fbpx

ประชาชนพอใจปรับเพิ่มความเร็วรถบนทางหลวง

กรุงเทพฯ 12 มี.ค. – ผู้ใช้ถนนสายเอเชียพอใจและเห็นด้วยกับการปรับความเร็วรถวิ่งถนนสายเอเชีย จาก 90 เป็น 120 กม./ชม. ขณะที่เจ้าหน้าที่กรมทางหลวงเร่งนำป้ายควบคุมความเร็ว 120 กม./ชม. และป้ายบอกความเร็วของแต่ละช่องทางจราจรติดตั้งตามสะพานลอยและจุดต่างๆ บนถนนทางหลวง


หลังมีราชกิจจานุเบกษาประกาศกำหนดอัตราความเร็วของยานพาหนะบนทางหลวงแผ่นดิน หรือทางหลวงชนบทใหม่ โดยกำหนดให้รถยนต์ใช้ความเร็วไม่เกิน 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง รถบรรทุกรถโดยสารเกิน 15 คน ใช้ความเร็วไม่เกิน 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง รถโดยสาร 7-15 คน ใช้ความเร็วไม่เกิน 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง รถชักจูง รถยนต์สี่ล้อเล็ก รถยนต์สามล้อ ใช้ความเร็วไม่เกิน 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง รถจักรยานยนต์ ใช้ความเร็วไม่เกิน 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง รถจักรยานยนต์ 400 ซีซีขึ้นไป ใช้ความเร็วไม่เกิน 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง รถโรงเรียนรับส่งนักเรียน ใช้ความเร็วไม่เกิน 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

สำหรับถนนทางหลวงหมายเลข 32 หรือสายเอเชีย จากเดิมกำหนดความเร็วไม่เกิน 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เมื่อปรับความเร็วเพิ่มขึ้นไม่เกิน 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้ประชาชนที่ใช้ถนนสายเอเชียในจังหวัดชัยนาท ต่างบอกว่าดี เพราะเห็นว่าถนนทางหลวงในปัจจุบันมีการปรับปรุงให้อยู่ในสภาพใช้งานได้ดีแล้ว อีกทั้งสมรรถนะและเทคโนโลยีที่นำมาใช้ในการผลิตรถยนต์ก็สูงขึ้น ทำให้รถสามารถวิ่งได้เร็วขึ้น ช่วยย่นระยะเวลาในการเดินทางได้มากขึ้น


ขณะที่เจ้าหน้าที่กรมทางหลวงเร่งนำป้ายควบคุมความเร็ว 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และป้ายบอกความเร็วของแต่ละช่องทางจราจรติดตั้งตามสะพานลอยและจุดต่างๆ บนถนนทางหลวงแผ่นดินสายที่ 32 หรือถนนสายเอเชีย ช่วงต่างระดับบางปะอิน ซึ่งเป็นถนนที่ทางกระทรวงคมนาคมประกาศใช้เป็นถนนนำร่องในการบังคับใช้กฎกระทรวงกำหนดอัตราความเร็วของรถยนต์เป็นไม่เกิน 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง นอกจากป้ายแจ้งความเร็วของแต่ละช่องทางแล้ว ยังมีการนำป้ายการเว้นระยะห่างของรถที่ใช้ช่องทางการจราจรด้านขวาสุด ซึ่งเป็นช่องที่อนุญาตให้ใช้ความเร็วไม่เกิน 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ต้องไม่ต่ำกว่า 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มาติดตั้งแจ้งเตือนให้กับประชาชนที่ใช้เส้นทาง เพื่อความปลอดภัย และยังทำการปิดจุดกลับรถบนถนนสายเอเชียในช่วงดังกล่าวทั้งหมดอีกด้วย โดยจะเริ่มทดลองในช่วงปลายเดือนมีนาคมนี้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกตรวจน้ำท่วมเชียงราย

นายกฯ บินเชียงราย ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม

“นายกฯ แพทองธาร” ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม เตรียมมอบถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่ จ.เชียงราย พร้อมตรวจเยี่ยมการลำเลียงสิ่งของช่วยเหลือของกองทัพ

ชิงทองระนอง68บาท

รวบแล้วโจรชิงทอง 68 บาท กลางห้างดังระนอง

รวบแล้ว 2 คนร้ายชายหญิง จี้ชิงทอง 68 บาท ในห้างดังกลางเมืองระนอง ฝ่ายชายรับสารภาพ ชีวิตตกต่ำ ไม่มีรายได้ จึงชวนหลานสาววัย 16 ปี มาร่วมก่อเหตุชิงทอง

น้องชายรัวยิงพี่สาวตายกลางงานศพแม่ อ้างฉุนไม่ให้ร่วมจัดงานศพ

น้องชายชักปืนรัวยิงพี่สาวเสียชีวิตกลางงานศพแม่ ภายหลังน้องชายเข้ามอบตัวกับตำรวจ อ้างเหตุผลฆ่าเพราะโมโห รู้สึกว่าพี่สาวใจดำมากที่กีดกันไม่ให้ตนช่วยจัดงานศพแม่

บุกทลายโรงงานผลิตยาเถื่อน ย่านทุ่งครุ

เจ้าหน้าที่ อย. ร่วมสืบนครบาล บุกทลายโรงงานผลิตยาเถื่อน ย่านทุ่งครุ มีเบาะแสต้นตอการทะลักของยาเขียวเหลือง ตะลึงพบซากจิ้งจกตายในหม้อต้ม ขณะที่เจ้าของโรงงานยันประกอบอาชีพโดยสุจริต

ข่าวแนะนำ

ชายแดนแม่สายยังเละจมโคลน จับตาพายุลูกใหม่

แม้จะผ่านน้ำท่วมใหญ่ในรอบร้อยปีมาหลายวันแล้ว แต่ตอนนี้ชายแดนแม่สายยังเต็มไปด้วยความเสียหายและดินโคลนจำนวนมาก ชาวบ้านหลายคนยังไม่สมารถกลับเข้าบ้านได้

นายกฯ ตรวจความพร้อมการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค

นายกฯ ตรวจความพร้อมการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค การซ้อมเป็นรูปขบวนเรือในแม่น้ำเจ้าพระยา ครั้งที่ 7 ณ โรงเรือพระราชพิธี ท่าวาสุกรี และวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ขณะที่ “เจ้าอาวาสวัดอรุณฯ” ให้กำลังใจทำหน้าที่ได้เต็มที่-ประสบความสำเร็จ

พายุโซนร้อน “ซูลิก” ทำฝนตกหนัก 76 จังหวัด 19-23 ก.ย.

พายุดีเปรสชันบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนทวีกำลังขึ้นเป็นพายุโซนร้อน “ซูลิก” แล้ว คาดขึ้นฝั่งเวียดนามคืนนี้ หัวพายุส่งผลให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออกมีฝนแล้ว ช่วงระหว่างวันที่ 19-23 ก.ย.67 มีพื้นที่เสี่ยงฝนตกหนักถึงหนักมาก 76 จังหวัด