กรุงเทพฯ 22 ก.พ. – หอการค้าไทยเชื่อหลังภาครัฐแก้ไขกฎระเบียบต่างๆจะทำให้ปัญหาขาคแคลนตู้ขนส่งสินค้ากลับมาดีขึ้นได้ไม่ช้า พร้อมแนะควรใช้แนวทางนี้ดันไทยเป็นศูนย์กลางการซ่อมตู้คอนเทนเทอร์ หลังส่งออกทั่วโลกกลับมาดีขึ้น
นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า หลังจากกรมเจ้าท่าได้ออกประกาศกรมฯ ที่ 25/2564 เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2564 เรื่อง การกำหนดให้เรือที่มีความยาวเรือมากกว่า 300 เมตร แต่ไม่เกิน 400 เมตร เข้าเทียบท่า โดยกำหนดให้ เรือที่มีความยาวมากกว่า 300 เมตร แต่ไม่เกิน 400 เมตร เข้ามายังประเทศไทย ณ ท่าเรือแหลมฉบัง โดยจะต้องขออนุญาตจาก กรมเจ้าท่า และเมื่อผ่านการพิจารณาแล้วไม่ต้องขออนุญาตอีกภายในระยะเวลา 2 ปี ซึ่งภาคเอกชน คาดว่า จะช่วยให้สามารถนำเรือใหญ่ที่บรรทุกตู้คอนเทนเนอร์เข้ามาเทียบท่าเรือ ได้เพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 20-30 ในเส้นทางหลัก และจะส่งเสริมให้มีการนำตู้ฯเปล่า เข้ามายังประเทศไทยเพิ่มขึ้น เดือนละประมาณ 12,000 ตู้
อย่างไรก็ดี คาดว่า ปัญหาการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์จะค่อยๆคลี่คลายลง ภายในระยะเวลาประมาณ 6 เดือน โดยปลายปี 2564 สถานการณ์จะดีขึ้นประกอบกับ การจัดสรรวัคซีนโควิด-19 ของแต่ละประเทศ รวมถึงประเทศไทย ก็จะเป็นปัจจัยเสริมในการช่วยคลี่คลายปัญหาดังกล่าวให้บรรเทาลง สำหรับทิศทางอนาคต มองว่า ควรผลักดันให้ประเทศไทย เป็นศูนย์กลางการซ่อมตู้คอนเทนเทอร์ เพื่อรองรับอุปสงค์และอุปทานของตู้ฯ กรณีเกิดการกระชากตัวของอุปสงค์และอุปทานตู้ฯอีกในอนาคต นอกจากนี้ สนับสนุนแนวทางการปรับปรุงกฎระเบียบต่างๆ ด้านการขนส่งทางทะเลให้มีความสะดวกในทุกมิติ เพื่อบริหารจัดการระบบการนำเข้า-ส่งออก และ การถ่ายลำ หรือ Transshipment ที่ท่าเรือได้ต่อเนื่องและตรงเวลา
ทั้งนี้ คาดว่าปัญหาการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์จะคลี่คลายลง ภายในระยะเวลาประมาณ 6 เดือน โดยปลายปี 2564 สถานการณ์จะดีขึ้นประกอบกับ การจัดสรรวัคซีนโควิด-19 ของแต่ละประเทศ รวมถึงประเทศไทยจะเป็นปัจจัยเสริมช่วยคลี่คลายปัญหาดังกล่าวให้บรรเทาลง จึงมองว่า ควรผลักดันให้ประเทศไทย เป็นศูนย์กลางการซ่อมตู้คอนเทนเทอร์ เพื่อรองรับอุปสงค์และอุปทานของตู้ฯ กรณีเกิดการกระชากตัวของอุปสงค์และอุปทานตู้ฯอีกในอนาคต รวมถึงภาครัฐเร่งปรับปรุงกฎระเบียบต่างๆ ด้านการขนส่งทางทะเลให้มีความสะดวกในทุกมิติ เพื่อบริหารจัดการระบบการนำเข้า-ส่งออก และ การถ่ายลำ หรือ Transshipment ที่ท่าเรือได้ต่อเนื่องและตรงเวลา โดยในอีก 2 ปีข้างหน้า จะมีการต่อเรือสินค้า เพิ่มเข้าสู่ระบบการขนส่งทางทะเลทั่วโลกอีกประมาณร้อยละ 10 ซึ่งจะรองรับการขนส่งสินค้าทางทะเลด้วยระบบตู้คอนเนอร์ได้เพิ่มขึ้นต่อไป . – สำนักข่าวไทย