู้ว่าฯ กทม. นำตำรวจ สน.ดุสิต ปรับนายกรัฐมนตรี 6,000 บาท ผิด พ.ร.บ.โรคติดต่อ ไม่ใส่หน้ากากอนามัยระหว่างประชุม
วันที่ 26 เม.ย.64 กรณีมีภาพ พล.อ ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิดหน้ากากอนามัยระหว่างการประชุมที่ปรึกษาเกี่ยวกับการจัดหาและการกระจายวัคซีน เวลาประมาณ 11.00 น. ณ ห้องประชุมสีเขียว ทำเนียบรัฐบาล โดยการประชุมที่ปรึกษาเกี่ยวกับการจัดหาและการกระจายวัคซีนผู้ร่วมประชุมหลัก ๆ มี 8 คน คือ
1.พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี-รมว.กลาโหม 2.นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี-รมว.พลังงาน 3.นายอาคม เติมพิทยาไพสิษฐ์ รมว.คลัง 4.นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร ที่ปรึกษา ศบค.ในฐานะคณะกรรมการจัดหาวัคซีนทางเลือก
5.นายทศพร ศิริสัมพันธ์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี 6.นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ และ 7.นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย
หลังจากการประชุม นายกรัฐมนตรีได้แจ้งไปยังผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้ตรวจสอบว่ากรณีดังกล่าวเป็นความผิดหรือไม่ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แจ้งว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการฝ่าฝืนประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่องให้ประชาชนในพื้นที่กรุงเทพมหานครสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าทุกครั้งตลอดเวลาที่ออกนอกเคหสถาน หรือสถานที่พำนัก เป็นความผิดตามมาตรา 51 แห่ง พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 ซึ่งความผิดดังกล่าว พนักงานสอบสวนมีอำนาจเปรียบเทียบได้ตามระเบียบคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติว่าด้วยหลักเกณฑ์การเปรียบเทียบ พ.ศ.2563 โดยมีอัตราการเปรียบเทียบตามบัญชีท้าย เป็นจำนวนเงิน 6,000 บาท
ต่อมาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และพนักงานสอบสวน สน.ดุสิต ได้มายังทำเนียบรัฐบาล เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย โดยผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นผู้กล่าวหา ในฐานความผิดดังกล่าว นายกรัฐมนตรียินยอมให้ทำการเปรียบเทียบ จึงได้ให้พนักงานสอบสวน สน.ดุสิต ทำการเปรียบเทียบตามอัตราดังกล่าว
สอดคล้องกับเฟซบุ๊ก เพจผู้ว่าฯ อัศวิน ของ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่า กทม. โพสต์ข้อความถึงกรณีมีภาพ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิดหน้ากากอนามัยระหว่างการประชุมที่ปรึกษาเกี่ยวกับการจัดหาและการกระจายวัคซีนเมื่อวันที่ 26 เมษายน 2564 เวลาประมาณ 11.00 น. ณ ห้องประชุมสีเขียว ทำเนียบรัฐบาล นั้น
“หลังจากการประชุม นายกรัฐมนตรีได้แจ้งมายังผม ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครให้ตรวจสอบว่ากรณีดังกล่าวเป็นความผิดหรือไม่
ผมจึงได้แจ้งว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการฝ่าฝืน ประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง ให้ประชาชนในพื้นที่กรุงเทพมหานครสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าทุกครั้งตลอดเวลาที่ออกนอกเคหสถาน หรือสถานที่พำนัก เป็นความผิดตามมาตรา 51 แห่ง พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 ซึ่งความผิดดังกล่าว พนักงานสอบสวนมีอำนาจเปรียบเทียบปรับได้ ตามระเบียบคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติว่าด้วยหลักเกณฑ์การเปรียบเทียบ พ.ศ.2563 โดยมีอัตราการเปรียบเทียบปรับตามบัญชีท้าย เป็นจำนวนเงิน 6,000 บาท
ต่อมา ผมพร้อมด้วยผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และพนักงานสอบสวน สน.ดุสิต จึงเดินทางมายังทำเนียบรัฐบาล โดยผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นผู้กล่าวหา ในฐานความผิดดังกล่าว นายกรัฐมนตรียินยอมให้เปรียบเทียบปรับ จึงได้ให้พนักงานสอบสวน สน.ดุสิต เปรียบเทียบปรับตามอัตราดังกล่าวครับ” . – สำนักข่าวไทย