รัฐสภา 3 ธ ค.-“เพนกวิน-ไมค์” เข้าแจง กมธ.ป.ป.ช.เหตุถูกอายัดตัวจากเรือนจำและถูกทำร้ายร่างกาย ชี้เป็นการกระทำที่มิชอบด้วยกฎหมาย ทำร้ายผู้เห็นต่างทางการเมือง
นายพริษฐ์ ชีวารักษ์ หรือ เพนกวิน และนายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ สองแกนนำกลุ่มราษฎร เข้าชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร กรณีที่มีผู้ร้องขอให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐจากการควบคุมตัวนายพริษฐ์ และนายภานุพงศ์ จากเรือนจำพิศษกรุงเทพมหานคร ทั้ง ๆ ที่ศาลอาญาไม่อนุญาตให้ฝากขังแล้ว และถูกทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ
นายพริษฐ์ กล่าวว่า ขณะนี้ตนถูกแจ้งความดำเนินคดีแล้ว 26-27 คดี โดยช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ถูกแจ้งข้อหาทั้งหมด 17 คดี เป็นคดีเกี่ยวกับมาตรา 116 และ 112 ซึ่งบางข้อหามองว่าเป็นการแจ้งข้อหาโดยมิชอบ ทำให้ไม่สามารถสู้คดีได้ ส่วนนายภาณุพงศ์ ถูกแจ้งความดำเนินคดีแล้ว 6 คดี ล่าสุด คือ คดีเกี่ยวกับมาตรา 112
สำหรับกรณีที่ศาลอาญาไม่อนุญาตให้ฝากขังเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2563 แต่มีการอายัดตัวเนื่องจากมีคดีที่จังหวัดนนทบุรี ,พระนครศรีอยุธยา และอุบลราชธานี และถูกนำตัวไปที่ สน.ประชาชื่นนั้น นายพริษฐ์ กล่าวว่า วันดังกล่าว ตนได้ร้องพบทนายตามสิทธิขั้นพื้นฐาน เพราะมองว่าเป็นหมายจับที่สิ้นผลไปแล้ว แค่ถูกเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์หลอกล่อว่า น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง ซึ่งถูกแยกขังอยู่ที่ทัณฑสถานหญิงกลาง ยอมไปกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มาขออายัดตัวตนเองกับนายภาณุพงศ์ จึงยอมขึ้นรถไปกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไปที่ สน.ประชาชื่น
ขณะที่นายภาณุพงศ์ กล่าวว่า ก่อนที่จะขึ้นรถไปยัง สน.ประชาชื่น ตนและนายพริษฐ์ ได้ยินเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์พูดว่า “สงสัยต้องใช้กำลัง” จากนั้นมีตำรวจนอกเครื่องแบบ 6 นายมากระชากตัวเพื่อนำขึ้นรถคุมขังผู้ต้องหา โดยไม่ได้แสดงตัวและไม่ได้แสดงหมายจับ จากนั้นมีเจ้าหน้าที่ 3 นายขึ้นรถไปด้วย และได้กดตัวไว้เพื่อไม่ดิ้นและไม่ให้เปิดกระจกรถ ทำให้ตนเป็นลมในที่สุด
นายพริษฐ์ กล่าวด้วยว่า ส่วนเศษกระจกที่บาดตามตัวตนนั้น จำไม่ได้ว่ากระจกแตกจนบาดตามตัวได้อย่างไร เพราะขณะเกิดเหตุชุลมุนกันมาก มารู้ตัวอีกที คือ ถูกนำตัวลงมาจากรถควบคุมผู้ต้องหาแล้วและถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลในเวลาต่อมา ซึ่งระหว่างที่พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลพระราม 9 มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาแสดงหมายจับจาก สภ.พระนครศรีอยุธยา และอุบลราชธานี ทั้งนี้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ระหว่างให้ทีมกฎหมายรวบรวมหลักฐานเพื่อแจ้งความดำเนินคดี ซึ่งขณะนี้ทีมกฎหมายทราบชื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบทั้ง 6 นายแล้ว แต่ยังไม่สามารถหารูปเพื่อให้นายภาณุพงศ์และนายพริษฐ์ ยืนยันตัวบุคคลได้
นายพริษฐ์ กล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกับตนและนายภาณพงศ์ เป็นการกระทำที่มิชอบด้วยกฎหมาย เป็นการทำลายหลักนิติรัฐนิติธรรม และผู้เห็นต่างทางการเมือง พร้อมเรียกร้องกรรมาธิการเรียกตัวบุคคลที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงเพิ่มเติมด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงท้าย มีการโต้เถียงกันระหว่าง น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ กรรมาธิการฯ กับนายภาณุพงศ์และนายพริษฐ์ จนมีถ้อยคำเสียดสีกันไปมา และมีการชี้หน้ากัน ทำให้ น.ส.ปารีณา บอกนายพริษฐ์ว่าห้ามชี้หน้า เพราะไม่ใช่ม็อบ ขณะที่นายพริษฐ์ ตอบกลับว่าที่นี่คือห้องประชุม ไม่ใช่เล้าไก่.-สำนักข่าวไทย