รถเกือบ 200 คัน เหยียบยางมะตอยเสียหาย

ตรัง 14 ต.ค.-วิจารณ์หนัก โครงการซ่อมถนนใน จ.ตรัง ผู้รับเหมาเทราดยางมะตอย โดยไม่แจ้งเตือนผู้ใช้รถใช้ถนน หรือปิดเส้นทาง ทำให้มีรถที่ขับผ่าน เสียหายเกือบ 200 คัน ด้านเทศบาลสั่งแก้ไขด่วน พร้อมเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ

เทศบาลนครตรัง เป็นเจ้าของโครงการปรับปรุง ผิวจราจรแอสฟัลติกต์คอนกรีต ถนนสายขนานทางรถไฟ (ใต้) หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า ถนนสายทางรถไฟวังตอ โดยมีบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งเป็นผู้รับจ้าง ในงบประมาณ 6,030,000 บาท ปรากฏว่า ตั้งแต่ช่วงเวลาประมาณ 15.00 น. วันที่ 12 ต.ค. ทางผู้รับจ้างได้ทำการราดยางมะตอยเต็มพื้นถนนตลอดสาย แต่ปรากฏข้อเท็จจริงว่า ไม่ได้มีการปิดถนนทางสัญจร และไม่มีป้ายแจ้งห้ามใช้เส้นทาง หรือป้ายสัญญาณเตือนใดๆ ทำให้ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน ไม่ทราบว่า มีการราดยางมะตอยจึงได้ขับรถเข้าเส้นทางดังกล่าว จนทำให้ยางมะตอย ที่ราดอยู่บนพื้นถนนติดล้อยางทั้งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ และยังทำให้ยางมะตอย ที่ติดล้อยางได้กระเด็นขึ้นมาติดใต้ท้องรถ ใต้ซุ้มล้อ และพื้นผิวสีตัวรถจนทรัพย์สินได้รับความเสียหายเกือบ 200 ราย และยังได้มีการขึ้นไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.เมืองตรัง


ล่าสุดวานนี้ (13 ต.ค.) เพจเฟซบุ๊ก เทศบาลนครตรัง ได้โพสต์ข้อความ ดร.สัญญา ศรีวิเชียร นายกเทศมนตรีนครตรัง สั่งแก้ไขด่วน พร้อมเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ ได้สั่งการให้แก้ไขทันทีและได้กำชับทุกฝ่ายที่รับผิดชอบ ให้ดำเนินการส่วนที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด โดยสั่งการให้ผู้รับจ้างจัดทำป้ายไวนิล “ทางปิด ห้ามเข้า” ตามมาตรฐานก่อสร้างไปติดตั้งที่ทางเข้าถนนรวม 3 จุด คือ ถนนกันตัง ถนนคลองน้ำเจ็ด และถนนวังตอ รวมทั้งให้นำแผงเหล็กหรือแบริเออร์กั้นปิดพื้นที่สร้างถนนแล้วตั้งแต่ช่วงค่ำ วันที่ 12 ต.ค.

ในส่วนของผู้เสียหายหากมีการเรียกร้องค่าเสียหาย ทางเทศบาลยินดีประสานผู้รับจ้างเพื่อชดใช้ค่าเสียหายและเยียวยา ได้เรียกผู้รับจ้างเข้าประชุมเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวในวันที่ 15 ต.ค. เพื่อหาแนวทางเยียวยาผู้เดือดร้อน ซึ่งยังมีผู้เสียหายจากเหตุการณ์ดังกล่าว ขึ้นไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานอย่างต่อเนื่อง


ผู้เสียหายรายหนึ่ง กล่าวว่า เลิกงานขี่รถจักรยานยนต์จะกลับบ้านมาถึงถนนดังกล่าว ไม่มีป้ายเตือนใดๆ ก็ขี่เข้าไปปรากฏว่ารู้สึกว่ารถสัมผัสพื้นแล้วนิ่มๆ จึงจอดรถลงมาดู ปรากฏว่ามียางมะตอยติดเต็มล้อรถ และติดรองเท้าคู่ละ 1,000 กว่าบาทเต็มทั้งคู่จนต้องทิ้ง จนขี่กลับไปถึงบ้านและนั่งเขี่ยยางมะตอยแต่ก็ออกไม่หมดจึงได้นำรถไปเข้าคาร์แคร์ เสียค่าบริการกว่า 500 บาท แต่ก็ไม่สามารถขัดคราบได้ออกทั้งหมด จึงอยากให้ผู้รับผิดชอบออกมาชดใช้ค่าเสียหาย ค่าเสียเวลา ให้กับผู้เสียหายหลายราย

ขณะที่บรรยากาศที่ร้านคาร์แคร์ในเขตเทศบาลนครตรังคึกคัก ผู้เสียหายได้นำรถเข้ามาใช้บริการให้ทางร้านขจัดคราบยางมะตอยออกให้เป็นจำนวนมาก ชาวบ้านสูญเสียค่าใช้จ่ายในการขจัดคราบ รถจักรยานยนต์เริ่มต้นตั้งแต่ 500 บาท รถยนต์เริ่มต้น 1,000 บาท จนถึง 3,000 บาท

นายอัรสิทธิ์ อายุ 42 ปี เจ้าของร้านป้อมคาร์แคร์ กล่าวว่า ตั้งแต่เกิดเหตุนี้มีลูกค้าเข้ามาสอบถามและนำรถเข้ามาไม่ต่ำกว่า 30 คัน แต่ทางร้านรับได้ไม่เยอะ เนื่องจากเมื่อขจัดคราบคันแรกๆ ไปแล้ว รู้เลยว่ามันขจัดยาก บางคันต้องใช้เวลาถึง 6 ชั่วโมงถึงจะออกได้ทั้งหมด.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”