นนทบุรี 13 ม.ค.-ผลประชุมบอร์ด กกร. เตรียมเสนอ ครม.ต่ออายุคุมราคาหน้ากากอนามัยไม่เกิน 2.50 บาท อีก 1 ปี พร้อมเข้มงวดการขายเกินจับหมด
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังประชุมคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ครั้งที่ 1/2564 ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้ต่ออายุสินค้าควบคุม 4 รายการ ที่เคยอยู่ในประกาศฉบับเดียวกัน ที่จะหมดอายุในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2564 ได้แก่ รายการที่1 หน้ากากอนามัย, รายการที่2 ใยสังเคราะห์ ,รายการที่3 แอลกอฮอล์และเจลล้างมือ ,รายการที่4 เศษกระดาษ โดยต่ออายุ เป็นสินค้าควบคุมอีก 1 ปี ส่งผลให้เป็นการควบคุมราคาต่อไป โดยจะเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีรับทราบได้ในสัปดาห์ได้ต่อไป
ทั้งนี้ หน้ากากอนามัยนั้นมี 3 ส่วน คือ 1.หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ที่ผลิตจากโรงงานในประเทศไทยที่ขึ้นทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย.ปัจจุบันมีอยู่ 30 กว่าโรงงาน ที่มีกำลังการผลิตอย่างมีนัยยะสำคัญจะคุมราคาอยู่ที่ไม่เกินชิ้นละ 2.50 บาทเช่นเดิม ส่วนหน้ากากอนามัยทางเลือกซึ่งประกอบด้วยที่ผลิตในประเทศไทยและนำเข้าจะคุมราคาเช่นเดิมขายปลีกได้ในราคาไม่เกินต้นทุนบวกไม่เกินร้อยละ 60 และหน้ากากผ้าไม่กำหนดให้เป็นสินค้าควบคุมและรัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมให้ประชาชนที่ไม่ป่วยใช้หน้ากากผ้าในการป้องกันโควิดเพราะกระทรวงสาธารณสุขให้การยืนยันแล้วว่าใช้ในการป้องกันสำหรับผู้ที่ไม่ป่วยได้
อย่างไรก็ตามการดำเนินคดีในช่วงการแพร่ระบาดของโควิดรอบใหม่นี้ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2563 ถึงวันที่ 12 มกราคม 2564 มีผู้ร้องเรียนเข้ามาทั้งหมด 160 ราย ดำเนินการตรวจสอบแล้ว 129 ราย มีผลในการดำเนินคดีทั้งหมด 19 ราย ประกอบด้วย ไม่ปิดป้ายแสดงราคา 13 คดี ขายเกินราคา 6 คดี ที่เหลือเมื่อตรวจสอบแล้วไม่พบการกระทำความผิด และในจำนวนคดีที่ขายเกินราคา 6 คดีนั้นเป็นคดีที่กระทำความผิดบนออนไลน์ 2 คดี ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ได้กำหนดเป็นแนวทางชัดเจนว่าจะต้องควบคุมดูแลไม่ปล่อยให้แพลตฟอร์มเกิดการขายของผิดกฎหมายรวมทั้งหน้ากากอนามัยด้วย จึงได้แจ้งความดำเนินคดีแล้วโดยเจ้าหน้าที่ของกรมการค้าภายในเป็นผู้ดำเนินการและเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง
นายวัฒนศักดิ์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า จากการที่หารือกับโรงงานผู้ผลิตหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ตอนนี้วัตถุดิบยังคงมีอยู่และเพียงพอต่อความต้องการ และได้ติดตามดูแลอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะกำลังการผลิตได้จากปัจจุบัน 5 ล้านชิ้นต่อวันได้แล้ว ส่วนรายการสินค้าและบริการอื่นๆที่อยู่ในบัญชีสินค้าควบคุม ซึ่งจะหมดเวลาควบคุมในเดือนกรกฎาคมปีนี้ ทุกรายการสินค้าและบริการยังคงเฝ้าติดตาม โดยเฉพาะสินค้าที่มีการเคลื่อนไหวตามฤดูกาล กรมฯมีการติดตามอย่างใกล้ชิดเป็นประจำทุกสัปดาห์อยู่แล้ว.-สำนักข่าวไทย