ทำเนียบรัฐบาล 21 ม.ค.-“พล.อ.ประวิตร” ประชุมกนช. ย้ำเร่งแก้ปัญหาน้ำท่วม-แล้งซ้ำซาก ฟื้นฟูคลองแสนแสบ ปรับภูมิทัศน์ริมคลอง ให้ประชาชนใช้เป็นเส้นทางสัญจร
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง เป็นประธานประชุมคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) (นัดพิเศษ) ณ ห้องประชุม 301 ชั้น 3 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล โดยมีนายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมผ่านระบบวีดิโอคอนเฟอเรนซ์ไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านน้ำ
พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า การประชุมกนช.วันนี้(21 ม.ค.) เป็นนัดพิเศษ เนื่องจากมี 5 โครงการสำคัญที่หน่วยงานพร้อมขอตั้งงบประมาณประจำปี 2565 โดยเป็นโครงการที่ดำเนินการโดยกรุงเทพมหานคร จำนวน 4 โครงการ เพื่อบรรเทาและแก้ปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ 1.โครงการก่อสร้างเขื่อนคอนกรีตเสริมเหล็กคลองบางไผ่ จากบริเวณคลองพระยาราชมนตรีถึงบริเวณสุดเขต กทม. เป็นการก่อสร้างเขื่อนคอนกรีตเสริมเหล็ก ความยาว 20,700 เมตร ประตูระบายน้ำ จำนวน 1 แห่ง ดาดท้องคลองใต้สะพาน สะพานคนเดินข้าม พร้อมติดตั้งราวเหล็กกันตก บันไดเหล็กหน้าเขื่อน และก่อสร้างอาคารบังคับน้ำ จำนวน 1 แห่ง
“โครงการนี้มีระยะเวลาดำเนินงาน 4 ปี (ปี2565-2568) เพื่อช่วยเร่งระบายน้ำสามารถแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังเนื่องจากน้ำฝน ในพื้นที่เขตภาษีเจริญ บางแค หนองแขม และทวีวัฒนา ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 14 ตร.กม. สามารถรองรับปริมาณน้ำหลากจากพื้นที่ตอนบนของ กทม. ให้ระบายผ่านคลองบางไผ่ไปยังคลองทวีวัฒนาหรือไปทางคลองพระยาราชมนตรี เพิ่มปริมาตรเป็นแก้มลิงกักเก็บน้ำได้ 186,300 ลบ.ม. แล้วระบายลงสู่โครงการแก้มลิง “คลองมหาชัย-คลองสนามชัย” ได้สองทาง อัตราการไหลสอดคล้องกับอุโมงค์ระบายน้ำคลองทวีวัฒนาและอุโมงค์ระบายน้ำคลองพระยาราชมนตรี” พล.อ.ประวิตร กล่าว
พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า 2.โครงการก่อสร้างเขื่อนคอนกรีตเสริมเหล็กพร้อมระบบรวบรวมน้ำเสียคลองแสนแสบ จากบริเวณประตูระบายน้ำมีนบุรีถึงบริเวณประตูระบายน้ำหนองจอก เป็นการก่อสร้างเขื่อนคอนกรีตเสริมเหล็ก ความยาว 27,400 เมตร พร้อมติดตั้งสะพานเหล็กทางเดิน บันไดขึ้น-ลง และก่อสร้างท่อรวบรวมน้ำเสีย ความยาว 27,400 เมตร ระยะเวลาดำเนินงาน 5 ปี (ปี 2565-2569) เมื่อแล้วเสร็จจะช่วยเร่งระบายน้ำเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังเนื่องจากน้ำฝนในพื้นที่เขตคลองสามวา มีนบุรี และหนองจอก ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 90 ตร.กม. รองรับปริมาณน้ำหลากจากพื้นที่ฝั่งตะวันออกของ กทม. โดยให้คลองแสนแสบเป็นเสมือนแก้มลิงและทำหน้าที่ระบายน้ำไปยังแม่น้ำบางปะกง สามารถรองรับปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น 479,500 ลบ.ม. อัตราการไหล 60 ลบ.ม.ต่อวินาที(ปตร.หนองจอก)
“3.โครงการก่อสร้างเขื่อนคอนกรีตเสริมเหล็กคลองบางนาจากคลองเคล็ดถึงบริเวณแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นการก่อสร้างเขื่อนคอนกรีตเสริมเหล็ก ความยาว 14,500 เมตร ระบบท่อรวบรวมน้ำเสีย ความยาว 14,500 เมตร พร้อมติดตั้งราวเหล็กกันตก บันไดเหล็กหน้าเขื่อน และเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ ระยะเวลาดำเนินงาน 4 ปี (ปี 2565-2568) ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำในพื้นที่เขตบางนาและเขตประเวศ ครอบคลุมพื้นที่ 25 ตร.กม. ลดผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมขัง ซึ่งประชาชนสามารถใช้เป็นทางเดินสัญจรและทางจักรยานออกกำลังกาย โดยจะพัฒนาภูมิทัศน์ริมฝั่งคลองด้วย” พล.อ.ประวิตร กล่าว
พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า 4.โครงการก่อสร้างส่วนต่อขยายอุโมงค์ระบายน้ำใต้คลองบางซื่อจากถนนรัชดาภิเษกถึงคลองลาดพร้าว เป็นการก่อสร้างอุโมงค์ระบายน้ำ ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 4 เมตร ยาว 1,700 เมตร อาคารรับน้ำคลองลาดพร้าว จำนวน 1 แห่ง งานเชื่อมต่ออุโมงค์กับอุโมงค์ระบายน้ำใต้คลองบางซื่อ จำนวน 1 แห่ง และระบบระบายน้ำคลองด่วนลงสู่คลองบางซื่อ จำนวน 1 แห่ง ระยะเวลาดำเนินงาน 3 ปี (ปี 2565–2567) จะช่วยแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่เขตห้วยขวาง ลาดพร้าวและจตุจักร โดยเพิ่มพื้นที่ระบายน้ำลงสู่อุโมงค์อีก 36.60 ตร.กม. บรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนจากปัญหาน้ำท่วมขังและลดปัญหาการจราจรติดขัดจากน้ำท่วมผิวจราจรได้อีกด้วย
นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสทนช. กล่าวว่า ที่ประชุมเห็นชอบให้ องค์การบริหารส่วนจังหวัดปัตตานีดำเนินการโครงการสถานีสูบน้ำดิบพร้อมระบบท่อส่งน้ำเพื่อรองรับการพัฒนาเมืองต้นแบบสามเหลี่ยม มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน จ.ปัตตานี ซึ่งได้ผ่านการมีส่วนร่วมของประชาชน รวมทั้งคณะอนุกรรมการทรัพยากรน้ำจังหวัดปัตตานีและคณะกรรมการลุ่มน้ำปัตตานี มีมติเห็นชอบให้ดำเนินโครงการ ประกอบด้วย สถานีสูบน้ำดิบ ต.ตาเซะ อ.เมือง จ.ยะลา อาคารโรงประปา มีกำลังการผลิต 1,200 ลบ.ม.ต่อชั่วโมง หรือประมาณ 28,800 ลบ.ม.ต่อวัน สามารถผลิตประปาได้ปริมาณ 10.52 ล้าน ลบ.ม.ต่อปี
“ระบบท่อหลักออกแบบด้วยหลักการ “ระบบโครงข่ายท่อ” (Pipe Network) เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพภูมิประเทศที่ต้องกระจายน้ำไปทุกทิศทางและป้องกันความเสียหายของการส่งน้ำอันเนื่องจากการก่อวินาศกรรม มีระยะเวลาดำเนินงาน 2 ปี (ปี65–66) สามารถส่งน้ำไปยังพื้นที่ 4 อำเภอของจังหวัดปัตตานี ได้แก่ หนองจิก แม่ลาน โคกโพธิ์ และเมืองปัตตานี ช่วยเพิ่มศักยภาพการพัฒนาโครงการเมืองต้นแบบ เขตอุตสาหกรรมหนองจิก และโครงการท่าเรือน้ำลึก รวมทั้งยังสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ทางการทหารและแก้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนใต้ ที่สำคัญจะทำให้มีน้ำสำหรับการอุปโภค-บริโภคอย่างพอเพียง เป็นการช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ให้ดียิ่งขึ้น” นายมมเกียรติ กล่าว
นายสมเกียรติ กล่าวว่า ที่ประชุมเห็นชอบโครงการสำคัญที่มีความพร้อมในการดำเนินงานทั้ง 5 โครงการแล้ว โดยเห็นชอบแต่งตั้งคณะอนุกรรมการบริหาร พัฒนา อนุรักษ์และฟื้นฟูคลองแสนแสบที่มีพล.อ.ประวิตรเป็นประธาน เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สทนช. กระทรวงมหาดไทย กรุงเทพมหานคร องค์การจัดการน้ำเสีย กรมเจ้าท่า กรมโยธาธิการและผังเมือง สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) และหน่วยงานภาคเอกชนบูรณาการขับเคลื่อนแผนงานการพัฒนาและฟื้นฟูสภาพแวดล้อมคลองแสนแสบ แก้ไขปัญหาน้ำเสียและการระบายน้ำ เสริมสร้างความปลอดภัยการสัญจรทางน้ำของประชาชน ปรับปรุงสภาพภูมิทัศน์ แก้ไขปัญหามลภาวะและคุณภาพน้ำ รวมทั้งบูรณาการบริหารจัดการน้ำให้ครอบคลุมและเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น ทำให้การแก้ไขปัญหาคลองแสนแสบแล้วเสร็จโดยเร็ว ระบบนิเวศมีความสมบูรณ์ได้อีกครั้ง
นายสมเกียรติ กล่าวภายหลังการประชุมว่า พล.อ.ประวิตรกำชับให้เสนอโครงการที่เกี่ยวกับน้ำทั้งหมดต้องผ่านสทนช.เท่านั้น ส่วนผลการหารือในวันนี้ทั้งหมดจะนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีสัปดาห์หน้า ทั้งนี้ ที่ประชุมได้ติดตามปัญหาภัยแล้งซึ่งพบว่ามีการปลูกพืชมากกว่าแผนที่กำหนดไว้ ทำให้ปริมาณน้ำไม่เพียงพอ พล.อ.ประวิตร จึงมอบหมายให้สทนช. ชลประทานและจังหวัด หามาตรการป้องกันปัญหาภัยแล้งในระยะยาวต่อไป ซึ่งในส่วนของแม่น้ำยม มีแผนพัฒนาประตูระบายน้ำ.-สำนักข่าวไทย