ภาคใต้ 6 ม.ค. – หลายจังหวัดภาคใต้อ่วม ฝนตกหนัก ทำน้ำท่วมบ้านเรือนประชาชน นอกจากนี้ยังพบดินสไลด์ทับถนนหลายจุด สัญจรไม่ได้ ขณะที่เจ้าหน้าที่ใน อ.สุคิริน จ.นราธิวาส เร่งช่วยเหลือนำตัวหญิงเจ็บท้องคลอดลูกส่งโรงพยาบาล
สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.ยะลา หลังจากเขื่อนบางลางวิกฤติจนต้องเปิดประตูระบายน้ำล้น เพื่อระบายน้ำในเขื่อน ป้องกันผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับตัวเขื่อน ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำปัตตานีเพิ่มสูงขึ้นจนเอ่อเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน วันนี้นายธราวุธ ช่วยเกิด นายอำเภอบันนังสตา พร้อมด้วย พ.อ.ชาตินักรบ พรศิริรัตน์ ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 30 กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ลงพื้นที่บ้านหัวสะพานโยง หมู่ที่ 2 ต.บาเจาะ อ.บันนังสตา ซึ่งเป็นพื้นที่ติดแม่น้ำปัตตานี เพื่อสำรวจและมอบสิ่งของช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ทำให้ต้องเร่งอพยพสิ่งของไว้ในที่สูง
ขณะที่นายอาบีดิง กาจะลากี นายเทศบาลตำบลบันนังสตา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ได้เร่งช่วยเหลือชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 5 ต.บาเจาะ อ.บันนังสตา ที่ถูกน้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วม พร้อมทั้งนำเต็นท์มาให้บริการ หลังพบว่ามีบ้านเรือนประชาชน 2 หลัง ถูกกระแสน้ำพัดเสียหาย ได้แก่ บ้านพักของนางสาวสุไลลา กูหะยี และนางสาวรอปิอ๊ะ อาลี ทำให้ข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้านหลายรายการได้รับความเสียหาย
ส่วนที่ อ.เบตง มีฝนตกต่อเนื่องตลอดทั้งวัน ทำให้น้ำป่าไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 3 บ้าน กม.36 ได้รับความเสียหายกว่า 100 หลังคาเรือน ชาวบ้านบอกว่าน้ำท่วมครั้งนี้หนักสุดในรอบ 10 ปี และน้ำยังไหลเข้าท่วมหน้าโรงเรียนบ้านใหม่ (วันครู 2503) ทำให้นักเรียนกว่า 600 คน ไม่สามารถเดินทางมาโรงเรียนได้ ทางโรงเรียนต้องประกาศปิดชั่วคราว ส่วนครูต้องช่วยชาวบ้านขนย้ายสิ่งของเครื่องใช้ไปไว้ในโรงเรียน และจัดห้องเรียนเป็นที่พักชั่วคราวให้ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน พร้อมทั้งทำข้าวกล่องแจกให้นักเรียนและชาวบ้าน
นางซาไลฮา สะมะแอ ชาวบ้าน เล่าว่า ฝนตกหนักตกตั้งแต่เมื่อวาน ทำให้ประมาณ 6 โมงเช้า มีน้ำไหลเข้าท่วมอย่างรวดเร็ว ขณะนั้นตนกำลังจะเปิดร้านขายข้าว จึงขนย้ายข้าวของไม่ทัน นอกจากนี้ยังเกิดดินสไลด์ลงมาปิดถนนสุขยางค์ สาย 410 ยะลา-เบตง บริเวณ กม.39 ต.อัยเยอร์เวง ทำให้รถที่จะเดินทางไป จ.ยะลา ไม่สามารถเดินทางได้ ต้องเลี่ยงไปใช้เส้นทางบ้านธารมะลิ ออกไปยังบ้านกระป๋อง ต.แม่หวาด อ.ธารโต โดยเจ้าหน้าที่เร่งนำเครื่องจักรกลดำเนินการเก็บสิ่งกีดขวาง ทั้งดินโคลน ต้นไม้ เสาไฟฟ้า เสาสัญญาณโทรศัพท์ พร้อมเปิดเส้นทาง คาดว่าช่วงเย็นเส้นทางน่ากลับมาใช้งานได้ตามปกติ
ส่วนที่ จ.นราธิวาส น้ำป่าจากเทือกเขาสันกาลาคีรีไหลทะลักท่วมพื้นที่ อ.สุคิริน อย่างหนัก ทำให้มีน้ำท่วมบ้านเรือนประชาชน 39 หมู่บ้าน จากทั้งหมด 41 หมู่บ้าน มีผู้ได้รับผลกระทบกว่า 500 ครัวเรือน โดยเฉพาะชุมชนไผ่งาม ม.5 ต.ร่มไทร บ้านน้อมเกล้า ม.12 ต.สุคิริน ซึ่งอยู่ติดแนวแม่น้ำ มีน้ำป่าไหลทะลักล้นแนวแม่น้ำเข้าท่วมบ้านเรือนและเส้นทางอย่างรวดเร็ว เส้นทางเข้าออกหมู่บ้านถูกตัดขาด ระดับน้ำท่วมสูงและไหลเชี่ยว รถทุกชนิดไม่สามารถสัญจรได้ ต้องใช้เรือเป็นพาหนะเท่านั้น
ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 12 บ้านน้อมเกล้า ต.สุคิริน ได้ประสานขอความช่วยเหลืออพยพหญิงท้องแก่ที่ปวดท้องคลอด นายอรุณ ศรีใส นายอำเภอสุคิริน จึงได้ประสานไปยังโรงพยาบาลสุคิริน และปลัดอำเภอ พร้อมกำลัง อส.อ.สุคิริน นำเรือเข้าไปอพยพช่วยเหลือหญิงท้องแก่ออกมาส่งให้ทีมรถรีเฟอร์นำส่งโรงพยาบาลสุคิรินอย่างทันท่วงที
นอกจากนี้ชาวบ้านได้ผลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส นำอวน-กัดและไทรไปวางช่วงน้ำเริ่มท่วมสวน ไร่นา แล้วเก็บกู้ ได้กุ้ง-ปลาหลากหลายชนิดนำมาวางจำหน่ายริมถนน สร้างรายได้ในช่วงน้ำท่วม
ล่าสุดช่วงบ่ายผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจวัดระดับน้ำที่ท่วมบ้านเรือนตลอดแนวแม่น้ำในเขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลกซ้ำอีกครั้ง พบว่าระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นมากกว่าช่วงเช้าอีก 50 ซม. ซึ่งในช่วงค่ำของวันนี้จะมีมวลน้ำก้อนใหญ่จากบ้านบูเก๊ะตาไหลลงมาสมทบ ซึ่งจะส่งผลกระทบทำให้ระดับที่ท่วมสูงอยู่แล้วจะเพิ่มระดับขึ้นอีกอย่างรวดเร็ว.-สำนักข่าวไทย