ปปง.10 ก.พ.- บอร์ดธุรกรรม ปปง. มีมติยึดอายัดทรัพย์คดี 3 คดี “พนันออนไลน์ – ฉ้อโกง – ค้ามนุษย์” รวมมูลค่ากว่า 90 ล้านบาท
![](https://tna.mcot.net/wp-content/uploads/2021/02/S__206864441.jpg)
![](https://tna.mcot.net/wp-content/uploads/2021/02/S__206864443.jpg)
พล.ต.ต.ปรีชา เจริญสหายานนท์ รักษาราชการแทนเลขาธิการ ปปง.กล่าวว่า คณะกรรมการธุรกรรมในคราวประชุม ครั้งที่ 2/2564 เมื่อวันที่ 9 ก.พ.64 มีมติเห็นชอบให้ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดในรายคดีสำคัญที่อยู่ในความสนใจของประชาชน
1.รายคดี นายแทนไท ณรงค์กูล กับพวก นายแทนไท กับพวก ก่อตั้งเว็บไซต์พนันออนไลน์โดยมีรูปแบบการพนันให้เลือกเล่นหลายประเภทและประกาศโฆษณาหรือชักชวนให้ผู้อื่นสมัครเป็นสมาชิกและโอนเงินเพื่อเล่นการพนันออนไลน์กับเว็บไซต์ดังกล่าว โดยได้เปิดบัญชีเงินฝากจำนวนหลายบัญชีเพื่อรับโอนเงินค่าสมัครสมาชิกและเล่นพนัน ทั้งยังพบเงินหมุนเวียนจำนวนมาก ซึ่งเป็นความผิดเกี่ยวกับการจัดให้มีการเล่นการพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ อันเป็นความผิดมูลฐานตามมาตรา 3 (9) แห่ง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542
ในคดีนี้คณะกรรมการธุรกรรมมีมติเห็นชอบให้ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด (เพิ่มเติม) จำนวน 10 รายการ(เงินสด รถยนต์ ห้องชุด เงินและสินทรัพย์ดิจิทัล) พร้อมดอกผล รวมมูลค่ากว่า 16,000,000 บาท ไว้ชั่วคราว มีกำหนดไม่เกิน 90 วัน ตามมาตรา 48 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542
ทั้งนี้ ในคดีดังกล่าว เลขาธิการ ปปง. พิจารณาใช้อำนาจตามมาตรา 48 วรรคสองมีคำสั่งให้อายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด จำนวน 4 รายการ(เงินและหุ้นในบัญชีเงินฝากสหกรณ์ออมทรัพย์) รวมราคาประเมินทั้งสิ้นประมาณ 59,000,000 บาท พร้อมดอกผล มีกำหนดไม่เกิน 90 วัน นับตั้งแต่วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2564 รวมมูลค่าทรัพย์สินทั้งสิ้นประมาณ 75,000,000 ล้านบาท
2.รายคดี บริษัท ทิมเบอร์เมท จำกัด กับพวก เป็นกรณีที่คนร้ายชาวต่างชาติหลอกลวงผู้เสียหาย ซึ่งอยู่ในต่างประเทศ ให้ซื้อหน้ากากอนามัย หรืออุปกรณ์ทางการแพทย์อื่นๆที่ได้ลงประกาศขายอันเป็นเท็จไว้บนเว็บไชต์ขายของหรือสร้างเว็บไซต์ขึ้นเองโดยใช้ข้อมูลส่วนตัวของหญิงไทยที่คบหากันเชิงชู้สาวกับ กลุ่มคนร้ายในการจดทะเบียนจัดตั้งเว็บไซต์เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้เหยื่อหลงเชื่อและสั่งซื้อสินค้าจากคนร้าย เมื่อตกลงซื้อขายกันแล้ว คนร้ายจะแจ้งให้ผู้เสียหายโอนเงินค่าสินค้าเข้าบัญชีเงินฝากของธนาคารในประเทศไทยที่เปิดไว้ในชื่อของบริษัทที่จัดตั้งขึ้นโดยไม่ได้ประกอบธุรกิจจริง หรือให้โอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารของคนร้ายหรือบัญชีเงินฝากธนาคารของหญิงไทยที่ถูกหลอกให้เปิดบัญชีซึ่งคนร้ายจัดเตรียมไว้แล้ว โดยจะมีคนร้ายชาวต่างชาติอีกกลุ่มหนึ่งยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินไปยังบัญชีเงินฝากธนาคารอื่น หรือถอนเงินสดออกจากบัญชีเงินฝากทันที โดยผู้เสียหายไม่ได้รับสินค้าและ ไม่สามารถติดต่อกับกลุ่มคนร้ายได้อีก ซึ่งกรณีดังกล่าวเป็นความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชนตามประมวลกฎหมายอาญา อันเป็นความผิดมูลฐานตามมาตรา 3 (3) แห่ง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542
โดยในคดีนี้ คณะกรรมการธุรกรรมมีมติเห็นชอบให้ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด จำนวน 38 รายการ (เงินสด เงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร ที่ดิน รถยนต์ เครื่องประดับ และเครื่องใช้ไฟฟ้า) พร้อมดอกผล รวมมูลค่าประมาณ 10,000,000 บาท ไว้ชั่วคราว มีกำหนด ไม่เกิน 90 วัน ตามมาตรา 48 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542
3.รายคดี นายศิรพิบูลย์ กิตติศุภรัฐ กับพวก นายศิรพิบูลย์ฯ กับพวก มีส่วนร่วมในขบวนการนำพาคนต่างด้าวหลบหนีเข้ามาในประเทศไทย โดยขบวนการดังกล่าวมีบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดในหลายท้องที่การกระทำความผิดมีลักษณะการแบ่งหน้าที่กันทำ มีนายหน้าชาวต่างชาติเป็นผู้ชักชวนคนเพื่อเข้ามาทำงานและเรียกเก็บเงินค่าดำเนินการ เมื่อรวบรวมคนได้แล้วจะมีคนพาข้ามแดนเข้ามายังประเทศไทยและลักลอบเดินทางมาด้วยรถยนต์ในลักษณะหลบซ่อนกันมาเพื่อให้พ้นจากการจับกุม ซึ่งกรณีดังกล่าวเป็นการกระทำความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์และความผิดเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมที่มีกฎหมายกำหนดเป็นความผิด อันเป็นความผิดมูลฐานตามมาตรา 3 (2)และ (10) แห่ง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542
โดยในคดีนี้คณะกรรมการธุรกรรมมีมติเห็นชอบให้ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด จำนวน 2 รายการ (เงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร และที่ดิน) พร้อมดอกผล รวมมูลค่าประมาณ 5,000,000 บาท ไว้ชั่วคราว มีกำหนดไม่เกิน 90 วัน ตามมาตรา 48 แห่ง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542
![](https://tna.mcot.net/wp-content/uploads/2021/02/S__124141587.jpg)
“ปปง.จะเน้นการสืบสวนขยายผลเพื่อยึดอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดในคดีต่างๆ อย่างต่อเนื่องให้เกิดความเข้มข้นและเกิดประสิทธิภาพ ประสิทธิผลในการทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนและเพื่อความสงบสุข ความมั่นคงของประเทศชาติต่อไปภายใต้ปรัชญาการทำงานที่ว่าทรัพย์สินใดเป็นของแผ่นดิน ทรัพย์สินนั้นต้องกลับคืนแผ่นดินโดยไม่มีเงื่อนไขด้วยกฎหมายฟอกเงิน หากพบเห็นบุคคลใดเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดสามารถโทรแจ้งหรือสอบถามได้ที่สายด่วน 1710” เลขาธิการ ปปง.กล่าว .-สำนักข่าวไทย