ตรัง 11 ธ.ค.-ชาวบ้านหลังเขาบนเกาะลิบง ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง เผยถูกคลื่นกัดเซาะชายฝั่ง 10 ครัวเรือนในระยะเวลานานกว่า 10 ปี แต่ยังไร้วิธีการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน
ที่บ้านหลังเขา หมู่ที่ 5 ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง นายราม วสุธนภิญโญ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดตรัง พร้อมด้วย นายยุทธนา วิมลเมือง เจ้าพนักงานป้องกันการทุจริตชำนาญการ พาสื่อมวลชนลงพื้นที่บ้านหลังเขา หลังได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่า ประสบปัญหาคลื่นกัดเซาะชายฝั่ง กลืนที่ดินเดิมเป็นระยะทางกว่า 50 เมตร ซึ่งขณะนี้กลายเป็นทะเล จนทำให้บ้านเรือนของชาวบ้านไม่ต่ำกว่า 10 ครัวเรือนต้องพังถล่มจมหายไปในทะเล ซึ่งปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นมาเป็นระเวลากว่า 10 ปีแล้ว เฉลี่ยบ้านพังลงทะเลปีละ 1 หลัง แต่ยังไร้การแก้ไขปัญหาที่ถูกจุดจากหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ชาวบ้านทำได้แค่ช่วยกันหาไม้จำนวนมากมาปักเรียงกันเป็นแนว เพื่อเป็นแนวกันคลื่นและชะลอการกัดเซาะชายฝั่ง ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่ากรมโยธาธิการและผังเมือง จะดำเนินการก่อสร้างเขื่อนป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งในพื้นที่ดังกล่าว งบประมาณกว่า 90 ล้านบาท ในขณะนี้อยู่ระหว่างการออกแบบและศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม โดยทาง ป.ป.ช.ได้ลงตรวจสอบเพื่อเป็นการป้องกันและปราบปรามไม่ให้มีการทุจริตเกิดขึ้นในหน่วยงานภาครัฐ และเพื่อเป็นการลงพื้นที่รับฟังปัญหาจากชาวบ้าน โดยชาวบ้านรู้สึกไม่พอใจเพราะมีหน่วยงานต่าง ๆ ลงพื้นที่มาสำรวจ ออกแบบและสอบถามชาวบ้านมานานกว่า 10 ปีแล้วจนบ้านจมลงทะเลนับ 10 หลังแต่ก็ยังไม่ได้สร้างเขื่อนป้องกันคลื่นเสียที ทั้งที่ที่ดินที่จมหายไปเป็นที่ดินที่มี น.ส 3 และ ส.ค.1 อย่างถูกต้อง แต่ยังไร้การแก้ไขปัญหาที่ถูกจุดจากหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง.-สำนักข่าวไทย