โตเกียว 16 มี.ค. – นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศหรัฐเตือนจีนให้เลิกใช้การบีบบังคับและการรุกราน ในขณะที่เขาใช้การเดินทางเยือนญี่ปุ่น ซึ่งถือเป็นการเยือนต่างประเทศครั้งแรก เพื่อสร้างพันธมิตรในทวีปเอเชียหลังจีนเริ่มมีบทบาทเพิ่มมากขึ้น
การอ้างสิทธิของจีนในอาณาเขตที่กว้างขวางของทะเลจีนใต้และตะวันออกกลายเป็นประเด็นสำคัญที่ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐเลวร้ายลง และทำให้ญี่ปุ่นวิตกกังวลด้านความความมั่นคง นายบลิงเคนกล่าวว่า สหรัฐจะต่อต้านจีนในกรณีที่จำเป็น ถ้าจีนยังใช้การบีบบังคับและการรุกรานเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ต้องการ นายบลิงเคนพร้อมด้วยพลเอกลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของสหรัฐได้เดินทางเยือนญี่ปุ่น ซึ่งถือเป็นการเยือนต่างประเทศครั้งแรกของสมาชิกคณะรัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ โดยมีขึ้นหลังจากที่ชาติพันธมิตรทั้งสี่ ได้แก่ สหรัฐ ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และอินเดีย ได้จัดประชุมสุดยอดจตุภาคีหรือกลุ่มควอด (Quad) ครั้งแรกเมื่อสัปดาห์ก่อน ส่วนการประชุมในครั้งนี้จัดขึ้นแบบ 2+2 ร่วมกับนายโทชิมิตสึ โมเตงิ รัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่น และนายโนบูโอะ คิชิ รัฐมนตรีกลาโหมญี่ปุ่นที่เป็นเจ้าภาพ
ในแถลงการณ์ร่วมของสหรัฐกับญี่ปุ่น นายบลิงเคนและพลเอกลอยด์ยอมรับว่า พฤติกรรมของจีน ซึ่งไม่เป็นไปตามหลักความสงบเรียบร้อยระหว่างประเทศ ทำให้เกิดความท้าทายด้านเทคโนโลยี การทหาร เศรษฐกิจ และการเมืองต่อกลุ่มพันธมิตรและประชาคมระหว่างประเทศ นอกจากนี้ สหรัฐและญี่ปุ่นขอแสดงจุดยืนต่อต้านการบีบบังคับและพฤติกรรมที่ทำให้เกิดความไม่มั่นคงต่อประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาค ซึ่งเป็นการทำลายระบบสากลที่อิงตามกฎ นอกจากนี้ รัฐมนตรีทั้งสี่ยังได้หารือในประเด็นที่สหรัฐได้แสดงความมุ่งมั่นที่จะปกป้องเกาะที่เป็นพื้นที่พิพาทของญี่ปุ่นกับจีนในทะเลจีนตะวันออก และการต่อต้านการอ้างสิทธิเหนือน่านน้ำทะเลของจีนในทะเลจีนใต้โดยผิดกฎหมาย รวมถึงประเด็นอื่น ๆ เช่น การรักษาความปลอดภัยของห่วงโซ่อุปทาน รัฐประหารในเมียนมาและสิทธิมนุษยชนในเกาหลีเหนือ ฮ่องกง และชนกลุ่มน้อยซินเจียงอุยกูร์ในจีน. -สำนักข่าวไทย