ชลบุรี 1 พ.ย. – กระแส “หมูเด้ง” ฮิปโปขวัญใจมวลชน รันไปทุกวงการแล้ว ล่าสุด เข้าวงการสายมู เป็น “ฮิปโปกวักทรัพย์” เด้งรับเงิน เด้งรับทอง ผ่านการปลุกเสกเรียบร้อย
ภาพนี้ถูกแชร์กันในโซเชียล ขณะที่พระสงฆ์นั่งทำพิธีปลุกเสก “ฮิปโปกวักทรัพย์” ซึ่งจะเห็นรูปหล่อ “หมูเด้ง” ฮิปโปแคระ เพศเมีย ที่กำลังเป็นซุปตาร์ของสวนสัตว์เปิดเขาเขียว จังหวัดชลบุรี แต่ประเด็นนี้ก็มีหลายคนมองว่าไม่เหมาะสม โดยเฉพาะพระมาร่วมพิธีปลุกเสกเสียเอง
ผู้สื่อข่าวไปที่สำนักสงฆ์แห่งหนึ่ง ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี พบพระอาจารย์ซึ่งเป็นผู้ทำพิธีปลุกเสก เล่าว่า ก่อนหน้านี้ ผู้จัดสร้างที่เคยทำเครื่องรางโดราเอมอน ปรึกษาว่าจะสร้างรูปหล่ออะไรดี จึงมีแนวคิดทำหมูเด้งขึ้นมาเพรากำลังนิยม และหวังให้คล้ายกับแมวกวักญี่ปุ่น จึงทำ “ฮิปโปกวักทรัพย์” เป็นเครื่องรางน่ารักๆ ซึ่งทางทีมงานขอให้พระอาจารย์จารแผ่นยันต์และปลุกเสกตามประเพณี ยืนยันว่าไม่ได้มีการปลุกเสกหมูเด้งภายในวัดแต่อย่างใด แต่ไปปลุกเสกที่บ้านของผู้จัดสร้าง และนำมาแจกในพิธี
ทั้งนี้ พระอาจารย์มองว่า ศาสตร์พยนต์ เป็นการสร้างหุ่นรูปร่างต่างๆ เช่น ควายธนู วัวธนู จิ้งจก ตุ๊กแก หรือแม้แต่ก้อนหิน มาเป็นเครื่องรางที่คอยปกป้องเจ้าของและเรียกโชคลาภ ตามความเชื่อในศาสตร์โบราณ
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวโทรศัพท์ถาม นายกอล์ฟ ผู้จัดสร้างรูปหล่อหมูเด้ง บอกว่า ปรึกษาพระอาจารย์ให้ช่วยลงอักขระยันต์ให้ ยืนยันว่าการสร้าง “ฮิปโปกวักทรัพย์” ไม่ใช่การค้าพุทธพาณิชย์ แต่ทำเพื่อแจกจ่ายให้ชาวบ้านที่มาร่วมทำบุญเท่านั้น
พระพยอมเตือนอย่างมงาย แค่กระแสฮิปโป
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่วัดสวนแก้ว ตำบลบางเลน อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี เพื่อสอบถามกรณีดังกล่าวกัล พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว ท่านบอกว่าได้เห็นภาพแล้วก็อดวิพากษ์วิจารณ์ไม่ได้ เพราะการนำหมูเด้ง หรือลูกฮิปโปแคระ มาทำเครื่องรางของขลังนั้นถือเป็นเรื่องน่าตลก เป็นการเกาะกระแสสังคม เพียงเพราะหมูเด้ง เป็นที่ชื่นชอบของผู้คนและกำลังโด่งดังในโลกโซเชียล ใครหลงเชื่อก็น่าประหลาดใจ กลายเป็นเรื่องงมงาย ถูกหลอกอย่างง่ายดาย หากเปรียบเทียบหมูเด้ง กับ จตุคามรามเทพ หรือไอ้ไข่ จตุคามรามเทพยังมีเรื่องเล่าอิงประวัติศาสตร์ ส่วนไอ้ไข่ก็มีเรื่องเล่าว่าเป็นเด็กวัด แล้วหมูเด้งมีเรื่องเล่าอะไร ? ซึ่งก็เป็นเรื่องการท่องเที่ยวไม่เกี่ยวกับสายมูหรือพระพุทธศาสนาเลย ซึ่งกรณีนี้อยากเตือนชาวพุทธอย่าหลงเชื่องมงาย ยิ่งไปหลงเชื่อ ยิ่งทำให้อีกฝ่ายได้ประโยชน์จากเงินทองแทนที่เราจะไปซื้อกับข้าวกินต้องมาเสียเงินให้กับสิ่งงมงาย แต่ก็เชื่อว่าเครื่องรางของขลังนี้ไม่น่าจะได้รับความสนใจมากเท่าที่ควร.-สำนักข่าวไทย
