รวบ “เคนลี เทคมีเอาท์ฯ” หลอกตุ๋นผู้เสียหายหลายคดี

กรุงเทพฯ 12 ก.พ. – ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.สุทธิสาร รวบตัว “เคนลี เทคมีเอาท์ฯ” ผู้ต้องหาฉ้อโกง หลอกต้มตุ๋นหลายคดี มีผู้เสียหายหลายสิบราย


เมื่อเวลา 14.30 น. วันนี้ (12 ก.พ.) ที่ สน.สุทธิสาร ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผบช.สอท. พล.ต.ต.ออมสิน ตรารุ่งเรือง ผบก.สอท.3 พ.ต.อ.เกรียงไกร รับงาม ผกก.1 บก.สอท.3 พ.ต.อ.ชูศักดิ์​ เคทอง ผกก.2​ บก.สอท.2 สั่งการให้ พ.ต.ท.ภัทรเดช ภัทรบุตรเพชร พ.ต.ท.วิชาญ กลิ่นบุบผา รอง ผกก.1 บก.สอท.3 พ.ต.ท.สุระ​ จันทร์แก้ว พ.ต.ท.พลเดช​ สังข์ศิริ พ.ต.ท.ฐิตนนท์​ วิชัยกุลจิรทัพ รอง​ ผกก.2​ บก.สอท.2 พ.ต.ท.สิงหราช พิมพะกร สว.กก.1 บก.สอท.3 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.สอท.2 และ กก.สส.บก.น.2 จับกุมนายอธิคุณ โชติธนัสปิติ อายุ 25 ปี หรือ เคนลี เทคมีเอาท์ ไทยแลนด์ หลังหลอกต้มตุ๋นผู้เสียหายหลายราย ตามหมายจับศาลแขวงพระนครเหนือ เลขที่ 76/2564 ลงวันที่ 1 ก.พ.64 ข้อหาฉ้อโกง เหตุเกิดท้องที่ สน.สุทธิสาร และหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรี เลขที่ 496/2563 ลงวันที่ 2 ธ.ค.63 ข้อหาทุจริต หลอกหลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อมูลความจริง เพื่อเอาทรัพย์สินผู้อื่น และผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ เหตุเกิดท้องที่ สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี โดยจับกุมผู้ต้องหาได้ที่บ้านเลขที่ 477 ซอยรังสิต-นครนายก 27 ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี เบื้องต้นชุดจับกุมควบคุมตัวนายอธิคม ส่งพนักงานสอบสวน สน.สุทธิสาร เพื่อดำเนินคดี ต่อมาเมื่อผู้เสียหายกว่า 10 ราย ที่มีมูลค่าความเสียหายรวมกันกว่า 10 ล้านบาท ทราบข่าว ได้เดินทางมาดูตัวผู้ต้องหา

นายสุธรรม ลาภมีมาก อายุ 52 ปี ทำธุรกิจค้าขายหน้ากากอนามัย หนึ่งในผู้เสียหาย กล่าวว่า เมื่อต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา หลานสาวอายุ 25 ปีของตน ทำงานบริษัทแห่งหนึ่ง ย่านบางรัก รู้จักกับนายอธิคม จากแอปฯ หาคู่ จีบกันอยู่สักพัก นายอธิคม อ้างว่าสามารถซื้อไอโฟน 12 ได้ในราคาถูก ประมาณ 30,000 บาท และได้ของแถมจำนวนมาก หลานสาวตนโอนเงินไปให้ แต่ไม่ได้ของ อ้างสารพัดว่า รอลงนามซื้อขายกับหุ้นส่วน 3 คน บัญชีของนายอธิคมถูกอายัดบ้าง ให้โอนเข้าบัญชีหุ้นส่วนคนอื่น โอนอยู่หลายครั้ง รวมเงินหลายแสนบาท และบอกว่า เงินที่โอนมาก่อนหน้านี้จะคืนให้ จึงหลงเชื่อ ต่อมานายอธิคมใช้อุบายใหม่ ถ้าหลานสาวตนต้องการเงินคืนทั้งหมด ต้องช่วยเหลือตัวเองผ่านทางโทรศัพท์ให้ดู แต่ก็ไม่ยอมคืนเงินให้อีก และข่มขู่ว่าจะเอาคลิปช่วยตัวเองไปปล่อยให้อับอาย หลานสาวตนเกิดความกลัว ต้องโอนเงินให้อีกหลายครั้ง รวมเป็นเงินกว่า 2 ล้านบาท ทั้งนี้ หลานสาวตนซึ่งรักเหมือนลูกจะมาขอเงินตนตลอด ตนสงสัยจึงถามจนรู้ความจริง และเข้าแจ้งความที่ สน.ทุ่งคร


ด้าน น.ส.มุธิดา เข็มอุทา อายุ 22 ปี ผู้เสียหายอีกราย เล่าว่า ผู้ต้องหาทำทีชักชวนให้ตนเองซื้อโทรศัพท์ไอโฟน 12 ในราคา 30,000 บาท พร้อมของแถมจำนวนมาก ซึ่งถูกกว่าราคาท้องตลาด ประกอบกับตนเองเห็นว่า ผู้ต้องหาเป็นแฟนของรุ่นพี่ที่สนิท จึงเชื่อใจสั่งซื้อไปจำนวน 1 เครื่อง แต่ผ่านมานานเป็นเดือน กลับยังไม่ได้โทรศัพท์ ตนเองจึงทวงถาม ผู้ต้องหาอ้างว่า เปิดบริษัทเกี่ยวกับเครื่องสำอาง ก่อนจะประสบปัญหาทางการเงิน ทำให้บัญชีธนาคารของตนนั้นถูกอายัด จึงขอร้องให้ตนช่วยโอนเงินมาที่บัญชีธนาคารของผู้ต้องหาอีกหลายสิบครั้ง เพื่อใช้เป็นเครดิตให้ธนาคารเชื่อว่าบัญชีมีความเคลื่อนไหว ตนเองอยากได้เงินที่จ่ายไปก่อนหน้าคืน จึงยอมโอนเงินให้ ประกอบกับมีคนอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารโทรศัพท์มาแจ้งยอดการโอนเงินทุกครั้ง นอกจากนี้ ผู้ต้องหายังข่มขู่ว่า หากไม่ยอมโอนเงินมาช่วย ตนจะถูกดำเนินคดีในข้อหาปลอมแปลงเอกสารและฉ้อโกงไปด้วย จึงยอมโอนเงินไปให้อีกหลายครั้ง ภายในระยะเวลากว่า 3 เดือน เบ็ดเสร็จมูลค่าความเสียหายร่วม 700,000 บาท

มีรายงานว่า หลังผู้เสียหายนำชื่อชายคนนี้ไปตรวจสอบในโลกออนไลน์ ก็พบประวัติเคยฉ้อโกงมาแล้วหลายคดี และพบมีผู้เสียหายปัจจุบันรวมกลุ่มแลกเปลี่ยนข้อมูลกันอยู่ ซึ่งจากการสอบถามในกลุ่มก็พบมีพฤติการณ์หลอกลวงในแบบอื่นๆ อีก เช่น หลอกขายสินค้าแบรนด์เนม แต่ไม่ส่งสินค้าให้ หลอกร่วมลงทุนทำธุรกิจร้านสะดวกซื้อ เหตุเกิดช่วงเดือนมีนาคม 2563 ถึงปัจจุบัน นอกจากนี้ยังพบมีพฤติการณ์บ่ายเบี่ยง ข่มขู่จะทำร้ายร่างกายผู้เสียหายหรือญาติ หากนำเรื่องนี้ไปแจ้งความ หรือโพสต์ประจานลงโซเชียลมีเดีย

ส่วนเหตุที่ทำให้แต่ละคดีล่าช้าออกไป เพราะชายคนนี้พยายามคืนเงินบางส่วน เพื่อให้ผู้เสียหายมีความหวังว่าจะได้เงินที่เหลือกลับคืนมา และหากถูกอายัดเงินในบัญชี ก็จะใช้เรื่องนี้ไปกดดันผู้เสียหายว่า ไม่สามารถนำเงินมาคืนได้ เพราะเงินถูกอายัดอยู่ และหากอยากได้เงินคืน ต้องโอนเงินมาเพิ่ม เพื่อใช้เป็นเครดิตในบัญชีธนาคาร ทำให้เกิดความเสียหายไม่สิ้นสุด


มีรายงานอีกว่า ผู้ต้องหารายนี้มีชื่อเล่นว่า “เคนลี” เคยเข้าร่วมหาคู่รัก ในรายการ “เทคมีเอาท์ ไทยแลนด์” ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 เเละรายการ “รู้ไหมใครโสด” ทางช่อง one อีกด้วย. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

คะแนนไม่เป็นทางการ เลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นับเสร็จแล้วบางหน่วย ล่าสุด ณ เวลา 19.40 น. “วาริน ชิณวงศ์” เบอร์ 2 จากทีมนครเข้มแข็ง ชนะคู่แข่งขาดลอยในหลายหน่วย คะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่า “กนกพร เดชเดโช” เบอร์ 1 จากพรรค ปชป.

“ทนายสายหยุด” จ่อถอนตัวคดีตั้ม หวั่นติดร่างแห

“ทนายสายหยุด” เตรียมถอนตัวเป็นทนายให้ “ตั้ม” เผยในมือมีแต่พยานเท็จ ปิดบังข้อเท็จจริง เสี่ยงเป็นผู้ร่วมกระทำผิด

ข่าวแนะนำ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ