“ลูกลมจิ๋ว” ไล่นก-กา ภูมิปัญญาท้องถิ่น

ตรัง 19 ม.ค.- พาไปดูมรดกภูมิปัญหาท้องถิ่นของชาวบ้าน  ต.นาหมื่นศรี อ.นาโยง ที่ชาวนาอนุรักษ์และสืบทอดสู่รุ่นลูกหลาน โดยชาวบ้านเรียกว่า “ลูกลม”  ชาวนาใช้เพื่อไล่นกไล่กา ไม่ให้เข้ามากัดกินข้าว 


ที่ ต.นาหมื่นศรี อ.นาโยง  ซึ่งเป็นอำเภอที่มีการทำนามากที่สุดของจังหวัดตรัง ชาวบ้านอนุรักษ์และสืบทอดสิ่งนี้ไว้ เรียกว่า “ลูกลม” (ลูกลมมีมาตั้งแต่สมัยโบราณ ที่ชาวนาใช้เพื่อไล่นกไล่กา เพื่อไม่ให้เข้ามากัดกินข้าว โดยจะปักไว้ในนาข้าวคู่กับ “หุ่นไล่กา”  เมื่อลมพัดทั้งหุ่นไล่กา และลูกลม ก็จะเคลื่อนไหวและเกิดเสียงดังลั่นทุ่งทำให้นกกาบินหนีไป) โดยเฉพาะในมกราคม – มีนาคมของทุกปี  เป็นช่วงข้าวออกรวงจนสุกเหลืองอร่าม นกกาจะมากินข้าวในนาชาวบ้านก็มักจะทำลูกลมปักไว้กลางทุ่งจนเป็นทิวแถว จนเกิดเป็นงานประจำปีขึ้นชื่อ “งานประเพณีแข่งขันลูกลม” ซึ่งชาวบ้านจะทำลูกลมนำมาปักไว้ด้วยสีสันสวยงาม เพื่อประชันขันแข่ง ทั้งประเภทสวยงาม และเสียงดัง มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก

คนที่จะทำลูกลมเป็นส่วนใหญ่จะเป็นคนเฒ่าคนแก่ รวมตัวกันตั้งเป็นวิสาหกิจชุมชนกลุ่มอนุรักษ์ลูกลมบ้านนาหมื่นศรี หมู่ 2 ต.นาหมื่นศรี มีลุงประเสริฐ คงหมุน อายุ 75 ปี เป็นประธานกลุ่มฯ ด้วยแนวคิดว่าทุกปี นักท่องเที่ยวจะเดินทางมาเที่ยวงานประเพณีแข่งขันลูกลมของ ต.นาหมื่นศรี จำนวนมาก จึงเกิดไอเดียผลิตลูกลมจำหน่าย ทั้งขนาดใหญ่ ขนาดกลาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งลูกลมจิ๋ว หรือกังหันลมจิ๋วขึ้น เพื่อจำหน่ายเป็นสินค้าที่ระลึก  ยอดสั่งซื้อเข้ามาไม่ขาดสาย เพราะสีสันสวยงาม ทำจากวัสดุธรรมชาติที่หาได้ง่ายในท้องถิ่น บรรจุกล่องอย่างสวยงาม โดยที่กล่องบรรจุดังกล่าว จะมีทั้งขั้นตอนการประกอบลูกลมจิ๋ว  ประวัติความเป็นมาของงานประเพณีการแข่งขันลูกลม ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของลูกลมจิ๋วสินค้าที่ระลึกดังกล่าว  


ขั้นตอนการทำลูกลมจิ๋ว ใช้วัสดุอุปกรณ์ตกแต่งเหมือนกับลูกลมขนาดใหญ่ เพียงแต่ย่อส่วนให้เล็กลงเท่านั้น ทั้งธงปักเธียวปักสูง พ่วงโยนใส่ให้ปลิวไสวห้อยส่วนหาง และด้านข้างสำหรับแกว่งไกวยามลมพัดไล่นกไล่กาและสวยงามด้วย เริ่มจากการจัดเตรียมวัสดุที่หาได้ในท้องถิ่น เช่น ไม้ไผ่ กาบหมากแห้ง ทางหวายน้ำ  ชานไม้เนื้อแข็ง และวัสดุตกแต่งอื่น เพื่อเพิ่มสีสันเช่น ธงผ้า และลูกปัด  ซึ่งหลังจากการเตรียมอุปกรณ์ครบถ้วน คุณตาประเสริฐเริ่มลงมือตัดวัสดุต่างๆ ตามขนาดที่ต้องการเริ่มตั้งแต่เสาหลัก เสายอดธง ริ้วธง พวงโยน ใบพัด ประกอบทุกอย่างตามขั้นตอนการทำลูกลมปกติทุกประการ เพียงแต่ย่อขนาด เมื่อได้ขนาดตามต้องการ และยึดด้วยฐานไม้เนื้อแข็ง เป็นอันเสร็จขั้นตอน พร้อมจำหน่ายสามารถนำไปเป็นของขวัญ ของฝาก และของที่ระลึก

นอกจากนี้ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนฯ ยังผลิตลูกลมทุกขนาด ขนาดใหญ่ตั้งแต่  2 – 4 เมตร ลูกค้าที่สั่งซื้อลูกลมขนาดใหญ่ส่วนจะนำไปใช้ตกแต่งสวน บ้านเรือน อาคาร ร้านอาหาร ห้างร้าน และสถานที่ราชการ เริ่มที่ราคา 1,800 บาท ส่วนลูกลมขนาดเล็ก หรือลูกลมจิ๋ว ลูกค้าจะสั่งซื้อเป็นของฝากของที่ระลึก และเป็นของรางวัลในการแข่งขันกีฬา-กรีฑา ราคา 300 บาท ต่อชิ้น ไม่คิดค่าส่ง ขณะนี้ก็มีลูกค้าสั่งซื้อเข้ามาไม่ขาดสาย นอกจากนั้นทางกลุ่มยังผลิตพัดลมมือถือ ทำจากวัสดุไม้ไผ่ ราคาตั้งแต่ 50 -250 บาท ซึ่งพัดลมมือถือนี้หากดึงเชือกจะสลับพัดเข้าหาตัวเอง และพัดไปหาคนตรงข้ามได้ แสดงถึงความสามัคคี และผู้สูงอายุสามารถใช้มือมือดึงออกกำลังกายแขนก็ได้  ทั้งนี้ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มอนุรักษ์ลูกลมบ้านนาหมื่นศรี ยังเปิดเป็นศูนย์เรียนรู้การผลิตลูกลมให้กับนักเรียน นักศึกษา และชาวบ้านที่สนใจอีกด้วย ติดต่อสอบถามได้ที่ เบอร์โทรศัพท์ 087-2766058 และ 095-2579853.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ป.ป.ส. รวบ 3 นักค้ายาเสพติดต่างชาติ ที่สนามบินสุวรรณภูมิ

ป.ป.ส. รวบนักค้ายาเสพติดต่างชาติ 3 ราย ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ส่งออกไปอิตาลี-อังกฤษ เลขาฯ ป.ป.ส. เผยความสำเร็จครั้งนี้เป็นผลจากการประสานงานใกล้ชิดระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ตรวจสอบตลาดปาล์มน้ำมัน หลังราคาพุ่ง

ช่วงนี้น้ำมันปาล์มตามท้องตลาดปรับราคาแพงขึ้น จากเดิมขวดละราว 10 บาท ทำให้ผู้บริโภคถึงกับโอดครวญ ขณะที่เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน ระบุแม้ช่วงนี้ราคาปาล์มน้ำมันขายได้ราคาดีที่สุดในรอบหลายปี แต่เกษตรกรกลับไม่มีปาล์มขาย

ข่าวแนะนำ

เดินหน้าเสนอ ครม. ตั้งคณะกรรมการร่วมไทย-กัมพูชา เจรจาพื้นที่ทับซ้อน

กระทรวงการต่างประเทศ เดินหน้าเสนอ ครม. ตั้งคณะกรรมการร่วมด้านเทคนิค JTC ไทย-กัมพูชา เจรจาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลระหว่างไทยกับกัมพูชา ตามแนว MOU 2544 ยืนยันไม่ทำให้เสียเกาะกูด

เข้าสู่ฤดูหนาว

อุตุฯ ประกาศไทยเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว

กรมอุตุฯ ประกาศการเข้าสู่ฤดูหนาวของประเทศไทย ปี 2567 ตั้งแต่วันที่ 3 พ.ย. โดยเป็นการเข้าสู่ฤดูหนาวช้ากว่าปกติประมาณ 2 สัปดาห์ เนื่องจากมีพายุก่อตัวในมหาสมุทรแปซิฟิกและเคลื่อนเข้าสู่ทะเลจีนใต้ และยังมีฝนบางพื้นที่ ปีนี้จะหนาวกว่าปีที่แล้ว

ช้างพลายขุนเดช

ย้ายแล้ว “ช้างพลายขุนเดช” ไปสถาบันคชบาลแห่งชาติ จ.ลำปาง

ย้ายแล้ว “ช้างพลายขุนเดช” สู่สถาบันคชบาลแห่งชาติ จ.ลำปาง จบดราม่า หลังฝากเลี้ยงที่มูลนิธิอนุรักษ์ช้างและสิ่งแวดล้อม จ.เชียงใหม่