แนะนักธุรกิจไทยเร่งตัดสินใจลงทุนประเทศเพื่อนบ้านก่อนหมดโอกาส

กรุงเทพฯ 19 ธ.ค. – ทีดีอาร์ไอ  สภาผู้ส่งออก และหอการค้าไทย  แนะนักธุรกิจไทยเร่งตัดสินใจลงทุนประเทศอาเซียน  แนะรัฐปรับแนวทางส่งเสริมผู้ประกอบการใหม่มากกว่าเปิดบูธขายสินค้าเท่านั้น


นายนพพร เทพสิทธา ประธาน สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สภาผู้ส่งออก) กล่าวในการสัมมนาวิชาการเรื่อง “อาเซียนและโอกาสทางธุรกิจของไทย” ว่า  โอกาสที่เอกชนไทยจะเข้าไปลงทุนในประเทศเพื่อนบ้านอาจเหลือเพียง  1 -2  ปีเท่านั้น เพราะจีนเข้าไปทำธุรกิจก่อนจำนวนมาก ดังนั้น โอกาสของเอกชนไทยจะลดน้อยลงหรือหมดไป  และคาดว่าจีนอยู่ระหว่างเตรียมรับมือกับผลกระทบจากนโยบายใหม่ของประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่ที่คาดว่าจะใช้นโยบายการค้านำการเมือง ดังนั้น สิ่งที่รัฐบาลจีนจะทำ คือกระจายการลงทุนในทุกภูมิภาคและขยายการลงทุนออกนอกประเทศจีน  รวมทั้งไทย ดังนั้น นักธุรกิจไทยจะต้องเข้าไปแสวงหาโอกาสทางธุรกิจในประเทศเพื่อนบ้าน เพราะหากไม่ไปจะไม่มีที่ลงทุน  อีกทั้งยังต้องปรับตัวรับแนวโน้มอุตสาหกรรม 4.0

นายสมยศ ตั้งมีลาภ รองประธาน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า โอกาสทางธุรกิจของไทยในประเทศเพื่อนบ้านมีมาก แต่สินค้าและบริการที่จะนำเข้าไปเปิดตลาดจะต้องมั่นใจว่าสามารถเจาะตลาดได้ เพราะสินค้าไทยปัจจุบันได้รับการยอมรับในเรื่องคุณภาพอยู่แล้ว  ขณะนี้ยังมีนักธุรกิจบางส่วนออกไปลงทุนตั้งนิคมอุตสาหกรรมในประเทศกัมพูชา ธุรกิจบริการในเมียนมาร์ ร้านอาหาร ร้านกาแฟ เป็นต้น


นายกลินท์ สารสิน รองประธานกรรมการหอการค้าไทยและประธานกรรมการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า หอการค้าไทยมีโครงการเพื่อนช่วยเพื่อนในการนำนักธุรกิจไทยออกไปดูลู่ทางและโอกาสในการลงทุนในประเทศเพื่อนบ้าน  และเห็นว่าควรให้กระทรวงการต่างประเทศเป็นหน่วยงานสนับสนุนการออกไปลงทุนประเทศเพื่อนบ้าน นอกจากกระทรวงพาณิชย์และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ)

นายกลินท์ กล่าวว่า ประเทศไทยสามารถพัฒนาประเทศให้มุ่งไปสู่การเป็นศูนย์กลางของอาเซียนได้และอนาคตทิศทางภาคธุรกิจจะปรับไปสู่ภาคบริการมากขึ้น ส่วนอุปสรรรคทางกฎหมายที่ล้าสมัย มีการเดินหน้าแก้ไขแล้วผ่านแนวทางประชารัฐที่กำลังปรับปรุงกฎหมายต่าง ๆ ให้ทันสมัย คาดว่าจะลดอุปสรรคข้อกฎหมายที่จะช่วยส่งเสริมการค้าการลงทุนที่ดีขึ้นได้ ด้านข้อมูลการลงทุนในต่างประเทศควรมีหน่วยงานกลางรวบรวมและคัดกรองข้อมูล

นายสมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ประธาน สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) กล่าวว่า จากข้อมูลของทีดีอาร์ไอ พบว่าปี 2557 บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ที่ไปลงทุนในอาเซียน มีจำนวน 123 บริษัท จากจำนวนทั้งหมด 516 บริษัท  มีบริษัทลูกในอาเซียนมากถึง 600 บริษัท ลงทุนในธุรกิจพลังงาน อาหารและเครื่องดื่ม ค้าปลีกและค้าส่ง เป็นต้น จะเห็นได้ว่าผู้ประกอบการที่ออกไปลงทุนเป็นบริษัทขนาดใหญ่และกำไรดี  โดยกลุ่มที่ลงทุนในประเทศเพื่อนบ้านกำไรถึงร้อยละ 11.1 และเห็นว่ารัฐบาลไทยควรปรับวิธีการส่งเสริมการค้า-การลงทุน  โดยคัดเลือกผู้ประกอบการไทยที่มีความพร้อมและส่งเสริมออกไปลงทุนในประเทศเพื่อนบ้าน  ภาครัฐจะต้องส่งเจ้าหน้าที่ฝีมือดีที่สุดไปฝังตัวเก็บข้อมูลและทำงาน  และการทำธุรกิจควรเป็นลักษณะผู้ประกอบการต่อผู้ประกอบการ จากที่ผ่านมาเป็นผู้ประกอบการถึงผู้บริโภคในลักษณะเปิดบูธขายสินค้าเท่านั้น


นางเสาวรัจ รัตนคำฟู นักวิชาการอาวุโส ทีดีอาร์ไอ กล่าวว่า ภาครัฐจะต้องปรับวิธีการส่งเสริมการค้า-การลงทุน พัฒนาการค้าชายแดนและผ่านแดน การพัฒนาช่องทางใหม่ เช่น E-commerce ให้ผู้ประกอบการไทยมีความพร้อมหากไม่จะตกขบวน พัฒนาความเชื่อมโยงทางกายภาพ ที่ผ่านมาไทยโดยสำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (องค์การมหาชน) หรือเนด้า ให้ความช่วยเหลือประเทศเพื่อนบ้านเพียงปีละประมาณ 2,000 ล้านบาทเท่านั้น  นอกจากนี้ ควรเพิ่มความเข้มแข็งของแบรนด์และปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาก่อนเข้าไปขายสินค้าในประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อป้องกันการลอกเลียนแบบสินค้าของไทย เป็นต้น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้โรงอบลำไย อ.แม่สรวย จ.เชียงราย

เพลิงไหม้โรงงานอบลำไย อ.แม่สรวย จ.เชียงราย เจ้าหน้าที่เร่งนำรถดับเพลิงเข้าระงับเหตุ เพื่อควบคุมเพลิงไม่ให้ลุกลามไปยังพื้นที่ใกล้เคียง เบื้องต้นยังไม่สามารถประเมินความเสียหายได้

พุ่งไม่หยุดราคาทองคำโลกนิวไฮอีก คาดไปต่อถึง 3 พันดอลลาร์/ออนซ์

ราคาทองคำตลาดโลกพุ่งแตะ 2,800 ดอลลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ นักวิเคราะห์คาดมีโอกาสพุ่งต่อถึง 3,000 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่งผลราคาทองไทยวันนี้ขึ้นต่อจากราคาปิดวานนี้ และทำนิวไฮเท่าวานนี้

ข่าวแนะนำ

แอ่วเหนือคนละครึ่ง

เริ่มวันนี้ “แอ่วเหนือคนละครึ่ง” ช่วย 400 บาท 10,000 สิทธิ

ททท. จัดแคมเปญ “แอ่วเหนือ คนละครึ่ง” เริ่มวันนี้ มอบส่วนลด 50% ไม่เกิน 400 บาท รวม 10,000 สิทธิ แบบ First Come First Served หวังสร้างเม็ดเงินได้ไม่น้อยกว่า 44 ล้านบาท

ตำรวจอุ้มรีด

“พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์” ลั่นฟันวินัย-อาญา ตร.ไซเบอร์ ร่วมก๊วนอุ้มรีดชาวจีน

ผู้การตำรวจไซเบอร์ 1 บช.สอท. ลั่นฟันวินัย-อาญา ตำรวจไซเบอร์ 3 นาย ร่วมก๊วนตำรวจอุ้มรีดชาวจีน 300 ล้านบาท พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงใน 30 วัน

“มาริษ” เสียใจคนไทยตาย 4 สู้รบอิสราเอล-เลบานอน

“มาริษ” รมว.ต่างประเทศ เศร้าใจ คนไทยเสียชีวิต 4 ราย บาด​เจ็บ 1 คน จากเหตุยิงจรวดใกล้ชายแดนอิสราเอล-เลบานอน​ กำชับทูตกรุงเทลอาวีฟช่วยเหลือ