กัวลาลัมเปอร์ 27 ธ.ค.- มาเลเซียจะของบประมาณจากกองทุนสภาพภูมิอากาศสีเขียวหรือจีซีเอฟ (GCF) ของสหประชาชาติหรือยูเอ็น (UN) เพื่อพัฒนาแผนการปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หลังจากเผชิญกับอุทกภัยใหญ่อยู่ในขณะนี้
มาเลเซียมีฝนตกหนักตั้งแต่วันที่ 18 ธันวาคม ทำให้เกิดน้ำท่วมเป็นวงกว้าง มีผู้เสียชีวิตแล้ว 48 คน ใน 8 รัฐ และมีเสียงเรียกร้องให้รัฐบาลต้องปรับปรุงการเตรียมตัวเพื่อรับมือกับสภาพอากาศรุนแรงในอนาคต ปลัดกระทรวงสิ่งแวดล้อมและน้ำของมาเลเซียตอบข้อถามสื่อเป็นลายลักษณ์อักษรเรื่องแผนการปรับตัวกับสภาพภูมิอากาศว่า กระทรวงจะของบประมาณ 3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 100 ล้านบาท) จากจีซีเอฟ เพื่อนำมาพัฒนาแผนการปรับตัวแห่งชาติภายในสิ้นปี 2565 แผนนี้จะให้ความสำคัญเรื่องน้ำ การเกษตร ความมั่นคงด้านอาหาร สาธารณสุข ป่าไม้และโครงสร้างพื้นฐาน นอกจากนี้กระทรวงยังมีแผนระยะยาวที่จะของบประมาณจากกองทุนนี้มาดำเนินโครงการแก้ไขปัญหาผลกระทบที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้วย
อย่างไรก็ดี งบประมาณสำหรับวางแผนการปรับตัวดังกล่าวถือว่าน้อยมาก เมื่อเทียบกับงบประมาณ 2,330 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 78,100 ล้านบาท) ที่รัฐบาลมาเลเซียจัดสรรไว้ดำเนินโครงการบรรเทาอุทกภัย เช่น สร้างทำนบกั้นน้ำ สร้างพื้นที่รับน้ำ ขุดลอกแม่น้ำ ผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่มไคลมาแอกชันมาเลเซียชี้ว่า การปรับตัวต้องใช้งบประมาณสูงมากเมื่อเทียบกับการบรรเทาภัย เพราะต้องยกเครื่องการวางผังเมืองทั้งหมด ซึ่งเป็นโครงการที่ใช้เงินมหาศาล.-สำนักข่าวไทย