โรม 19 ธ.ค. – บริษัทวิจัยในอังกฤษเผยดัชนีด้านสภาพอากาศโลกพบว่า ประเทศเกษตรกรรมมีความเสี่ยงสูงที่จะเผชิญการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในช่วง 30 ปีข้างหน้าและจะประสบปัญหาด้านต้นทุนในการรับมือกับผลกระทบจากสภาพอากาศเลวร้าย
2 ประเทศจากทั้งหมด 17 ประเทศที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของทะเลทรายซาฮาราในทวีปแอฟริกา ซึ่งส่วนใหญ่ล้วนเป็นประเทศเกษตรกรรม มีความเสี่ยงสูงที่จะต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิอากาศและฝนตก รวมถึงสภาพอากาศเลวร้าย อาทิ ภัยแล้งและน้ำท่วม หัวหน้านักวิเคราะห์ด้านสิ่งแวดล้อมของบริษัทการจัดการความเสี่ยง เวอริสก์ เมเปิลครอฟต์ ผู้จัดทำดัชนีชี้วัดกล่าวว่า ประเทศเหล่านี้ล้วนขาดแคลนทรัพยากรทั้งด้านการเงินและเทคนิคในการวางแผนรับมือล่วงหน้าในอีก 20-30 ปีข้างหน้า โดยหลายประเทศต้องเผชิญกับปัญหาภัยแล้งและความมั่นคงด้านอาหารแล้วในขณะนี้ บรรดาชาวไร่-ชาวนาในประเทศล้วนยากจนและใช้วิธีการเพาะปลูกแบบดั้งเดิม โดยไม่มีเงินทุนในการลงทุนเพื่อเพิ่มรายได้จากผลผลิตการเกษตรแบบใหม่ นอกจากนี้ ประเทศเกษตรกรรมในแถบยุโรปตะวันตกเฉียงเหนือและอเมริกาเหนือยังขาดแคลนเทคโนโลยีที่จะช่วยให้ชาวนาสามารถติดตามอุณหภูมิอากาศและวัดคลอโรฟิลล์ในพืชที่จะช่วยยกระดับการเพาะปลูกพืชผลทางการเกษตรได้
บริษัท เวอริสก์ เมเปิลครอฟต์ระบุว่า อุตสาหกรรมการเกษตรมีมูลค่าคิดเป็นร้อยละ 31ของเศรษฐกิจในแอฟริกาตะวันออกและร้อยละ 22 ในแอฟริกาตะวันตก โดยทั้ง 2 ทวีปล้วนถูกจัดให้อยู่ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงในการเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ขณะที่ชาวนาในประเทศในอเมริกากลางมีความเสี่ยงสูงที่จะได้รับผลกระทบเช่นกัน แต่เศรษฐกิจของประเทศเหล่านี้มีการพึ่งพาอาศัยอุตสาหกรรมด้านเกษตรกรรมน้อยกว่าประเทศในแอฟริกา.-สำนักข่าวไทย