อสมท 2 เม.ย.- “กัน” ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร นักเตะสายเลือดไทยในทีมเลสเตอร์ ซิตี้ชุดใหญ่ ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวไทย อสมท ว่า ตั้งเป้าเป็นคนไทยคนแรกที่ได้ลงสนามในพรีเมียร์ลีก และพร้อมเล่นให้กับทีมชาติไทย เพราะตัวเองมีสายเลือดไทย
“กัน” ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร นักเตะสายเลือดไทยแท้ในทีมเลสเตอร์ ซิตี้ ชุดใหญ่ วัย 21 ปี ให้สัมภาษณ์พิเศษกับทีมข่าวกีฬาสำนักข่าวไทย อสมท ถึงการซ้อมร่วมทีมชุดใหญ่ของทีมเป็นเวลากว่า 2 เดือนแล้วว่า มีความสุข และประทับใจมาก ที่ได้เรียนรู้จากฝึกซ้อม ร่วมกับ เจมี่ วาร์ดี้, เจมส์ แมดดิสัน และผู้เล่นคนอื่น ๆ ที่เป็นนักเตะชั้นยอดของทีม รวมถึงได้พบกับ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ผู้จัดการทีมที่ให้คำแนะนำดี ๆ ในหลายด้านในการเป็นนักเตะอาชีพ ซึ่งถือเป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยม
สิ่งสำคัญที่ตนได้เรียนรู้คือ ต้องเล่นให้เร็วขึ้น รวมถึงต้องแสดงศักยภาพของตัวเอง และมีความตื่นตัว ความต้องการจะเล่นฟุตบอลตลอดเวลา โดยการเล่นฟุตบอลในอังกฤษกับที่ฝรั่งเศส สมัยที่อยู่กับ น็องซี มีความแตกต่างกัน เนื่องจากลีกฝรั่งเศส เล่นด้วยแทคติกมากกว่า ขณะที่การเล่นในอังกฤษ ต้องใช้ร่างกายที่แข็งแกร่ง ความฟิต ต้องวิ่งไม่มีหมด โดยส่วนตัวเองแล้วมีนักเตะไอดอลก็คือ อันเดรียส อิเนสต้า อดีตกองกลางทีมชาติสเปน
ส่วนการเลือกเล่นให้กับทีมชาติชุดใหญ่ หลังจาก ธนวัฒน์ เคยเล่นให้กับทีมชาติฝรั่งเศสชุดอายุไม่เกิน 16 และ17 ปีมาแล้วนั้น
ธนวัฒน์ ยืนยันว่า ตนต้องการเล่นให้กับทีมชาติไทย เพราะตัวเองมีสายเลือดไทยแท้ และคุณแม่คงจะภูมิใจที่ได้เห็นตนเองเล่นให้กับทีมชาติไทย
ธนวัฒน์ ยังกล่าวถึงเป้าหมายในอนาคตในการเป็นเตะอาชีพด้วยว่า ต้องการจะเป็นคนไทยคนแรกที่ได้ลงสนามให้กับทีมเลสเตอร์ ซิตี้ชุดใหญ่ และเป็นคนไทยคนแรกที่ได้เล่นในพรีเมียร์ลีกอังกฤษ รวมถึงเป็นตัวแทนทีมชาติไทย
“กัน” ธนวัฒน์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ขอบคุณคนไทยทุกคนที่ส่งกำลังใจมาให้ ตนเองทราบ เพราะก็ได้มีโอกาสดูในสื่อ และโซเชียลมีเดียบ้าง หวังว่าจะได้พบกันในเร็ว ๆ นี้ และจากนี้ไปจะทำงานหนัก มีสมาธิกับการฝึกซ้อมต่อเนื่อง เพื่อทำตามเป้าหมายให้ได้
ปัจจุบัน ธนวัฒน์ เป็นหนึ่งในนักเตะของทีม “จิ้งจอกสยาม” เลสเตอร์ ซิตี้ ชุดอายุไม่เกิน 23 ปี และได้ร่วมซ้อมอยู่กับทีมชุดใหญ่ โดยถือ 2 สัญชาติ ไทย-ฝรั่งเศส เนื่องจากย้ายจากไทยไปอยู่ฝรั่งเศสตั้งแต่ 6 ขวบ
โดยเจ้าตัวแจ้งเกิดจากการยิงคนเดียว 2 ประตูในเกมพรีเมียร์ลีก 2 นัดที่เลสเตอร์ชุด 23 ปี ชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 4-2 เมื่อเดือนมกราคม.-สำนักข่าวไทย