คาดเฟด คงนโยบายการเงินไม่ปรับดอกเบี้ย

กรุงเทพฯ 25 ม.ค.-  ศูนย์วิจัยกสิกรไทย  ประเมิน ประชุม เฟดคงนโยบายการเงิน และติดตาม มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ “โจ ไบเดน” 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ฯ 


บริษัท  ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด คาดว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟด จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯ ไว้ที่กรอบ 0.00-0.25% ตามเดิม และน่าจะไม่มีการประกาศใช้เครื่องมือผ่อนคลายทางการเงินอื่นๆ เพิ่มเติมในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) ที่จะมีขึ้นในวันที่ 26-27 มกราคม 2564 นี้ โดยคาดว่า แม้เฟดจะส่งสัญญาณผ่อนคลายนโยบายการเงินต่อเนื่อง แต่จะยังย้ำถึงความจำเป็นของการเร่งผลักดันมาตรการฝั่งการคลังจากรัฐบาลใหม่ของประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯ เพื่อให้ทั้งนโยบายการเงินการคลังมีส่วนช่วยจำกัดความเสี่ยงและหนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในระยะข้างหน้า

อย่างไรก็ดี ผลกระทบจากการปรับสูงขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ (บอนด์ยิลด์) ทำให้ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่า มีความเป็นไปได้ที่เฟดจะส่งสัญญาณเข้าซื้อพันธบัตรในอายุที่ยาวมากขึ้นเพื่อจำกัดกรอบการปรับตัวขึ้นของต้นทุนทางการเงินสำหรับภาคครัวเรือนและธุรกิจ ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อเนื่องต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ สำหรับ สำหรับแนวโน้มในระยะข้างหน้า ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่า ตัวแปรสำคัญต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งจะมีผลต่อการกำหนดท่าทีของเฟดจะอยู่ที่ 2 เรื่อง ได้แก่  1) ความสามารถในการควบคุมการระบาดและความคืบหน้าของการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 และ 2) ความรวดเร็วและความสำเร็จของรัฐบาลใหม่ของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ในการผลักดันมาตรการเยียวยาและกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในสภาคองเกรส


สำหรับผลต่อไทยนั้น คาดว่า การส่งสัญญาณผ่อนคลายนโยบายการเงินอย่างต่อเนื่องของธนาคารกลางสหรัฐฯ น่าจะไม่มีผลโดยตรงต่อการตัดสินใจของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ของไทย แต่คงต้องยอมรับว่า ตัวแปรจากฝั่งสหรัฐฯ คงมีผลต่อความเคลื่อนไหวของทิศทางค่าเงินบาทและอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลไทย โดยอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลไทยอาจมีจังหวะทยอยขยับขึ้นตามทิศทางตลาดพันธบัตรสหรัฐฯ ซึ่งเป็นปัจจัยเพิ่มเติม นอกเหนือไปจากแนวโน้มปริมาณการออกพันธบัตรรัฐบาลของไทยที่จะสูงต่อเนื่องในปีนี้ ขณะที่แม้เงินบาทจะยังมีแนวโน้มแข็งค่า แต่กรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทอาจผันผวนมากขึ้น เพราะเงินดอลลาร์ฯ อาจได้รับแรงนหนุนในบางช่วงในฐานะสกุลเงินปลอดภัยท่ามกลางความเสี่ยงจากฝั่งสหรัฐฯ-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สาวซิ่งรถหรูชนท้าย จยย. ทำแม่ลูกดับ 3 ศพ

แม่ขี่ จยย.ไปรับลูก 2 คน กลับจากเรียนพิเศษ ถูกสาวขับรถหรูซิ่งชนท้าย ร่างกระเด็นตกสะพานข้ามรางรถไฟ เสียชีวิตทั้ง 3 คน ส่วนผู้ก่อเหตุอุ้มแมว ทิ้งรถ หลบหนีไป

ปิดล้อมล่ามือปืนคลั่งสังหาร 3 ศพ

ตำรวจเร่งไล่ล่ามือปืนคลั่งก่อเหตุยิง 3 ศพ ในพื้นที่ จ.หนองบัวลำภู ล่าสุดปิดล้อมพื้นที่กว่า 1,000 ไร่ รอยต่อ จ.เลย หลังพบเบาะแสคนร้ายหนีไปซ่อนตัว ขณะที่ชนวนสังหารยังไม่แน่ชัด

ลูกชายมือปืนคลั่งยิง 3 ศพ พาครอบครัวหนีตาย พ่อโพสต์ขู่ฆ่าล้างครัว

ลูกชายมือปืนคลั่งยิงดับ 3 ศพ ต้องพาภรรยาและลูก รวมถึงพ่อตา-แม่ยาย หนีไปอยู่ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง หลังพ่อโพสต์ข้อความขู่จะฆ่าล้างครัว เหตุจากปัญหาในครอบครัว

ชายคลั่งยิง3ศพ

ชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ โผล่วัดที่ จ.เลย ขอข้าวกิน ก่อนหนีเข้าป่า

แม่ครัววัดภูคำเป้ ต.ผาสามยอด อ.เอราวัณ จ.เลย เผยพบชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ เดินเข้ามาในวัดด้วยสภาพอิดโรย ขอข้าวกิน ลักษณะรีบกินเหมือนวิตกกังวล หลังกินเสร็จรีบเดินเข้าป่าหายไป ก่อนมาทราบภายหลังว่าเป็นผู้ก่อเหตุยิงคนเสียชีวิต

ข่าวแนะนำ

คานถล่มพระราม2

ตร.ทางหลวง แนะเลี่ยงถนนพระราม 2 หลังการจราจรเข้าขั้นวิกฤต

ตำรวจทางหลวง เผยการจราจรถนนพระราม 2 เข้าขั้นวิกฤต แนะเส้นทางเลี่ยงทั้งขาเข้าและขาออกกรุงเทพมหานคร ยังไม่ชัดเปิดการจราจรได้ตามปกติเมื่อใด

คานถล่มพระราม2

“สุริยะ” สั่งผู้รับเหมาหยุดก่อสร้าง ถนนพระราม 2 ตัดสิทธิ์รับงาน 2 ปี

“สุริยะ” รมว.คมนาคม เผยเย็นวันนี้เตรียมกลับไปตรวจสอบสาเหตุคานเหล็กก่อสร้างบนถนนพระราม 2 ถล่ม สั่งการผู้รับเหมาหยุดก่อสร้าง รวมทั้งตัดสิทธิ์รับงาน 2 ปี และขอให้เพิ่มความเข้มงวดมาตรการลดชั้นผู้รับเหมา เพื่อลดจำนวนอุบัติเหตุ

น้ำท่วมยะลา

น้ำท่วมยะลาวันที่ 3 ระดับน้ำเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง กระทบ 8 อำเภอ

วิกฤตน้ำท่วมยะลาวันที่ 3 ระดับน้ำเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ย่านการค้าเศรษฐกิจ พื้นที่รอบนอกยังอ่วม ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์อุทกภัย สรุปกระทบ 8 อำเภอ ประชาชนเดือดร้อน 131,685 คน