กรุงเทพฯ 16 ธ.ค.-“พล.อ.ประวิตร” ย้ำหน่วยงานรัฐ ร่วมเอกชน ป้องกันค้ามนุษย์ ดำเนินคดีเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องเด็ดขาด ตั้งเป้าเทียร์ 1 ปีหน้า
เช้าวันนี้ (16ธ.ค.)พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ (ปคม.) ครั้งที่ 4/2563 และการประชุมคณะกรรมการประสานและกำกับการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ (ปกค.) ครั้งที่ 3/2563 ต่อเนื่องกัน ณ ห้องประชุมวิจิตรวาทการ สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ โดยมีผู้บริหารหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม
พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า การประชุมวันนี้ ที่ประชุมได้เห็นชอบในหลักการร่างรายงานผลการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ของประเทศไทย ประจำปี 2563 ฉบับภาษาไทย และภาษาอังกฤษเรียบร้อยแล้ว โดยเน้นนำเสนอความก้าวหน้าและผลการดำเนินงาน 3 ด้านสำคัญ ดังนี้
1) ด้านดำเนินคดีและบังคับใช้กฎหมาย: นำเสนอสถิติการดำเนินคดีค้ามนุษย์ ความคืบหน้าคดีสำคัญ และการดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์
2) ด้านคุ้มครองช่วยเหลือ: การเตรียมการรองรับ การดูแลกลุ่มผู้เสียหายที่มีความหลากหลายทางเพศ และการพัฒนาแนวทางการใช้ระยะเวลาฟื้นฟูและไตร่ตรอง (Reflection Period) เพื่อให้บุคคลที่อาจเป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ได้มีระยะเวลาที่เหมาะสมในการทบทวนเรื่องราว ก่อนที่จะเข้าสู่กระบวนการคุ้มครองช่วยเหลือและดำเนินคดี
และ 3) ด้านป้องกัน: การปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อประโยชน์ในการป้องกันและปรามการค้ามนุษย์ การกำหนดมาตรการเพื่อป้องกันการค้ามนุษย์ ในกลุ่มแรงงานไทยที่ไปทำงานต่างประเทศ การคุ้มครองแรงงานต่างด้าวให้ได้รับสิทธิประโยชน์ตามกฎหมาย และการเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจแรงงานกลุ่มเสี่ยงและดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิแรงงานอย่างเข้มงวด
พล.อ.ประวิตร กล่าวด้วยว่า ที่ประชุมยังรับทราบความคืบหน้าการดำเนินงานสำคัญ ของคณะอนุกรรมการฯ 3 คณะ ได้แก่ คณะอนุกรรมการร่วมว่าด้วยการต่อต้านการค้ามนุษย์ ไทย-สหรัฐฯ (ฝ่ายไทย) คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการอาเซียน – ออสเตรเลีย เพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์ และคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์อย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ ก่อนปิดการประชุม รองนายกรัฐมนตรีได้กล่าวขอบคุณและให้กำลังใจทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ช่วยกันทำงานทั้งที่เป็นภารกิจของหน่วยงานและการบูรณาการระหว่างหน่วยงานอย่างเต็มที่ หากมีปัญหาและอุปสรรคการดำเนินงาน ยินดีให้ความช่วยเหลือและสนับสนุน เพื่อขจัดการค้ามนุษย์ให้หมดสิ้นไปจากประเทศไทยตามเจตนารมณ์ของรัฐบาล และยกระดับประเทศไทยสู่ Tier 1 ในปี 2564
ด้าน พล.ต.อ.ธรรมศักดิ์ วิชชารยะ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานอนุกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์อย่างยั่งยืน กล่าวว่า สถานการณ์ในปีนี้ถือว่าดีขึ้นในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นการค้ามนุษย์ทางเพศ ด้านแรงงาน หรือการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็ก ทั้งนี้ อันเป็นผลจากการล็อกดาวน์ตามมาตรการทางสาธารณสุข การเว้นระยะห่างทางสังคมตามวิถีชีวิตใหม่หรือ New Normal แต่ในช่วงผ่อนปรนมาตรการ ก็สามารถจับกุมการกระทำผิดบนสื่อออนไลน์ได้ในสัดส่วนที่เพิ่มขึ้น ซึ่ง พล.อ.ประวิตร ได้เน้นย้ำให้เพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินคดีโดยเฉพาะคดีค้ามนุษย์ด้านแรงงานในเรือประมง ซึ่งได้มีการจับกุมคดีสำคัญ 2 ราย เป็นกรณีเรือประมงต่างชาติกับเจ้าของเรือและแพปลาในภาคใต้ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่รัฐที่มีอิทธิพลในพื้นที่และการเพิ่มมาตรการป้องกันโดยให้ภาค เอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน
พล.ต.อ.ธรรมศักดิ์ กล่าวต่อว่า ได้มียกระดับความร่วมมือในการแก้ปัญหากับทางการสหรัฐอเมริกาและออสเตรเลีย โดยมีการตั้งคณะทำงานทวิภาคีภายใต้กำกับของ คกก.ปคม.ขึ้น 2 คณะ ซึ่งสร้างความเชื่อมั่นในรูปแบบความร่วมมือที่กระชับแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น เชื่อว่าผลงานในการแก้ปัญหาเชิงระบบจะมีความก้าวหน้าชัดเจนมากขึ้นในช่วงสิ้นเดือน มี.ค.64 คาดว่าการจัดอันดับของประเทศไทยในรายงานทิพรีพอร์ตปีหน้าน่าจะดีขึ้น .-สำนักข่าวไทย