ปราก 10 ธ.ค. – สาธารณรัฐเช็กเตรียมขยายระยะเวลาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินไปจนถึงวันที่ 23 ธันวาคมนี้ หลังพบยอดผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 พุ่งสูงขึ้นอีกครั้ง
ทางการเช็กรายงานว่า วานนี้มียอดผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น 6,402 คน ซึ่งถือเป็นตัวเลขผู้ป่วยสูงสุดตั้งแต่วันที่ 19 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้ป่วยติดเชื้อสะสมราว 563,000 คน และผู้เสียชีวิตกว่า 9,200 คน
นายแยน แบลตนี รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของเช็กกล่าวว่า หากสถานการณ์ระบาดของโรคโควิด-19 ยังคงแย่ลงไปเรื่อย ๆ ทางการอาจต้องประกาศใช้มาตรการที่เข้มงวดอีกครั้งในวันจันทร์หน้า
ก่อนหน้านี้ ทางการเช็กได้ผ่อนคลายมาตรการเข้มงวดบางส่วนในสัปดาห์ที่แล้ว โดยอนุญาตให้ร้านอาหาร บาร์ ร้านขายของขนาดเล็ก พิพิธภัณฑ์ และแกลลอรี่สามารถเปิดบริการได้ รวมถึงการผ่อนคลายมาตรการจำกัดการรวมตัวของประชาชน อย่างไรก็ดี ทางการกลับใช้คำสั่งให้ร้านอาหารต้องปิดบริการหลังเวลา 20.00 น. ตั้งแต่เมื่อวานนี้ ขณะที่ผับหลายแห่งทั่วประเทศฝ่าฝืนมาตรการดังกล่าวด้วยการเปิดร้านต่อไปทั้งที่ล่วงเลยเวลาและอาจเสียค่าปรับจำนวนมาก
ก่อนหน้านี้ รัฐมนตรีเช็กหลายคนถูกวิจารณ์อย่างหนักจากการใช้คำสั่งต่าง ๆ ที่ไม่สัมพันธ์กับมาตรการควบคุมการระบาดระดับ 5 ของรัฐบาลเช็กที่ประกาศใช้ในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ทั้งนี้ เช็กพบยอดผู้ป่วยติดเชื้อรายวันพุ่งสูงขึ้นราว 15,000 คนในช่วงต้นฤดูใบไม้ร่วง และยังคงไม่สามารถควบคุมการระบาดให้ลดลงได้นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา. -สำนักข่าวไทย