เบอร์ลิน 23 มี.ค. – เยอรมนีจะขยายมาตรการล็อกดาวน์ไปจนถึงวันที่ 18 เมษายนนี้ และขอให้ประชาชนอยู่แต่ในบ้านเป็นเวลา 5 วันในช่วงเทศกาลอีสเตอร์ เพื่อควบคุมการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ระลอกสาม
ในระหว่างการประชุมที่ยืดเยื้อและยาวนาน นายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล ของเยอรมนีได้ผลักดันให้มุขมนตรีทั้ง 16 รัฐของเยอรมนีใช้มาตรการเข้มงวดขึ้นในการรับมือกับโรคโควิด-19 รวมถึงการเปลี่ยนแผนเปิดเศรษฐกิจอย่างค่อยเป็นค่อยไปตามที่เคยตกลงกันไว้ในช่วงต้นเดือน หลังเยอรมนีมีอัตราผู้ป่วยติดเชื้อพุ่งสูงขึ้น ผู้นำเยอรมนีแถลงในเวลาต่อมาว่า เยอรมนีกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง และต้องทำงานแข่งกับเวลาในการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้แก่ประชาชน
เยอรมนีได้เริ่มผ่อนคลายมาตรการเข้มงวดต่าง ๆ อย่างระมัดระวังในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา แต่กลับเผชิญกับการระบาดของเชื้อโควิดกลายพันธุ์ที่แพร่เชื้อได้รวดเร็วกว่าเดิมจนทำให้พบยอดผู้ป่วยติดเชื้อพุ่งสูงขึ้น นอกจากนี้ ยังเกิดความกังวลว่าอาจมีผู้ป่วยติดเชื้อล้นโรงพยาบาลในเร็ว ๆ นี้ หากทางการยังไม่ใช้มาตรการที่เข้มงวดขึ้น
อย่างไรก็ดี นักเศรษฐศาสตร์หลายรายให้ความเห็นว่าการขยายมาตรการล็อกดาวน์จะทำลายความหวังในการฟื้นฟูเศรษฐกิจของเยอรมนี ซึ่งเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดของทวีปยุโรปตั้งแต่ในช่วงฤดูใบไม้ผลิไปจนถึงช่วงต้นฤดูร้อน คำสั่งล็อกดาวน์เป็นเวลา 5 วันตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนเป็นต้นไปจะทำให้ชาวเยอรมันต้องอยู่แต่ในบ้านและต้องลดการติดต่อกับผู้คนให้มากที่สุด แต่ในที่ประชุมไม่ได้กล่าวถึงคำสั่งปิดร้านค้า ซึ่งรวมถึงการปิดร้านค้าที่จำเป็น เช่น ซูเปอร์มาร์เก็ต ซึ่งเป็นข้อเรียกร้องของนางแมร์เคิล นอกจากนี้ ทางการจะอนุญาตให้รวมตัวเป็นครอบครัวใหญ่ในช่วงวันหยุดได้สูงสุด 2 ครอบครัว หรือสูงสุด 5 คน และจะขอความร่วมมือให้โบสถ์จัดพิธีฉลองเทศกาลอีสเตอร์ผ่านระบบออนไลน์เพื่อหลีกเลี่ยงการรวมตัวกันของประชาชน
ในขณะเดียวกัน สถาบันโรแบร์ท ค็อก หรืออาร์เคไอ ซึ่งเป็นหน่วยงานควบคุมโรคของเยอรมนีเผยว่า เยอรมนีมีอัตราผู้ป่วยติดเชื้อ 107 คนต่อประชากร 100,000 คนในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ 100 คน และทำให้แผนกผู้ป่วยหนักเริ่มเผชิญกับสภาวะตึงตัว นอกจากนี้ อาร์เคไอยังรายงานว่า เยอรมนีพบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 7,709 คน และผู้เสียชีวิต 50 คน ทำให้มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 2.66 ล้านคน และผู้เสียชีวิตกว่า 74,700 คน.-สำนักข่าวไทย